หากได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่คิวชู กิจกรรมปั่นจักรยานชมเมืองอาริตะ จ.ซากะนั้น เป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ส่วนตัวแล้วเราเองหลังจากที่เคยได้อ่าน ได้เขียนถึงเรื่องอาริตะยากิ หรือเครื่องเคลือบดินเผาเก่าแก่ของเมืองอาริตะมาหลายครั้งหลายครา การได้มาเห็นบรรยากาศเมืองนี้กับตา ก็ทำให้เราเข้าใจเมืองแห่งเครื่องเคลือบดินเผาอายุกว่า 400 ปี ทั้งเรื่องราว และผู้คนในเมืองนี้มากขึ้น 

อย่างที่พอรู้กันมาบ้างว่าเมืองในแถบจังหวัดซากะหลายเมือง เป็นที่ตั้งของเตาเผาโบราณ มีแร่ขาว และดิน ที่เหมาะแก่การปั้น มีการนำภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ รวมทั้งเทคนิคเฉพาะท้องถิ่นนั้นๆ มาไว้ในเครื่องปั้นดินเผาเหล่านี้ โดยเฉพาะที่เมืองอาริตะ เขาสามารถรักษาคอนเซ็ปต์และดึงความสนใจของสิ่งต่างๆ เป็นเครื่องปั้นดินเผาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นป้าย ภาพวาด ในคาเฟ่ แผนที่เี่ยวเมือง หรือทำถนนท่องเที่ยวที่ตลอดสองข้างทางสามารถเดินหรือปั่นจักรยานชมร้านเซรามิก สลับกับภาพตึกโบราณได้เพลินๆ มีศาลเจ้าที่มีเสาโทริอิ เป็นเซรามิกให้แวะสักการะ หรือถ่ายรูปวิวเมืองเพลินๆ เป็นความรู้สึกที่ชวนให้ผ่อนคลาย รู้สึกมีความสุขที่ได้มาเห็นเมืองนี้กับตาตัวเอง



KILN ARITA Tourist Information Centre
เราเริ่มต้นทำความรู้จักเมืองอาริตะกันที่ศูนย์ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวในอาริตะ เดินเท้าจากสถานีรถไฟประมาณ 5 นาที จะพบตู้คอนเทนเนอร์สีแดง เป็นจุดให้ข้อมูล คาเฟ่ จุดวางโบรชัวร์ และจุดเช่าจักรยาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทริปปั่นจักรยานของเรานั่นเอง


จุดหมายแรกของเราอยู่ Gallery Arita 
ที่นี่เป็นจุดเช็คอินคาเฟ่ ร้านอาหารสุดชิคของเมืองอาริตะเลยก็ว่าได้ เป็นสถานที่รวมงานเซรามิกของอาริตะไว้มากกว่า 2,000 ชิ้น ที่นี่เองนักท่องเที่ยวสามารถสั่งเครื่องดื่มโดยการเลือกใส่แก้วเซรามิคใบที่ชอบได้เลย นอกจากจะมีแก้วที่หลากหลายแล้ว ยังมีงานเซรามิกน่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย คนชอบแนวนี้เดินเพลินเลยล่ะจ่ะ



แล้วเราก็ปั่นจักรยานต่อไปตามทาง ทางศูนย์ท่องเที่ยวเขาจะให้แผนที่เรามาด้วยค่ะ สองข้างทางก็จะมีร้านค้าที่จำหน่ายงานเซรามิก คาเฟ่ ที่เวิร์คช็อปเรียงรายไปตลอดสองข้างทาง ต้องวางแผนการปั่นดีๆ จะได้ชมทั่วๆ  นะ

 

ศาลเจ้าโทซัน 
ตั้งอยู่ระหว่างทางที่เราปั่นจักรยานผ่าน ศาลเจ้าแห่งนี้มีเสาโทริอิที่สร้างมาจากเครื่องเคลือบดินเผาโดดเด่นมากกว่าที่ไหนๆ นอกจากเสาโทริอิแล้วยังมีรูปปั้นสิงโต แจกัน โคมไฟ เสาประตู ป้ายศาลเจ้า กลองใหญ่ต่างๆ ก็เป็นเครื่องเคลือบดินเผาเช่นกัน หลังจากชมความงดงามของเสาโทริอิแล้วยังสามารถยืนชมความงามของเมืองอาริตะจากที่นี่ได้อีกด้วย หากเป็นช่วงที่รถไฟผ่านก็สวยไปอีกแบบค่ะ   
 

 

ตลอดเส้นทางการปั่นจักรยานก็สามารถชมกำแพงบ้านโบราณที่สร้างมาจากอิฐ และเครื่องเคลือบดินเผาที่ไม่ได้คุณภาพไปตลอดเส้นทาง ทางการท่องเที่ยวของเมืองมีป้ายให้แวะชมชัดเจน เป็นการปั่นจักรยานไป เที่ยวชมเมืองไปที่สนุกมากๆ มีร้านกาแฟเก๋ๆ ให้นั่งพักระหว่างทางด้วยนะ



