นักเทรดโดยเฉพาะนักเทรดมือใหม่ ที่เพิ่งเริ่มจะเทรดไบนารี่ออพชั่น ควรจะรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ง่ายๆ ดังต่อไปนี้ก่อนเป็นอันดับแรก
– Call หรือ Upper : สำหรับคำศัพท์นี้หมายถึงการทำนายว่า ราคาของสินทรัพย์ในอนาคต จะมีราคาขึ้นสูงกว่า จุดปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่แล้วนักเทรดควรที่จะเทรด Upper หรือ Call ก็ต่อเมื่อทิศทางหรือเทรนด์ของกราฟมีทิศทางขึ้น ซึ่งการเลือกเทรด Call ในภาวะของตลาดขาขึ้น ในเวลาที่เหมาะสม จะทำให้ได้กำไรค่อนข้างแน่นอน
– Put หรือ Lower : คำศัพท์นี้หมายถึงการทำนายว่า ราคาของสินทรัพย์ในอนาคต จะมีราคาต่ำกว่าจุดปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่แล้วนักเทรดควรเลือกจังหวะเทรด Put ก็ต่อเมื่อทิศทางของกราฟนั้นดิ่งลงเป็นแนวยาว ซึ่งหากสภาวะของตลาดอยู่ในทิศทางขาลง การเลือกเทรด Put ในเวลาที่เหมาะสมก็จะทำให้ได้กำไรค่อนข้างแน่นอน
– อินดี้ : หรือ อินดิเคเตอร์ เป็นคำศัพท์ที่หมายถึงตัวชี้วัด ซึ่งจะเป็นเครื่องมือช่วยเหลือในการเทรดสินทรัพย์แต่ละตัว โดยมากนักเทรดมืออาชีพมักใช้อินดี้ประมาณ 3-4 ตัวในการตัดสินใจเทรดแต่ละครั้ง
– เปิดสัญญา : หรือจุดที่ทำการเทรด โดยเลือกว่าจะ Call หรือ Put เมื่อทำการเปิดสัญญาแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขได้ ยกเว้นแต่ว่าจะขายสัญญาไป (ซึ่งจะขาดทุน)
– ปิดสัญญา : หรือจุดที่การเทรดสิ้นสุด ตามเวลาที่เลือกทำการเทรด โดยจะเป็นจุดสรุปว่าเทรดเดอร์ จะได้กำไรหรือขาดทุน
– Take Profit : หมายถึงการเทรดแล้วได้กำไร ในการเทรดนั้นๆ ส่วนใหญ่กำไรในการเทรดจะคิดเป็น % ของเงินลงทุนในตานั้น
ข้อมูลอ้างอิงจากเพจ
https://www.facebook.com/TradingSignalsThailand
คำศัพท์ง่ายๆ ที่นักเทรดควรรู้
– Call หรือ Upper : สำหรับคำศัพท์นี้หมายถึงการทำนายว่า ราคาของสินทรัพย์ในอนาคต จะมีราคาขึ้นสูงกว่า จุดปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่แล้วนักเทรดควรที่จะเทรด Upper หรือ Call ก็ต่อเมื่อทิศทางหรือเทรนด์ของกราฟมีทิศทางขึ้น ซึ่งการเลือกเทรด Call ในภาวะของตลาดขาขึ้น ในเวลาที่เหมาะสม จะทำให้ได้กำไรค่อนข้างแน่นอน
– Put หรือ Lower : คำศัพท์นี้หมายถึงการทำนายว่า ราคาของสินทรัพย์ในอนาคต จะมีราคาต่ำกว่าจุดปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่แล้วนักเทรดควรเลือกจังหวะเทรด Put ก็ต่อเมื่อทิศทางของกราฟนั้นดิ่งลงเป็นแนวยาว ซึ่งหากสภาวะของตลาดอยู่ในทิศทางขาลง การเลือกเทรด Put ในเวลาที่เหมาะสมก็จะทำให้ได้กำไรค่อนข้างแน่นอน
– อินดี้ : หรือ อินดิเคเตอร์ เป็นคำศัพท์ที่หมายถึงตัวชี้วัด ซึ่งจะเป็นเครื่องมือช่วยเหลือในการเทรดสินทรัพย์แต่ละตัว โดยมากนักเทรดมืออาชีพมักใช้อินดี้ประมาณ 3-4 ตัวในการตัดสินใจเทรดแต่ละครั้ง
– เปิดสัญญา : หรือจุดที่ทำการเทรด โดยเลือกว่าจะ Call หรือ Put เมื่อทำการเปิดสัญญาแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขได้ ยกเว้นแต่ว่าจะขายสัญญาไป (ซึ่งจะขาดทุน)
– ปิดสัญญา : หรือจุดที่การเทรดสิ้นสุด ตามเวลาที่เลือกทำการเทรด โดยจะเป็นจุดสรุปว่าเทรดเดอร์ จะได้กำไรหรือขาดทุน
– Take Profit : หมายถึงการเทรดแล้วได้กำไร ในการเทรดนั้นๆ ส่วนใหญ่กำไรในการเทรดจะคิดเป็น % ของเงินลงทุนในตานั้น
ข้อมูลอ้างอิงจากเพจ https://www.facebook.com/TradingSignalsThailand