สวัสดีเหล่าแฟนคลับBNK48ทุกท่าน
หลังจากที่น้องๆได้ทำการเปิดสเตจใหม่ทั้ง2สเตจเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
ตัวจขกทเลยอยากจะขอเปรียบเทียบข้อแตกต่างและจุดเด่นของทั้ง2สเตจ
โดยขอเริ่มจากวิเคราะห์แบบตื้นๆ(เพราะฟังเนื้อเพลงบ้างเพลงออกไม่หมด)
NV
'Theater no Megami’
Romance Kakurenbo (บันทึกรักจากไดอารี่)
เปิดการแสดงด้วยเพลงของเคงคิวเซย์สาวน้อยผู้พร่ำเพ้อในความรัก มีสำเนียงจีนเบาๆ
ให้นึกถึงเพลงประกอบซี่รี่ส์จีนสมัยก่อน
การที่เปิดตัวเด็กเคงคิวทำให้เพลงนี้กลายเป็นการเวทีที่จะฝึกความมั่นใจและเป็นการวอร์มอารมณ์ขิงคนดูก่อนการแสดงจริงๆจะเริ่มขึ้นได้ดีทีเดียว
Yuuki no Hammer (ลุยเข้าไป)
เพลงแรกหลังเปิดม่าน เป็นเพลงปลุกใจที่เต้นไม่แรงมากแต่ท่าเยอะและยาก(เช่นท่าสกอเปี้ยน) เป็นเพลงที่มีจังหวะชัดเจนสมกับเป็นเพลงแรกที่ปรับจังหวะของทีมให้เท่ากัน ก่อนที่จะเริ่มเพลงต่อๆไป
แปลออกมาดี ฟังง่าย
Inseki no Kakuritsu (ปรากฏการณ์รัก)
เป็นเพลงที่เรียกได้ว่าจขกทชอบที่สุดในทุกๆเพลงของทั้ง2สเตจนี้เลย
เปิดตัวด้วยการถอดชุดด้านนอกออกมาเป็นชุดสีแดง และเปลี่ยนจังหวะเพลงอารมณ์เพลงจากดุดัน ปลุกใจ มาเป็นสดใสน่ารัก นับเป็นการเปิดม่านละครเวทีการเล่าเรื่องธีมความรักของสเตจนี้โดยแท้จริง
ทำนอง เนื้อร้อง ท่าเต้นนี้คือเพลงเกิร์ลกรุ๊ปที่แท้จริง ฟังง่าย เต้นตามได้ง่าย ต่อให้เอามาเป็นซิงหลักก็ยังได้
เนื้อหาเกี่ยวกับรักแรกพบ จนรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังเปลี่ยนไป เป็นเนื้อหาที่คนไทยคุ้นเคยและเข้าใจได้ง่ายเหมือนเพลงpopยุคกามิกาเซ่เลย ถ้าbnkจะมียูนิคใหม่แยกออกมาเพลงนี้คือตัวเลือกที่ดีที่จะเอามาใช้แน่นอน
Ai no Stripper (รักที่อยากปลดเปลื้อง)
เปลี่ยนอารมณ์และอัพบีทขึ้นมาเป็นเพลงแนวเซ็กซี่เบาๆเฟียสๆ เนื้อหาเกี่ยวกับรักที่อยากเปิดเผย มีการแบ่งท่อนร้องคู่ที่ดี ท่าเต้นออกแนวแจ็ส เน้นท่ามือ
Theater no Megami (เทพธิดาเธียเตอร์)
พักการเล่าเรื่องความรักระหว่างบุคคลมาเป็นการเล่าเรื่องความรักกับสถานที่อย่างเธียร์เตอร์
เรียกได้ว่าเป็นOst.ของสเตจนี้อย่างแท้จริง เป็นเพลงเล่าเรื่องความรู้สึกในอิริยาบถต่างๆเกี่ยวกับเธียร์เตอร์+
เพลงแนวน่ารัก ท่าเต้นบล็อกกิ้งเยอะ ดึงอามรณ์ให้สดใส
ทำให้เป็นเพลงที่เหมาะอย่างยิ่งในการเป็นเพลงก่อนการmc
Mc1
- Hatsukoi yo, Konnichiwa (เสียงหัวใจตึกตัก)
เริ่มเพลงยูนิตแรกด้วยเพลงที่มีทำนองชวนให้นึกถึงเพลงเซเลอร์มูน
เนื้อร้องเข้าใจง่าย มีท่อนฮุกติดหู ชุดน่ารักมากกกกกกกก
ท่าเต้นน่ารัก เนื้อหาเด็กสาวที่สบสนในอารมณ์รัก ทำนองเพลงทำให้ดึงอารมณ์ขึ้นจากการพักชมmcได้อย่างดี
- Arashi no Yoru ni wa (ถึงผิดก็ยอม)
