แชร์ประสบการณ์เลวร้ายในการเทรดทอง กับแนวโน้มในอนาคต <<กระทู้ชวนแชร์>>

หลังจากที่ทุกท่านต่างได้เฉลิมฉลองกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่ราคาทองโลกและราคาทองไทยทำสถิติสูงสุดเหนือระดับ 2,000 เหรียญและ 30,000 บาท โดยในขณะที่ทุกคนกำลังยกแก้วดื่มกันอยู่นั้น …เราเชื่อว่า ในใจลึก ๆ ต่างรู้กันดีว่า “มันต้องมีสักวันที่ถูกเทขาย” เพียงแต่ไม่มีใครอยากพูดออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศ แต่หากถ้าทุกคนเลือกที่เก็บไว้ไม่แชร์ออกมา มันอาจกลายเป็นการทำร้ายทางอ้อมกับคนที่ไม่รู้จริง ๆ ดังนั้นในฐานะที่ตัวผมเองเคยประสบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดมาก่อน จึงอยากบอกเล่าให้ทุกคนได้ฟัง รวมถึงแชร์วิธีการรับมือ โดยหากถ้าสิ่งที่พูดนี้ไม่เข้าใจหูใคร ต้องขอประทานอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ



ครั้งไหนและที่แห่งใดในไทยที่ทองคำเคยสร้างบาดแผลเลวร้ายที่สุดเอาไว้

          ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีก่อน (2011) ทองคำได้สร้างเหตุการณ์ที่ทำให้คนทั้งโลก “จำไม่รู้ลืม” โดยหากใครจำได้ ทองคำเคยสร้างจุดสูงสุดไว้ที่ $1920 ก่อนพังทลายลงมาจวบจนปัจจุบัน … แล้วในตอนนั้นเหตุการณ์มันเป็นอย่างไร ผมจะมาแชร์แบบละเอียดในฐานะ 1 คนที่ “อิน” และ “เจ็บ” หนักที่สุด กับการเทรด Gold Futures ในยุคแรกๆ ถ้าพร้อมกันแล้วลองรับฟังกันได้ครับ

รูปแสดงการเคลื่อนไหวของราคาทองในปี 2011 (ตอนกำลังขึ้น)


          จากรูปจะเห็นว่าในช่วงปี 2011 เป็น “ปีทอง” ของจริง โดยราคาค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปีจาก $1300 ไปเป็น $1600 ภายในเวลา 6 เดือน และ กระชากขึ้นอย่างขึ้นแรงไปเป็น $1900 ภายในเวลาแค่เดือนเดียว (สถานการณ์คุ้น ๆ กันไหมครับ?) ซึ่งในตอนนั้นกระแสเรื่องทองถือเป็น Talk of the town อย่างมาก ชนิดที่ว่า ขนาดแม่ค้าทอนเงินยังหันมาถามทิ้งท้ายว่าทองจะขึ้นต่อหรือไม่ หรือแม้กระทั่งนั่งแท็กซี่ก็ไม่วายต้องชวนคุยเรื่องทอง และแน่นอนว่า นอกจากที่เยาวราชแล้ว ตลาดที่ผู้คนตื่นตัวที่สุด คงหนีไม่พ้น “ตลาดทุน” โดยแทบทุกสถาบันการเงินต่างออก Product ที่เกี่ยวกับทองคำทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น การออก ETF ที่อ้างอิงกับราคาทอง หรือกองทุนต่าง ๆ และหนึ่งในตลาดที่นักลงทุนให้ความสนใจเก็งกำไรกับราคาทองมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “TFEX”

รีบเปิดบัญชี TFEX ให้เร็วที่สุด จะได้เปิด Long Gold Futures ทัน เม่าเคาะซื้อ

          ในช่วงนั้นทุก Broker ต่างเปลี่ยนประเด็นสัมมนามามุ่งเน้นเรื่องของ “Gold Futures” กันแทบทั้งหมด และมันบูมถึงขนาดมีคนคิดค้นทฤษฏีการเล่น TFEX อย่างถูกต้องขึ้นมา โดยมี 2 ขั้นตอน คือ 

          1.รีบเปิดบัญชี TFEX ให้เร็วที่สุด และ
          2.รีบเปิด Long Gold Futures ให้เร็วกว่า !

