ถุงมือเรื่องสั้นเรื่องที่ 3 และปิดท้ายเกมถุงมือประจำสัปดาห์นี้ เป็นเรื่องสั้นที่ยาว 2 หน้าจึงจบครับ ^^
เรื่องราวของเด็กหญิงผู้มีน้ำใจงามคนหนึ่ง อยู่ในครอบครัวมีฐานะ พ่อปลูกต้นไม้ขาย เด็กหญิงมีเพื่อนผู้อยู่ในครอบครัวยากจน เธอสงสารเห็นใจครอบครัวของเพื่อนและเพื่อน จึงขอต้นดอกไม้จากพ่อไปให้ครอบครัวนั้นไปขาย ซึ่งพ่อของเธอก็ไม่ขัดข้อง
อยู่มาวันหนึ่ง ครอบครัวนั้นก็ย้ายจากไปอยู่ที่อื่นอย่างกระทันหันโดยไม่ทันได้ร่ำลากัน เด็กหญิงจึงฝากต้นดอกไม้ซึ่งให้เพื่อนเป็นประจำให้แก่เพื่อนบ้านที่รู้จักกัน ขอให้เอาไปให้เพื่อนของเธอซึ่งเขาก็รับไว้ จากนั้นเธอจึงปั่นจักรยานกลับบ้านไปด้วยความเศร้า ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้เจอกับเพื่อนรักอีก
จนกระทั่ง...20 ปี ผ่านไป...
จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นต่อไป เด็กหญิงซึ่งโตเป็นสาวแล้วจะได้พบกับเพื่อนเก่าอีกครั้งหรือไม่ และสุดท้ายเรื่องจะจบอย่างไร ??
ตามมาดูกันครับ ^^
ปักษาสวรรค์ : JUNGLE FEVER Bird of Paradise
มีความหมายว่า ให้ความรื่นรมย์ยินดี นำพาสิ่งดี ๆ เรื่องน่ายินดีมาให้กับผู้ครอบครอง
................................................................................................................
คำเตือน. สถานที่และตัวละครในเรื่องนี้เป็นเพียงการสมมุติขึ้นเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
....................................................................................................................................
“พ่อคะ สวนต้นไม้ดอกไม้ของพ่อเยอะแยะขนาดนี้ถ้ามันหายไปต้นสองต้นพ่อจะรู้ไหมคะ ?” เด็กหญิงกอหญ้าวัยสิบขวบถามขึ้นขณะนั่งช่วยพ่อของเธอนำดินใส่กระถางต้นไม้เพื่อแยกต้นอ่อนไม้ดอกให้เป็นหลายต้นเตรียมนำไปส่งร้านขายต้นไม้อีกทอดหนึ่ง
“ไม่รู้หรอกจ้า แต่ไม่มีใครมาขโมยต้นไม้เหล่านี้หรอกกอหญ้า” ผู้เป็นพ่อตอบยิ้ม ๆ
“ทำไมหรือคะพ่อ ?”
“ก็สวนอยู่หลังบ้านเราและอีกอย่างล้อมรั้วมิดชิดขนาดนี้ไม่มีใครคิดจะขโมยหรอกจ้า”
“จริงด้วยค่ะ” เด็กหญิงกอหญ้ามองไปรอบ ๆ เห็นด้วย ทำหน้าสลดลงพลางคิดในใจ แบบนี้เธอก็ไม่สามารถขโมยมันออกไปได้เหมือนกัน เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เหมือนเธอคิดอะไรออก ก็คุยกับพ่อของเธอใหม่
“พ่อคะ ถ้าหนูมาช่วยพ่อทำงานในสวนทุกวันหลังเลิกเรียน หนูขอต้นไม้ต้นเล็ก ๆ พวกนี้ของพ่อ เป็นค่าแรงได้ไหมคะ แค่อาทิตย์ละหนึ่งต้นค่ะ” เด็กหญิงกอหญ้าคิด
“ได้สิ แต่กอหญ้าจะเอาไปทำไม ?” ผู้เป็นบิดาเงยหน้าหันมามองลูกสาวตัวเอง
“ถ้ามันเป็นของหนูแล้ว หนูก็มีสิทธิ์เอาไปให้ใครต่อก็ได้ใช่ไหมคะพ่อ ?” เด็กหญิงกอหญ้ายังไม่ตอบคำถามของบิดาแต่ถามต่อเพื่อให้แน่ใจเสียก่อน
“ใช่ มันเป็นของกอหญ้าแล้ว จะเอาไปให้ใครก็ได้ แต่พ่อก็มีสิทธิ์ต้องรู้ว่าลูกของพ่อจะเอาต้นไม้ไปให้ใครทุกสัปดาห์ แล้วทำไมต้องเลือก
ปักษาสวรรค์ ด้วย ?”
“หนูจะเอาไปให้ หนึ่ง เพื่อนหนูที่โรงเรียนค่ะ ให้หนึ่งเอาไปให้พ่อของเธอเอาไปขายร้านต้นไม้ จะได้มีเงินซื้อข้าวกับอาหารกินค่ะ”
“ทำไมพวกเขาถึงไม่มีเงินล่ะกอหญ้า?”