ระเบิดปลดปล่อยอารมณ์ให้ถึงขีดสุดด้วยเพลงรักต้องห้ามประจำสเตจ
มีท่อนโชว์เสียงร้องเดี่ยวชัดเจน มีท่อนให้เต้นโซโล่ ท่าเต้นยากและแอบอันตรายพอๆกับเนื้อเพลงที่มีความเร่าร้อนรุนแรง
ถ้าเทียบเป็นกลอนก็เป็นบทอัศจรรย์เลยทีเดียว
ดูแล้วเป็นเพลงที่ฝึกยากที่สุดในสเตจนี้เพราะต้องใช้ทั้งท่าเต้นและร่างกายที่แข็งแรง แอกติ้งการแสดงสีหน้าให้เข้าใจถึงเนื้อหา เสียงร้องไม่ให้หอบในท่อนเดี่ยว และยังต้องฝึกซ้อมไม่ให้ผิดคิวตอนเตะข้ามหัวอีกต่างหาก และจะต้องระวังไม่ให้แสดงอารมณ์ดุดันจนทำให้อารมณ์เพลงเปลี่ยนจากความหลงใหลในความรักเป็นความก้าวร้าวมากเกินไป
- Candy
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากสำหรับเพลงนี้
เป็นเพลงที่เหมือนเป็นน้ำเย็นมาสาดให้อารมณ์สงบจากเพลงที่แล้ว ให้ความรู้สึกสดชี่น
- Locker Room Boy
อัพบีทขึ้นมาเป็นเพลงที่ฟังเข้าใจยากเพราะเนื้อหาและบริบทแตกต่างกับคนไทย เป็นเพลงเล่าถึงการให้หญิงสาวกำลังใจผู้ชาย ต้องใช้ความสามารถและการฝึกเล่าเรื่องเป็นิย่างมาก
- Yokaze no Shiwaza (พระจันทร์เสี้ยว)
ดึงอารมณ์ลงมาให้เศร้าด้วยเพลงโซโล่ที่จะต้องใช้เทคนิคแบบละครเวทีในการเล่าเรื่องสูงให้อารมณ์เหมือนเพลง คืนเต้นรำในพระจันทร์เต็มดวง เนื้อหาน้อยใจ ตัดเพ้อ คนรัก จนพร่ำเพ้อ เป็นเพลงโชว์เสียบร้องและอินเนอร์ เนื้อหาเข้าใจง่ายสามารถเอาไปร้องข้างนอกเธียร์เตอร์ได้อีกเพลง
.
Mc2
.
100 Meter Conbini (สะดวกซื้อ 100 เมตร)
เปิดเพลงหลังจากmcด้วยเพลงติ้ดๆเป็นเพลงที่ใช้ดนตรีสังเคราะห์ที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆในbnk
จังหวะสนุกติดหู แต่เนื้อเพลงเข้าใจยากหน่อย เป็นเพลงที่เน้นเต้น จังหวะกับเนื้อหาคอนทราสกัน พอๆกับเนื้อเรื่องเพลงของสาวซึน ทำสิ่งที่ตัวเองขัดใจเพื่อคนรัก
Suki Suki Suki (ชอบเธอ ชอบเธอ)
ลดจังหวะความติ้ดๆมาเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกเหมือนเพลงpopเก่าๆอีกเพลง เป็นเพลงที่มีการแบ่งท่อนเสียงสลับคนร้องทำให้เปลี่ยนอารมณ์ในเพลง ฟังง่าย เนื้อหาเกี่ยวกับการบอกรักสำหรับคนที่มีคู่รักอยู่แล้ว เป็นการเต็มเติมความหวานในใจ
Sayonara no Kanashibari (หัวใจคนถูกเท)
กลับมาเพิ่มจังหวะในหัวใจด้วยจังหวะร็อค เนื้อหาอาฆาตแค้นในรัก จังหวะติดหู ให้อารมณ์สาวมั่นเฟียสๆ
.
Mc3
.
Shiokaze no Shoutaijou (อ้อมกอดของยาย)
เพลงปิดการเล่าเนื้อหาความรักของสเตจด้วยเพลงความรักของความทรงจำในอดีตและการคำนึงถึง
เป็นเพลงฟังง่าย ฟังสบายๆ เล่าเรื่องบรรยากาศสิ่งแวดล้อม ให้อารมณ์เหมือนฟังเพลงยุคพี่เบิร์ด ด้วยการใช้น้ำเสียงนุ่ม ทำให้ดึงอารมณ์ฟิลกู้ดให้สมกับการปิดเรื่องราวทั้งหมดที่เล่ามา
.
อังกอร์
.
