รบกวนช่วยแปลภาษาไทยเป็นอังกฤษช่วยเราด้วยค่ะ

Bully free zone : Together we can stop browbeat
ความเป็นมาของคำว่า “Bully”
การบูลลี่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราทุกคนต่างกระทำสิ่งนี้ด้วย “ความเคยชิน” โดยตั้งแต่ยังเด็กก็มีการหยอกล้อหรือแกล้งกันตามประสาของเด็กที่ไร้เดียงสา พอโตมาอีกระดับหนึ่งที่เริ่มมีความรู้มากขึ้น ทำให้การบูลลี่นั้นค่อย ๆ รุนแรงขึ้นถึงขั้นทำให้เกิดการสูญเสีย แม้ว่ามันจะรุนแรงแค่ไหนเราต่างก็ทำมันเพราะคิดว่ามันสนุกและเคยชินกับมัน 
ในด้านสิทธิมนุษยชน หากนำเรื่องของการบูลลี่มาเทียบกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หรือ Universal Declaration Human Rights (UDHR) ซึ่งเป็นหลักสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน30 ข้อ ที่มีขึ้นเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนทั่วโลก เราจะมองเห็นว่าการบูลลี่นั้นเป็นเรื่องของการละเมิดสิทธิของผู้อื่นได้ด้วย

 หยุดการกลั่นแกล้งโดยคำพูด  หยุดกลั่นแกล้งด้วยคำพูด เช่น พูดจาเหยียดหยาม ดูหมิ่น รูปร่างหน้าตา สีผิว รสนิยม เชื้อชาติ ศาสนา ค่านิยม ทัศนคติหรือสถานะทางสังคม รวมถึงด่าทอ ดูถูก นินทา โกหกจนทำให้รู้สึกเจ็บปวดทางใจ 
Slide 4 : การกลั่นแกล้งทางเพศ ไม่เล่นมุขตลกที่เป็นการล้อเลียนเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเปรยให้เห็นภาพ การเล่นคำ ถือได้ว่าเป็นการคุกคามทางเพศเช่นดียวกัน หรือการเล่ามุขตลกที่เกี่ยวกับเรื่องเพศมักจะไม่รุนแรงแต่ถือได้ว่าไม่ควรทำเพราะอาจทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่สบายใจหรืออับอาย

 การกลั่นแกล้งทางร่างกาย ไม่กลั่นแกล้งโดยใช้กำลังทางกายรังแกผู้มีกำลังน้อยกว่า เช่น การเตะ ตี ต่อย ตบ ผลัก และการกระทำทางกายอื่น ๆ จนทำให้เกิดความเสียหายและเจ็บปวดต่อร่างกาย

สรุป Bully  คือ การใช้คำพูดหรือการแสดงท่าทางที่รุนแรงด้วยความตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดความเจ็บปวดทั้งทางกายและจิตใจจนทำให้ผู้ถูกกระทำรู้สึกด้อยคุณค่าหรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่