          โดยนี้คือสิ่งที่ถูกสอนกันในสังคมขณะนั้น หลายคนอาจจะมองว่ามันบ้าใช่ไหมครับ ? แต่ถ้าท่านอยู่ในจุดนั้น ท่านไม่กล้าตำหนิออกมาอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาพูดถูก ในช่วงเวลานั้น ตลาด TFEX เปรียบได้ดั่งแหล่งขุมทรัพย์ชนิดที่ว่า ถ้าทำตาม 2 ข้อนั้นได้ โดยอาศัยแค่ศรัทธา มันสามารถเปลี่ยนพอร์ตจากหลักหมื่นเป็นหลักแสน หรือหลักแสนเป็นหลักล้านภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน และตัวผมเองก็เป็น 1 ในนั้น สุดท้ายจึงกลายเป็น 1 ศพจากการถูกสังหารหมู่ โดยมาดูเรื่องราวทั้งหมดกัน



ทองกำลังเข้าสู่ Mania Phase

          นี่คือคำที่ใช้เปรียบเปรยการเคลื่อนไหวของราคาทองในตอนนั้น โดยหากถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็ประมาณ “สภาวะบ้าคลั่ง” ที่แทบทุกสำนักต่างฟันธงเป้าหมายในระดับ $3000 - $5000 ด้วยเหตุผลอย่างเศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย และความต้องการทำ QE (คุ้น ๆ กันอีกแล้วใช่ไหมครับ) โดยทุกคนมีความมั่นใจถึงขีดสุดว่าต้องไปถึงอย่างแน่นอน ! … มาถึงตรงนี้ ทุกท่านคงกำลังสงสัยว่าเราพูดเกินจริงและคิดแทนคนอื่นไปเองหรือเปล่า ? คำตอบ คือไม่ใช่เลย “คนแทบทั้งตลาดคิดเหมือนกันหมด” ถ้าไม่เชื่อ มาดูหลักฐานกัน

รูปแสดงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ Gold Futures เดือน ก.ค.-ส.ค. 2554


          จากรูปจะเห็นว่ากราฟราคา GFZ11 พุ่งขึ้นแทบจะเป็นเส้นตรงวันละประมาณ 1,000 บาท สอดคล้องกับราคาทองโลกในช่วงนั้น ซึ่งนี้คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไรหาก Scale การขึ้นมันเป็นไปตามปกติ แต่สิ่งที่ผิดปกติ คือ “Gold Futures ดันขึ้นแรงกว่าราคาทองจริง” โดยในเวลานั้นราคาทองโลกขึ้นไปสูงสุดที่ $1900 และค่าเงินบาทอยู่ที่ ฿29.8 จึงคิดเป็นราคาทองไทยที่ $1900 x ฿29.8 x 0.473 = 26,800 บาท แต่ในรายของ Gold Futures กลับเทรดนำไปถึง 28,800 บาท ! ต่างกันถึง 2,000 บาท โดยปรากฏการณ์นี้อธิบายได้ง่าย ๆ คือ นักลงทุนในตลาด Futures กำลังมั่นใจอย่างสุดขีดว่าต้องขึ้นต่อ จึงกล้าเทรดนำหน้าไปขนาดนั้น (ประมาณ 100 กว่าเหรียญ) ทีนี่คงเชื่อแล้วใช่ไหมครับ ว่าในช่วงนั้นแทบทุกคนมีมุมมองแบบเดียวกันเกือบทั้งตลาด ซึ่งมันกลายมาเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่ผมและรายย่อยคนอื่น ๆ ที่ซื้อทอง(หรือเปิด Long) ต้องจดจำไปจนวันตาย

24 ส.ค. 54 วันเริ่มต้นของหายนะราคาทองคำ  เม่าจอแดง

           อีกเพียงไม่กี่วันก็จะครบรอบ 9 ปีในวันทองโลกวิปลาส โดยผมจะเล่าเหตุการณ์ในนั้นวันให้ฟังแบบละเอียด ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าตลาดเอเชีย “โชคดี” ที่ราคาทองโลกได้ส่งสัญญาณขายออกมาในช่วงเวลากลางวันบ้านเรา โดยราคาได้ถูกเทขายออกมาราว ๆ 50 เหรียญ ส่งผลให้ราคาทองไทยปรับตัวลดลงตามประมาณ 1,000 บาท แต่ Gold Futures ลดลง 2,000 บาท !! (นักลงทุนที่เคย Trade Premium ไว้ ต่างขายออกมาเพราะเริ่มไม่มั่นใจกับราคา แต่ส่วนตัวผมเชื่อว่า “พวกเขารู้อะไรบางอย่างมา”) จากนั้นราคาชะลอการปรับตัวลง ทำให้มีช่วงเวลาที่ทุกคนได้พักหายใจและ “ตั้งสติ” ในการหาจังหวะถอยออกจากตลาดตามสัญญาณขายที่เกิดขึ้น … 

แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่รายย่อยเมืองไทยคิด !

          สิ่งที่ทุกคนควรทำ คือ ตั้งสติและตัดสินใจ “ถอย” แต่รายย่อยส่วนใหญ่ในวันนั้นกลับเลือกใช้วิธีตั้งสติแล้ว “ถัว” ! โดยใช้เวลาในช่วงภาคบ่ายที่เหลือหาเงินมาเปิดเพิ่ม เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ All In หมดหน้าตัก ! เพราะการปักป้าย Sale กระหน่ำกว่า 2,000 บาท ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงนี้ มีหรือคนไทยจะยอมพลาด และนั่นคือ ความคิดที่ผิดที่สุดที่คนเหล่านั้นไม่มีทางย้อนกลับไปแก้ไขได้ เพราะหลังจากปิดตลาด 5 โมงเย็น … ราคาทองไหลลงอีกกว่า 100 เหรียญ โดยไม่มีใครที่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น แม้กระทั่งโบรกเกอร์ จึงทำให้เกิดการตัดสินใจผิด ๆ อย่างการไล่ Force sell นักลงทุนในทุกระดับราคา ส่งผลให้  Gold Futures ลงมากว่า 4,000 บาท ในช่วงเวลาเพียง 2 วัน 

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

รูปแสดงการเคลื่อนไหวของราคาทองในปี 2011 (ตอนกำลังประคองตัว)


ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปกติในเวลาเพียงไม่กี่วัน เม่าเศร้า

          สรุปแล้วในตอนนั้น หลังจากราคาทองได้ขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุดใหม่เหนือระดับ $1900 และ “Panic Sell” ออกมา 200 เหรียญ มาทำจุดต่ำสุดที่ $1700 โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 วัน ทุกอย่างก็ดูกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาประคองราคา จนกลับไป ณ จุดเดิมหรือใกล้เคียงเดิมได้ในเวลาเพียง 2-3 อาทิตย์ (คุ้น ๆ กันอีกแล้ว … ใช่ไหมครับ ?) ซึ่งในตอนนี้ผู้เล่นทองต่างก็คิดว่าความเลวร้ายทุกอย่างมันจบลงแล้ว ราคาน่าจะกลับมาเป็นขาขึ้นเพื่อเข้าสู่เทรนหลัก … “แต่ทิศทางมันไม่ได้แข็งแรงอีกต่อไปแล้วครับ” เพราะนักลงทุนอาจเริ่มหมดความเชื่อมั่น หรืออาจสงสัยและเริ่มรู้ว่ารายใหญ่ได้ทิ้งของออกมาในการ Panic รอบก่อนแล้ว จึงทำให้ราคาค่อยซึมตัวลง โดยช่วงนี้จะกินเวลาประมาณ 1-2 เดือน 

รูปแสดงการเคลื่อนไหวของราคาทองในปี 2011 (ตอบจบรอบ)


สุดท้ายทุกอย่างก็เฉลย เม่าบาดเจ็บ

          ของที่มันแย่ไปแล้ว มีคนถล่มขายทิ้งหนักแล้ว ประคองไปยังไงก็แย่ … และนี้ภาพสุดท้าย โดยจะสังเกตว่า หลังจากผ่านช่วงหมดความศรัทธาโดยราคาได้พยายามประคองตัวสักพัก ก็เกิดการเทขายอย่างรุนแรงอีกครั้งกว่า 200 เหรียญ หลุด Low เดิมที่เคย Panic และนี้คือจุดจบในรอบขาขึ้นโดยสมบูรณ์แบบของราคาทองคำในครั้งนั้น ซึ่งนี่เป็นประสบการณ์ที่ผมจำได้ขึ้นใจในการเล่นทองปีนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่