Honest Man
เปิดเพลงหลังอังกอร์ด้วยเพลงเร็ว
เพลงมีท่อนซ้ำบ่อยทำให้ติดหู ให้อารมณ์สดใส ท่าเต้นแนวไอดอลบล็อกกิ้งเยอะ
Team NV Oshi
หลังจากถูกกระตุ้นจากเพลงที่แล้ว ก็ถึงเวลาปล่อยผีกับเพลงเอ็นเตอร์เทนประจำสเตจนี้
ท่อนซ้ำเยอะ เต้นและร้องฟรีสไตล์ เปลี่ยนคนเปลี่ยนรอบจะไม่เหมือนกันแน่นอน ถ้าเพลง Theater no MegamiคือเพลงOst.ของสเตจ เพลง Team NV Oshi ก็คือOst.ของทีม ที่มีความเด่นเรื่องเอ็นเตอร์เทน
Bokutachi no Kamihikouki (เราจะบินไปพร้อมกัน)
นี้คือเพลง365ในเวอร์ชั่นที่เปี่ยมไปด้วยการมุ่งสู่ที่หมายด้วยความมั่นใจ เพลงแนวร็อคแอนด์โรลเบาๆ มีการปาเครื่องบินกระดาษแจก เป็นการปิดสเตจเพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสความสดใสและกลับไปด้วยความสุข
BIII
‘Saishuu Bell ga Naru’
Mammoth
เพลงเปิดสเตจด้วยเสียงดนตรีไวโอลีนให้อารมณ์เหมือนวงออเคสตร้าแสดง มีท่าเต้นแข็งแรง เป็นเพลงแนวปลุกใจเพิ่มความเชื่อมั่น ตามคาแรกเตอร์ของสเตจ มีท่อนเบรกแดนซ์
Saishuu Bell ga Naru (เสียงระฆังแห่งความฝัน)
ดนตีมีความร็อค เต้นหนัก แบ่งท่อนร้องดี มีความหมายเกี่ยวกับการมุ่งไปข้างหน้าพอรวมกับความหมายของเพลงMammoth ทำให้เพิ่มความฮึกเหิมเข้าไปอีก
Boyfriend no Tsukurikata (หลักสูตรความรัก)
เปลี่ยนคาแรกเตอร์เปลี่ยนอารมณ์เพลงจากแข็งแรงดุดันมาเป็นน่ารัก
เพลงออกแนวpopเกิร์ลกรุ๊ปยุค2000ฟังง่ายเหมือนของNV เนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษาความรักแบ่งท่อนร้องเดี่ยวคู่ดีโชว์น้ำเสียงได้ง่าย บล็อกกิ้งเยอะ
แนววันเดอร์เกิร์ล แทงโก้ น่ารักเพลงpopgg2000 แบ่งท่อนร้องเดี่ยวคู่ดี โชว์น้ำเสียงได้ง่าย บล็อกกิ้งเยอะ
Erai Hito ni Naritakunai ((แค่)ไม่อยากเป็นเด็กดี)
อัพบีทเป็นดนตรีร็อกเบา แต่ยังคงคอนเซ็ปท์น่ารักเน้นเล่าเรื่อง อารมณ์ก็ยังคล้ายๆกับเพลงก่อนหน้าที่เหมือนเพลงเกิร์ลกรุ๊ปเก่าๆยุค2000 ถ้า Boyfriend no Tsukurikataคือเด็กตั้งใจอยู่ในกรอบศึกษาเรื่องรัก เพลงนี้ก็คือเด็กที่ดื้อที่ไม่อยากอยู่ในกรอบ อยากหาประสบการณ์ข้างนอก
ดนตรีร็อค น่ารัก เล่าเรื่อง เพลงpopgg2000
มีท่อนคอล
.
Mc1
.
- Return Match
เปิดพาทยูนิตด้วยเพลงที่ให้อารมณ์เซ็กซี่ เน้นการเล่าเรื่อง เย้ายวนใจ ต้องใช้ความตั้งใจในการชมสูง มีท่อนรับส่งเล่นกับเก้าอี้ ค่อนข้างจะอันตราย
- Hatsukoi Dorobou (จอมโจรปล้นรัก)
สลับอารมณ์ด้วยเพลงน่ารักสดใส ดนตรีคล้ายเพลงรักเจ้าเอ๋ย เรียกได้ว่าติดหูเลยที่เดียว แปลออกมาได้ดี เข้าใจง่าย
- Gomenne Jewel (Jewel ในดวงใจ)
อัพบีทขึ้นมาด้วยเพลงที่คล้ายกับเพลงเกิร์ลกรุ๊ปยุคเก่า มีท่อนให้ติดหู มีฮุคที่ดี เนื้อหาเกี่ยวกับความรัก ความคิดถึงเนื้อหาเข้าใจง่าย
- Oshibe to Meshibe to Yoru no Chouchou (ทุ่งดอกไม้ยามรัตติกาล)
มาถึงเพลงที่เรียกว่าเป็นเพลงรักต้องห้ามของสเตจนี้และเรียกได้ว่าทำการแสดงได้ยากที่สุดของทั้ง2สเตจ
เพราะนอกจากจะต้องซ้อมร้องและเต้นให้ดี ยังต้องมีการซ้อมแอกติ้งการแสดงอีก
ด้วยความที่เพลงคู่ทำให้เพลงนี้มีการรับส่งกับคู่แสดงบนเวทีเปรียบเหมือนต้องทำการแสดงละครเวทีไปด้วยและด้วยจำนวนคนที่น้อยทำให้จุดโฟกัสง่ายเหมือนเพลงเดี่ยว และเป็นไฮไลท์ที่ทุกคนเฝ้ารอชมเช่นเดียวกับเพลงanata to christmas eveของสเตจปาตี้, temodemo no namidaในwaiting สเตจ ซึ่งจะต่างจากการแสดงด้วยคนจำนวนเยอะๆที่ต้องโฟกัสกว้างๆ
เนื้อหาเป็นรักต้องห้าม ใช้อินเนอร์แสดงความหลงใหลสูง มีท่าเต้นที่สกินชิปเยอะ
- 18nin Shimai no Uta (18 เสียงของพวกเรา)
ดึงอารมณ์ขึ้นจากเพลงเซ็กซี่ๆด้วยเพลงเอ็นเตอร์เทนประจำสเตจอย่าง18เสียง
มีพูดเปิดเหมือนเพลงพี่เบิร์ด เน้นความวุ่นวายๆ ดนตรีคันทรีติดหู เนื้อหาขายทีมเหมือนnvoshi เป็นเพลงเข้าmcที่ดีทำให้กลายเป็นเพลงที่เปิดจุดอ่อนของทีม แต่แอบค่อยข้างยากถ้าจะต้องเปลี่ยนคนอื่นเข้ามาในยูนิคนี้เพราะต้องซ้อมนัดคิวนัดท่าเต้นประจำตัวให้ตรงกับจังหวะดีๆ
.