Izumiyama Mining Field
ระหว่างทางที่เราปั่นจักรยานจะมีจุดท่องเที่ยวหนึ่งที่เป็นวิวเหมืองแร่ขาวแบบพาโนรามา ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบในการทำเครื่องปั้นดินเผาอาริตะยากิทุกชิ้นนั้นเอง โดยที่นี่ถูกค้นโดยช่างทำเครื่องปั้นดินเผาชาวเกาหลีในปีค.ศ. 1616 ตั้งแต่ต้นสมัยเอโดะโน่น ถึงแม้ปัจจุบันไม่มีการทำเหมืองที่นี่แล้ว แต่ภาพภูเขาที่ถูกขุดก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม และเข้าใจถึงการเดินทางของอาริตะยากิมากขึ้นไปด้วย 


Arita yaki curry  
มาถึงเมืองอาริตะทั้งที ข้าวกล่องรถไฟธรรมดามีที่ไหนล่ะ กล่องข้าวที่นี่เป็นชามเซรามิกที่ใส่ข้าวแกงกะหรี่แบบสำเร็จเพียงอุ่นไมโครเวฟก็รับประทานได้ทันที ตอนที่ไปเป็นชามเซรามิคลายคิตตี้ด้วยนะ คิ้วท์ไปอีก ซึ่งข้าวกล่องรถไฟของอาริตะนี้เคยได้รับการโหวตให้เป็นสุดยอดอาหารกล่องเบนโตะในญี่ปุ่นหลายสมัยเลยด้วย 

ทุกเมืองในญี่ปุ่นก็ล้วนมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจของตัวเอง สำหรับคนที่ชอบงานเซรามิกหรือพวกเครื่องปั้นต่างๆ แวะเที่ยวเมืองอิมาริแล้ว ก็แวะเที่ยวอาริตะต่อได้เลยนะ ทั้งทริปนี้เราใช้ JR Kyushu Rail Pass แบบ 5 วัน เดินทางสะดวกและประหยัดเงินค่ารถไปเยอะเลยค่ะ

---

#เที่ยวตามรอยโบรชัวร์  https://www.facebook.com/JapanBrochure/  


สำหรับคนที่อยากมาชมความคึกคัก แนะนำให้มาวันงานเทศกาลเครื่องเคลือบประจำปีช่วงสิ้นเม.ย.-ต้นพ.ค.ของทุกปี ว่ากันว่าความยิ่งใหญ่ของงานนี้คือในทุกปีจะมีผู้มาร่วมงานกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งที่มีคนมาร่วมงานเยอะ ก็เพราะมีร้านเซรามิก และร้านที่จำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานเครื่องปั้นดินเผาต่างๆ มาร่วมงานกว่า 500 ร้านเลย โดยร้านรวงจะตั้งเรียงไปตามถนนเป็นระยะทางยาว 4 กม. เพื่อจำหน่ายสินค้าในราคาสุดพิเศษ และกิจกรรมสนุกๆ รวมทั้งมุมแสดงนิทรรศการเครื่องปั้นดินเผาของเมืองด้วย
 
ส่วนโบรชัวร์ในปี 2019 ที่ผ่านมา เป็นผลงานการออกแบบของโรงเรียนมัธยมฯ ในพื้นที่ และได้ใช่ทำการโปรโมทเชิญชวนให้ผู้คนเข้าร่วมงานนี้ โดยหวังว่าผู้ที่มาร่วมงานจะสนุกสนานเพลิดเพลิน กับการเข้าชมงานและช้อปสินค้าเครื่องปั้นดินเผาอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองอาริตะติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยซึ่งการได้ชื่นชมบรรยากาศของเมืองที่แสนคึกคัก และเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างหลงใหลในงานเครื่องปั้นดินเผาเหมือนกัน เราว่าก็คงเป็นประสบการณ์ที่น่ารักดีนะ ส่วนสถานที่จัดงานเครื่องปั้นดินเผาที่เมืองอาริตะ คือจากสถานีคามิอาริตะ ถึงสถานีอาริตะ จ.ซากะ ค่ะ

---

สำหรับสายชิลแล้ว เมื่อมีโอกาสมาเยือนที่นี่ แนะนำให้เช่าจักรยานปั่นเที่ยว เพราะสามารถแวะถ่ายรูปตึกเก่า จุดท่องเที่ยวแนะนำ คาเฟ่ ศาลเจ้า รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ได้สะดวกดี หรือถ้าใครมีเวลาก็แนะนำให้ลองทำเซรามิกของตัวเองดู เผื่อจะเป็นอีกหนึ่งในความทรงจำที่น่าประทับใจของการมาเยือนที่เมืองอาริตะแห่งนี้ค่ะ

จบทริปที่เมืองอาริตะแล้ว คราวหน้าไปต่อกันที่เมืองทาเคโอะ จ.ซากะกันค่ะ