เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2562 เราได้ย้ายไปทำงานที่พัทยา มีความจำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ต
จึงติดต่อไปทางทรู ซึ่งทรูก็มาไวปานจรวด ส่งคนมาติดตั้งให้อย่างรวดเร็วภายในวันเลย
พร้อมระบุว่าสัญญาอย่างน้อย 1 ปี ต้องจ่ายค่าบริการภายในวันที่ 7 ของเดือน โดยเราชำระงวดแรกไปเรียบร้อย
เริ่มงวดที่ 7 พ.ค. 62 เมื่อครบ 1 ปี คือวันที่ 2 เมษายน 63 เราติดมาตรการ Covid19 ไปไหนไม่ได้ จึงต้องอยู่ต่อ 3 เดือน
เพราะรถโดยสารห้ามวิ่ง พอมาถึงวันที่ 30 มิถุนายน เราได้พยายามโทรไปยัง call center ของทรู พยายามอยู่ 3 วัน
จึงสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ได้ ใน วันที่ 2 ก.ค. 63 เจ้าหน้ารับเรื่องและให้ เจ้าหน้าที่อีกฝ่ายติดต่อกลับ
เมื่อเจ้าหน้าอีกแผนกนึงโทรกลับมา เราจึงแจ้งวัตถุประสงค์ว่าต้องการบอกเลิกสัญญาเพราะเราชำระงวดสุดท้ายคือวันที่ 1 มิถุนายน 63
ซึ่งจะครบกำหนดชำระอีกในวันที่ 7 ก.ค. 63 แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับตอบว่า
เธอไม่มีหน้าที่ระงับสัญญาณ บอกให้เรานำบัตร ปชช. และค่าบริการ อีก 640 บาทไปชำระที่ทรูช้อป 
ซึ่งเวลาดังกล่าวเราพึ่งย้ายจากพัทยากลับต่างจังหวัด อสม.ก็บอกให้เรากักตัว 14 วันตามมาตรการการ์ดอย่าตกของรัฐ
และหมูบ้านที่เราก็อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองประมาณ 160 กม. เราจึงสงสัยว่า ทรู ผู้ซึ่งให้บริการระบบ 4G และอ้างว่ามี 5G บางส่วน 
ยังต้องใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบ 1G อยู่ เมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือน ก็โชว์ค่าบริการว่าเราเป็นหนี้ทรูเพิ่มขึ้นอีก 1 เดือน
เราจึงอยากถาม กสทช.ว่า เหตุใดเมื่อเวลาผู้ประกอบการมีท่าทีจะขาดทุน ทาง กสทช.ก็รีบเสนอเอาเงินภาษี ปชช. ไปเยียวยาผู้ประกอบการ
แต่ตอนที่ผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้ใช้บริการ กสทช. ไปอยู่ที่ไหน หรือจะให้ประเทศไทย เป็นเช่นนี้ต่อไป