Mc2
.
‘Stand Up’
เปิดเพลงหลังmc2ด้วยเพลงดุดัน ท่าเต้นเท่ ทำนองเหมือนยุคบียอนเซ่ เนื้อหาคล้ายคล้ายเพลงเหมืองของnv มีคำเยอะแต่ร้องแบ่งท่อนดี
‘Coolgirl’
ทำให้นึกถึงวันเดอร์เกิร์ล ดนตรีร็อคแอนด์โรล เพลงและท่าเต้นเท่ตามชื่อเพลง ติดหูเป็นอีกเพลงที่เป็นเพลงที่เปิดฟังข้างนอกได้สบายๆ
ท่าเต้นเซ็กซี่ เนื้อหาเกี่ยวกับการระวังที่จะมีความรัก
Kaiyuugyo no Capacity (หมดทั้งใจให้เธอ)
ออกแนวเพลงซิตี้ป็อป เน้นการเล่าเรื่องต้องใช้ความตั้งใจในการฟังสูง มีท่าเต้นดีออกแนวเท่ๆ เล่าเรื่องความเหงาความน้อยใจ ความห่างเหิน ความต้องการกลับมารักอีกครั้ง
Ai ni Ikou (ไปกันมะ เจอกันหน่อย)
นี้คือเพลงเพลงพี่เบิร์ดชัดๆ มาในแนวดิสโก้ ให้ความรู้สึกรีเฟรส ฟิลกู๊ด เนื้อหาเกียวกับเดินทางไปสู้อุปสรรคร่วมกันคนรัก เสียอย่างเดียวตรงท่อนแร็พรัวคำเยอะเกิน
.
อังกอร์
.
Shamu Neko (แมวสยาม)
มีท่อนเปิดที่ดี ดึงความสนใจได้ให้ความรู้สึกเหมือนเพลงostเอวาเกเลียน เพลงติดหูเหมือนเพลงpopเกิร์ลกรุ๊ป ท่าเต้นดีจำง่าย เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับการพรีเช้นต์ตัวเองความซุกซนเปรียบเหมือนแมว
Melos no Michi (เส้นทางแห่งชีวิต)
เพลงแนวซิตี้ป็อปเท่ๆ ท่าเต้นเยอะ ต้องเต้นเร็ว เนื้อหาให้กำลังใจ
Sasae (เราจะเดินไปด้วยกัน)
ถ้าบอกว่า Bokutachi no Kamihikouki ของnvคืออีกเวอร์ชั่นของเพลง365 เพลงSasaeก็คือเพลงซากุระอีกเวอร์ชั่นของbiii
ดนตรีโฟลคซอง แนวคันทรี เนื้อหาตรงใจ เป็นอีกเพลงที่สามารถเปิดฟังข้างนอกได้สบายๆ ถ้าเพลงเพลง Theater no MegamiคือเพลงOst.ของสเตจnv เพลงนี้ก็คือ ost.ของสเตจนี้
สรุป
ทั้ง2ทีมมีจุดเด่นจุดด้อยในสเตจของตัวเองแต่ก็มีเพลงที่ให้โชว์ของและฝึกฝนได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
ไม่ว่าจะเป็นเพลงเซ็กซี่รักต้องห้ามแบบอาราชิและโอชิเบะ
เพลงเอ็นเตอร์เทนปลดปล่อยความบ้าบออย่าง18เสียงและnvoshi
เพลงดุดันดุเดือดแบบเพลงชาวเหมือง เมมมอธ
เพลงpopติดหูอย่างปรากฏการณ์รัก หลักสูตรความรัก
หรือจะเป็นเพลงที่ให้พื้นที่กับเคงคิวเซย์มีส่วนร่วมอย่างบันทึกรักจากไดอารี่ Jewel ในดวงใจ
และสิ่งที่อย่างจะชมมากๆคือทั้งคู่เลือกสเตจได้เข้ากับคาแรกเตอร์ในทีมของตัวเองได้ดี
Nv บ้าบอ mcดี สายเอ็นเตอร์เทน ก็ใช้สเตจที่ทำให้รู้สึกหัวใจนุ่มฟู มีการไล่อารมณ์เพลงในสเตจขึ้นลงเหมือนจังหวะเต้นของหัวใจตอนมีความรัก มีการเล่าเรื่องเกี่ยวกับความแบบต่อเนื่องมีแค่เพลงเรื้อหาอื่นๆมาแทรกช่วงต้นและปลายทำให้เกมาะสำหรับคนดูแบบละครเวที จบการแสดงด้วยความสุขความเชื่อมั่นมุ่งสู่อนาคต
Biii บ้าพลัง ดุดัน มีความทางการ ก็ใช้สเตจก็เลือกเพลงดุดันทรงพลัง มีการไล่อารมณ์แบบเหมือน2เพลงติดและสลับอารมณ์ต่ออีก2เพลงติดให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวที่มีจุดพีคและจุดพัก มีการเล่าเรื่องแบบสลับเนื้อหาความรักกับเพลงให้กำลังใจเหมาะกับการดูแบบคอนเสิร์ต จบสเตจด้วยเพลงที่ให้อารมณ์ซึ้งๆการจากลาที่สวยงาม
นับเป็นการแลกหมัดต่อหมัดอย่างไม่มีใครด้อยไปกว่าใครเลย
รีวิวแบบเจาะตื้นของ2สเตจที่แตกต่าง NVนุ่มฟูในหัวใจกับBIIIผีเสื้อแสนพิศวาส
หลังจากที่น้องๆได้ทำการเปิดสเตจใหม่ทั้ง2สเตจเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
ตัวจขกทเลยอยากจะขอเปรียบเทียบข้อแตกต่างและจุดเด่นของทั้ง2สเตจ
โดยขอเริ่มจากวิเคราะห์แบบตื้นๆ(เพราะฟังเนื้อเพลงบ้างเพลงออกไม่หมด)
NV
'Theater no Megami’
Romance Kakurenbo (บันทึกรักจากไดอารี่)
เปิดการแสดงด้วยเพลงของเคงคิวเซย์สาวน้อยผู้พร่ำเพ้อในความรัก มีสำเนียงจีนเบาๆ
ให้นึกถึงเพลงประกอบซี่รี่ส์จีนสมัยก่อน
การที่เปิดตัวเด็กเคงคิวทำให้เพลงนี้กลายเป็นการเวทีที่จะฝึกความมั่นใจและเป็นการวอร์มอารมณ์ขิงคนดูก่อนการแสดงจริงๆจะเริ่มขึ้นได้ดีทีเดียว
Yuuki no Hammer (ลุยเข้าไป)
เพลงแรกหลังเปิดม่าน เป็นเพลงปลุกใจที่เต้นไม่แรงมากแต่ท่าเยอะและยาก(เช่นท่าสกอเปี้ยน) เป็นเพลงที่มีจังหวะชัดเจนสมกับเป็นเพลงแรกที่ปรับจังหวะของทีมให้เท่ากัน ก่อนที่จะเริ่มเพลงต่อๆไป
แปลออกมาดี ฟังง่าย
Inseki no Kakuritsu (ปรากฏการณ์รัก)
เป็นเพลงที่เรียกได้ว่าจขกทชอบที่สุดในทุกๆเพลงของทั้ง2สเตจนี้เลย
เปิดตัวด้วยการถอดชุดด้านนอกออกมาเป็นชุดสีแดง และเปลี่ยนจังหวะเพลงอารมณ์เพลงจากดุดัน ปลุกใจ มาเป็นสดใสน่ารัก นับเป็นการเปิดม่านละครเวทีการเล่าเรื่องธีมความรักของสเตจนี้โดยแท้จริง
ทำนอง เนื้อร้อง ท่าเต้นนี้คือเพลงเกิร์ลกรุ๊ปที่แท้จริง ฟังง่าย เต้นตามได้ง่าย ต่อให้เอามาเป็นซิงหลักก็ยังได้
เนื้อหาเกี่ยวกับรักแรกพบ จนรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังเปลี่ยนไป เป็นเนื้อหาที่คนไทยคุ้นเคยและเข้าใจได้ง่ายเหมือนเพลงpopยุคกามิกาเซ่เลย ถ้าbnkจะมียูนิคใหม่แยกออกมาเพลงนี้คือตัวเลือกที่ดีที่จะเอามาใช้แน่นอน
Ai no Stripper (รักที่อยากปลดเปลื้อง)
เปลี่ยนอารมณ์และอัพบีทขึ้นมาเป็นเพลงแนวเซ็กซี่เบาๆเฟียสๆ เนื้อหาเกี่ยวกับรักที่อยากเปิดเผย มีการแบ่งท่อนร้องคู่ที่ดี ท่าเต้นออกแนวแจ็ส เน้นท่ามือ
Theater no Megami (เทพธิดาเธียเตอร์)
พักการเล่าเรื่องความรักระหว่างบุคคลมาเป็นการเล่าเรื่องความรักกับสถานที่อย่างเธียร์เตอร์
เรียกได้ว่าเป็นOst.ของสเตจนี้อย่างแท้จริง เป็นเพลงเล่าเรื่องความรู้สึกในอิริยาบถต่างๆเกี่ยวกับเธียร์เตอร์+
เพลงแนวน่ารัก ท่าเต้นบล็อกกิ้งเยอะ ดึงอามรณ์ให้สดใส
ทำให้เป็นเพลงที่เหมาะอย่างยิ่งในการเป็นเพลงก่อนการmc
Mc1
- Hatsukoi yo, Konnichiwa (เสียงหัวใจตึกตัก)
เริ่มเพลงยูนิตแรกด้วยเพลงที่มีทำนองชวนให้นึกถึงเพลงเซเลอร์มูน
เนื้อร้องเข้าใจง่าย มีท่อนฮุกติดหู ชุดน่ารักมากกกกกกกก
ท่าเต้นน่ารัก เนื้อหาเด็กสาวที่สบสนในอารมณ์รัก ทำนองเพลงทำให้ดึงอารมณ์ขึ้นจากการพักชมmcได้อย่างดี
- Arashi no Yoru ni wa (ถึงผิดก็ยอม)
ระเบิดปลดปล่อยอารมณ์ให้ถึงขีดสุดด้วยเพลงรักต้องห้ามประจำสเตจ
มีท่อนโชว์เสียงร้องเดี่ยวชัดเจน มีท่อนให้เต้นโซโล่ ท่าเต้นยากและแอบอันตรายพอๆกับเนื้อเพลงที่มีความเร่าร้อนรุนแรง
ถ้าเทียบเป็นกลอนก็เป็นบทอัศจรรย์เลยทีเดียว
ดูแล้วเป็นเพลงที่ฝึกยากที่สุดในสเตจนี้เพราะต้องใช้ทั้งท่าเต้นและร่างกายที่แข็งแรง แอกติ้งการแสดงสีหน้าให้เข้าใจถึงเนื้อหา เสียงร้องไม่ให้หอบในท่อนเดี่ยว และยังต้องฝึกซ้อมไม่ให้ผิดคิวตอนเตะข้ามหัวอีกต่างหาก และจะต้องระวังไม่ให้แสดงอารมณ์ดุดันจนทำให้อารมณ์เพลงเปลี่ยนจากความหลงใหลในความรักเป็นความก้าวร้าวมากเกินไป
เป็นเพลงที่เหมือนเป็นน้ำเย็นมาสาดให้อารมณ์สงบจากเพลงที่แล้ว ให้ความรู้สึกสดชี่น
- Locker Room Boy
อัพบีทขึ้นมาเป็นเพลงที่ฟังเข้าใจยากเพราะเนื้อหาและบริบทแตกต่างกับคนไทย เป็นเพลงเล่าถึงการให้หญิงสาวกำลังใจผู้ชาย ต้องใช้ความสามารถและการฝึกเล่าเรื่องเป็นิย่างมาก
- Yokaze no Shiwaza (พระจันทร์เสี้ยว)
ดึงอารมณ์ลงมาให้เศร้าด้วยเพลงโซโล่ที่จะต้องใช้เทคนิคแบบละครเวทีในการเล่าเรื่องสูงให้อารมณ์เหมือนเพลง คืนเต้นรำในพระจันทร์เต็มดวง เนื้อหาน้อยใจ ตัดเพ้อ คนรัก จนพร่ำเพ้อ เป็นเพลงโชว์เสียบร้องและอินเนอร์ เนื้อหาเข้าใจง่ายสามารถเอาไปร้องข้างนอกเธียร์เตอร์ได้อีกเพลง
.
Mc2
.
100 Meter Conbini (สะดวกซื้อ 100 เมตร)
เปิดเพลงหลังจากmcด้วยเพลงติ้ดๆเป็นเพลงที่ใช้ดนตรีสังเคราะห์ที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆในbnk
จังหวะสนุกติดหู แต่เนื้อเพลงเข้าใจยากหน่อย เป็นเพลงที่เน้นเต้น จังหวะกับเนื้อหาคอนทราสกัน พอๆกับเนื้อเรื่องเพลงของสาวซึน ทำสิ่งที่ตัวเองขัดใจเพื่อคนรัก
Suki Suki Suki (ชอบเธอ ชอบเธอ)
ลดจังหวะความติ้ดๆมาเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกเหมือนเพลงpopเก่าๆอีกเพลง เป็นเพลงที่มีการแบ่งท่อนเสียงสลับคนร้องทำให้เปลี่ยนอารมณ์ในเพลง ฟังง่าย เนื้อหาเกี่ยวกับการบอกรักสำหรับคนที่มีคู่รักอยู่แล้ว เป็นการเต็มเติมความหวานในใจ
Sayonara no Kanashibari (หัวใจคนถูกเท)
กลับมาเพิ่มจังหวะในหัวใจด้วยจังหวะร็อค เนื้อหาอาฆาตแค้นในรัก จังหวะติดหู ให้อารมณ์สาวมั่นเฟียสๆ
.
Mc3
.
Shiokaze no Shoutaijou (อ้อมกอดของยาย)
เพลงปิดการเล่าเนื้อหาความรักของสเตจด้วยเพลงความรักของความทรงจำในอดีตและการคำนึงถึง
เป็นเพลงฟังง่าย ฟังสบายๆ เล่าเรื่องบรรยากาศสิ่งแวดล้อม ให้อารมณ์เหมือนฟังเพลงยุคพี่เบิร์ด ด้วยการใช้น้ำเสียงนุ่ม ทำให้ดึงอารมณ์ฟิลกู้ดให้สมกับการปิดเรื่องราวทั้งหมดที่เล่ามา
.
อังกอร์
.
Honest Man
เปิดเพลงหลังอังกอร์ด้วยเพลงเร็ว
เพลงมีท่อนซ้ำบ่อยทำให้ติดหู ให้อารมณ์สดใส ท่าเต้นแนวไอดอลบล็อกกิ้งเยอะ
Team NV Oshi
หลังจากถูกกระตุ้นจากเพลงที่แล้ว ก็ถึงเวลาปล่อยผีกับเพลงเอ็นเตอร์เทนประจำสเตจนี้
ท่อนซ้ำเยอะ เต้นและร้องฟรีสไตล์ เปลี่ยนคนเปลี่ยนรอบจะไม่เหมือนกันแน่นอน ถ้าเพลง Theater no MegamiคือเพลงOst.ของสเตจ เพลง Team NV Oshi ก็คือOst.ของทีม ที่มีความเด่นเรื่องเอ็นเตอร์เทน
Bokutachi no Kamihikouki (เราจะบินไปพร้อมกัน)
นี้คือเพลง365ในเวอร์ชั่นที่เปี่ยมไปด้วยการมุ่งสู่ที่หมายด้วยความมั่นใจ เพลงแนวร็อคแอนด์โรลเบาๆ มีการปาเครื่องบินกระดาษแจก เป็นการปิดสเตจเพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสความสดใสและกลับไปด้วยความสุข
BIII
‘Saishuu Bell ga Naru’
Mammoth
เพลงเปิดสเตจด้วยเสียงดนตรีไวโอลีนให้อารมณ์เหมือนวงออเคสตร้าแสดง มีท่าเต้นแข็งแรง เป็นเพลงแนวปลุกใจเพิ่มความเชื่อมั่น ตามคาแรกเตอร์ของสเตจ มีท่อนเบรกแดนซ์
Saishuu Bell ga Naru (เสียงระฆังแห่งความฝัน)
ดนตีมีความร็อค เต้นหนัก แบ่งท่อนร้องดี มีความหมายเกี่ยวกับการมุ่งไปข้างหน้าพอรวมกับความหมายของเพลงMammoth ทำให้เพิ่มความฮึกเหิมเข้าไปอีก
Boyfriend no Tsukurikata (หลักสูตรความรัก)
เปลี่ยนคาแรกเตอร์เปลี่ยนอารมณ์เพลงจากแข็งแรงดุดันมาเป็นน่ารัก
เพลงออกแนวpopเกิร์ลกรุ๊ปยุค2000ฟังง่ายเหมือนของNV เนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษาความรักแบ่งท่อนร้องเดี่ยวคู่ดีโชว์น้ำเสียงได้ง่าย บล็อกกิ้งเยอะ
แนววันเดอร์เกิร์ล แทงโก้ น่ารักเพลงpopgg2000 แบ่งท่อนร้องเดี่ยวคู่ดี โชว์น้ำเสียงได้ง่าย บล็อกกิ้งเยอะ
Erai Hito ni Naritakunai ((แค่)ไม่อยากเป็นเด็กดี)
อัพบีทเป็นดนตรีร็อกเบา แต่ยังคงคอนเซ็ปท์น่ารักเน้นเล่าเรื่อง อารมณ์ก็ยังคล้ายๆกับเพลงก่อนหน้าที่เหมือนเพลงเกิร์ลกรุ๊ปเก่าๆยุค2000 ถ้า Boyfriend no Tsukurikataคือเด็กตั้งใจอยู่ในกรอบศึกษาเรื่องรัก เพลงนี้ก็คือเด็กที่ดื้อที่ไม่อยากอยู่ในกรอบ อยากหาประสบการณ์ข้างนอก
ดนตรีร็อค น่ารัก เล่าเรื่อง เพลงpopgg2000
มีท่อนคอล
.
Mc1
.
- Return Match
เปิดพาทยูนิตด้วยเพลงที่ให้อารมณ์เซ็กซี่ เน้นการเล่าเรื่อง เย้ายวนใจ ต้องใช้ความตั้งใจในการชมสูง มีท่อนรับส่งเล่นกับเก้าอี้ ค่อนข้างจะอันตราย
- Hatsukoi Dorobou (จอมโจรปล้นรัก)
สลับอารมณ์ด้วยเพลงน่ารักสดใส ดนตรีคล้ายเพลงรักเจ้าเอ๋ย เรียกได้ว่าติดหูเลยที่เดียว แปลออกมาได้ดี เข้าใจง่าย
- Gomenne Jewel (Jewel ในดวงใจ)
อัพบีทขึ้นมาด้วยเพลงที่คล้ายกับเพลงเกิร์ลกรุ๊ปยุคเก่า มีท่อนให้ติดหู มีฮุคที่ดี เนื้อหาเกี่ยวกับความรัก ความคิดถึงเนื้อหาเข้าใจง่าย
- Oshibe to Meshibe to Yoru no Chouchou (ทุ่งดอกไม้ยามรัตติกาล)
มาถึงเพลงที่เรียกว่าเป็นเพลงรักต้องห้ามของสเตจนี้และเรียกได้ว่าทำการแสดงได้ยากที่สุดของทั้ง2สเตจ
เพราะนอกจากจะต้องซ้อมร้องและเต้นให้ดี ยังต้องมีการซ้อมแอกติ้งการแสดงอีก
ด้วยความที่เพลงคู่ทำให้เพลงนี้มีการรับส่งกับคู่แสดงบนเวทีเปรียบเหมือนต้องทำการแสดงละครเวทีไปด้วยและด้วยจำนวนคนที่น้อยทำให้จุดโฟกัสง่ายเหมือนเพลงเดี่ยว และเป็นไฮไลท์ที่ทุกคนเฝ้ารอชมเช่นเดียวกับเพลงanata to christmas eveของสเตจปาตี้, temodemo no namidaในwaiting สเตจ ซึ่งจะต่างจากการแสดงด้วยคนจำนวนเยอะๆที่ต้องโฟกัสกว้างๆ
เนื้อหาเป็นรักต้องห้าม ใช้อินเนอร์แสดงความหลงใหลสูง มีท่าเต้นที่สกินชิปเยอะ
- 18nin Shimai no Uta (18 เสียงของพวกเรา)
ดึงอารมณ์ขึ้นจากเพลงเซ็กซี่ๆด้วยเพลงเอ็นเตอร์เทนประจำสเตจอย่าง18เสียง
มีพูดเปิดเหมือนเพลงพี่เบิร์ด เน้นความวุ่นวายๆ ดนตรีคันทรีติดหู เนื้อหาขายทีมเหมือนnvoshi เป็นเพลงเข้าmcที่ดีทำให้กลายเป็นเพลงที่เปิดจุดอ่อนของทีม แต่แอบค่อยข้างยากถ้าจะต้องเปลี่ยนคนอื่นเข้ามาในยูนิคนี้เพราะต้องซ้อมนัดคิวนัดท่าเต้นประจำตัวให้ตรงกับจังหวะดีๆ
.
Mc2
.
‘Stand Up’
เปิดเพลงหลังmc2ด้วยเพลงดุดัน ท่าเต้นเท่ ทำนองเหมือนยุคบียอนเซ่ เนื้อหาคล้ายคล้ายเพลงเหมืองของnv มีคำเยอะแต่ร้องแบ่งท่อนดี
‘Coolgirl’
ทำให้นึกถึงวันเดอร์เกิร์ล ดนตรีร็อคแอนด์โรล เพลงและท่าเต้นเท่ตามชื่อเพลง ติดหูเป็นอีกเพลงที่เป็นเพลงที่เปิดฟังข้างนอกได้สบายๆ
ท่าเต้นเซ็กซี่ เนื้อหาเกี่ยวกับการระวังที่จะมีความรัก
Kaiyuugyo no Capacity (หมดทั้งใจให้เธอ)
ออกแนวเพลงซิตี้ป็อป เน้นการเล่าเรื่องต้องใช้ความตั้งใจในการฟังสูง มีท่าเต้นดีออกแนวเท่ๆ เล่าเรื่องความเหงาความน้อยใจ ความห่างเหิน ความต้องการกลับมารักอีกครั้ง
Ai ni Ikou (ไปกันมะ เจอกันหน่อย)
นี้คือเพลงเพลงพี่เบิร์ดชัดๆ มาในแนวดิสโก้ ให้ความรู้สึกรีเฟรส ฟิลกู๊ด เนื้อหาเกียวกับเดินทางไปสู้อุปสรรคร่วมกันคนรัก เสียอย่างเดียวตรงท่อนแร็พรัวคำเยอะเกิน
.
อังกอร์
.
Shamu Neko (แมวสยาม)
มีท่อนเปิดที่ดี ดึงความสนใจได้ให้ความรู้สึกเหมือนเพลงostเอวาเกเลียน เพลงติดหูเหมือนเพลงpopเกิร์ลกรุ๊ป ท่าเต้นดีจำง่าย เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับการพรีเช้นต์ตัวเองความซุกซนเปรียบเหมือนแมว
Melos no Michi (เส้นทางแห่งชีวิต)
เพลงแนวซิตี้ป็อปเท่ๆ ท่าเต้นเยอะ ต้องเต้นเร็ว เนื้อหาให้กำลังใจ
Sasae (เราจะเดินไปด้วยกัน)
ถ้าบอกว่า Bokutachi no Kamihikouki ของnvคืออีกเวอร์ชั่นของเพลง365 เพลงSasaeก็คือเพลงซากุระอีกเวอร์ชั่นของbiii
ดนตรีโฟลคซอง แนวคันทรี เนื้อหาตรงใจ เป็นอีกเพลงที่สามารถเปิดฟังข้างนอกได้สบายๆ ถ้าเพลงเพลง Theater no MegamiคือเพลงOst.ของสเตจnv เพลงนี้ก็คือ ost.ของสเตจนี้
สรุป
ทั้ง2ทีมมีจุดเด่นจุดด้อยในสเตจของตัวเองแต่ก็มีเพลงที่ให้โชว์ของและฝึกฝนได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
ไม่ว่าจะเป็นเพลงเซ็กซี่รักต้องห้ามแบบอาราชิและโอชิเบะ
เพลงเอ็นเตอร์เทนปลดปล่อยความบ้าบออย่าง18เสียงและnvoshi
เพลงดุดันดุเดือดแบบเพลงชาวเหมือง เมมมอธ
เพลงpopติดหูอย่างปรากฏการณ์รัก หลักสูตรความรัก
หรือจะเป็นเพลงที่ให้พื้นที่กับเคงคิวเซย์มีส่วนร่วมอย่างบันทึกรักจากไดอารี่ Jewel ในดวงใจ
และสิ่งที่อย่างจะชมมากๆคือทั้งคู่เลือกสเตจได้เข้ากับคาแรกเตอร์ในทีมของตัวเองได้ดี
Nv บ้าบอ mcดี สายเอ็นเตอร์เทน ก็ใช้สเตจที่ทำให้รู้สึกหัวใจนุ่มฟู มีการไล่อารมณ์เพลงในสเตจขึ้นลงเหมือนจังหวะเต้นของหัวใจตอนมีความรัก มีการเล่าเรื่องเกี่ยวกับความแบบต่อเนื่องมีแค่เพลงเรื้อหาอื่นๆมาแทรกช่วงต้นและปลายทำให้เกมาะสำหรับคนดูแบบละครเวที จบการแสดงด้วยความสุขความเชื่อมั่นมุ่งสู่อนาคต
Biii บ้าพลัง ดุดัน มีความทางการ ก็ใช้สเตจก็เลือกเพลงดุดันทรงพลัง มีการไล่อารมณ์แบบเหมือน2เพลงติดและสลับอารมณ์ต่ออีก2เพลงติดให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวที่มีจุดพีคและจุดพัก มีการเล่าเรื่องแบบสลับเนื้อหาความรักกับเพลงให้กำลังใจเหมาะกับการดูแบบคอนเสิร์ต จบสเตจด้วยเพลงที่ให้อารมณ์ซึ้งๆการจากลาที่สวยงาม
นับเป็นการแลกหมัดต่อหมัดอย่างไม่มีใครด้อยไปกว่าใครเลย