“หนูไม่รู้ค่ะ แต่หนึ่งบอกว่าแม่ของเธอลื่นล้มในห้องน้ำเลยทำงานไม่ได้ ส่วนพ่อรับจ้างทั่วไปบางวันก็มีคนจ้างบางวันก็ไม่มีคนจ้างค่ะ หนึ่งบอกหนูว่า บางวันก็กิน ปลาทูเค็ม ตัวเดียว สองวันทั้งบ้านเลยค่ะพ่อ”
“แล้วทำไมกอหญ้าไม่ขอค่าแรงเป็นเงิน แทนเอาต้นไม้ไปล่ะลูก ?” ฝ่ายพ่อยังสงสัย
“ค่าแรง พ่อให้หนูวันละ 20 บาท ทั้งอาทิตย์ ก็ 140 บาทเองค่ะ แต่ถ้าหนูเอาต้น ปักษาสวรรค์ ไปให้หนึ่งให้พ่อของเธอเอาไปขาย ก็จะได้ต้นละ 300 บาท เลยนะคะพ่อ ก็พ่อเคยบอกกับหนูว่า ต้นอ่อนสูงหนึ่งไม้บรรทัดขึ้นไปก็ขายได้ต้นละสามร้อย ถ้าโตกว่านี้ขายได้เป็นพันเลยนี่คะ ”
“อ้อ ฉลาดนะนี่ลูกพ่อ” ฝ่ายพ่อยิ้ม
“ตกลงพ่อให้หนูได้ใช่ไหมคะ ?”
“ได้จ้า พ่อแถมให้อีก หนึ่งต้นเลย ถือว่าเป็นกำลังใจที่ลูกของพ่อมีน้ำใจกับเพื่อน”
“จริงหรือคะพ่อ ขอบคุณค่ะ พ่อใจดีที่สุดเลย” กอหญ้าลุกขึ้นกระโดดกอดพ่อของเธอจนเกือบจะพากันล้มแต่พ่อของเธอรู้ล่วงหน้าจึงตั้งรับร่างอ้วนน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานของลูกสาวไว้ได้
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เด็กหญิงกอหญ้าผู้ซึ่งมีหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ผมหยิกงอเป็นฝอยขัดหม้อ ผิวดำไหม้เกรียมแดดลม แดดฝน รูปร่างอ้วนตุ้ยนุ้ยจนเพื่อน ๆ ในโรงเรียนเรียกเธอว่า หมูออมสินเคลื่อนที่ ยกเว้น
หนึ่งฤทัย ที่ไม่เคยมองเธอเป็นตัวตลก และคอยช่วยเหลือกอหญ้าเวลาถูกเพื่อนคนอื่นแกล้ง แต่กอหญ้าก็ไม่เคยโกรธหรือเกลียดเพื่อนคนไหนเลย ในทางกลับกันเธอจะให้ความช่วยเหลือเพื่อนที่เดือดร้อน สอนการบ้านเพื่อนที่ทำไม่ได้เสมอมา เด็กหญิงกอหญ้า จะหิ้วกระถางดอกไม้ ปักษาสวรรค์ สูงขนาดฟุตกว่า ทั้งสองใบใส่หน้ารถจักรยานคันเล็กของเธอเอาไปให้หนึ่งฤทัยที่บ้าน ทุกวันอาทิตย์ ตลอดเวลาห้าเดือนที่กอหญ้าทำเช่นนี้โดยไม่ได้มุ่งหวังสิ่งใดตอบแทนนอกจากอยากช่วยเหลือเพื่อนบ้าง
โดยที่เธอไม่รู้เบื้องหลังว่าพ่อของเธอเองเป็นคนรับซื้อ กระถางดอกไม้ปักษาสวรรค์ เหล่านั้น ทุกครั้งที่พ่อของหนึ่งฤทัยเอาไปขายให้กับร้านขายต้นไม้ ซึ่งพ่อของกอหญ้ารู้จักเจ้าของร้านค้าทุกร้านขายดอกไม้ในละแวกนี้ ได้สั่งไว้ว่า ถ้ามีใครเอา ต้นกล้าดอกปักษาสวรรค์มาขาย ให้รับซื้อไว้ในราคา กระถางละสามร้อยห้าสิบบาท แล้วเขาจะกลับมาซื้อคืนภายหลัง
จนอยู่มาวันหนึ่ง กอหญ้าสังเกตว่าไม่เห็นหนึ่งฤทัยไปโรงเรียนหลายวันแล้ว เธอจึงเฝ้ารอคอยวันอาทิตย์ เพื่อจะได้เอาต้นไม้ไปให้เธอที่บ้าน และจะได้ถามว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมไปโรงเรียน
“พี่กายสวัสดีค่ะ ทำไมบ้านเงียบจังเลย หนึ่งอยู่ไหมคะ ?” กอหญ้าเห็นพี่ชายของหนึ่งฤทัยกำลังง่วนช่วยลุงคนหนึ่งเหมือนจะขนของอะไรบางอย่างขึ้นรถ
“อ้าวหมูออมสิน สวัสดี หนึ่งเขาขึ้นรถอีกคันไปกับพ่อและแม่แล้วล่ะ”
“ไปไหนเหรอคะพี่กาย ?”
“หนึ่งไม่ได้บอกเหรอ ครอบครัวพี่ต้องกลับไปอาศัยอยู่บ้านญาติที่ต่างจังหวัดแล้วล่ะ”
“ทำไมเหรอคะ ?”
“เจ้าของบ้านเค้าจะมายึดบ้านกับที่ตรงนี้คืน เพราะแม่ค้างค่าเช่าเขามาห้าเดือนแล้ว”
“ไม่เห็นหนึ่งบอกลาหนูเลยค่ะ” กอหญ้าพูดเสียงเศร้าเบะหน้าเสียกำลังทำท่าจะร้องไห้
“หนึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าต้องย้ายวันนี้ เห็นขอพ่อกับแม่อยู่ว่าจะไปบอกลากอหญ้า แต่ลุงเจ้าของรถรับจ้างบอกต้องออกรถตอนนี้เลยไม่มีเวลาแล้วจะได้ไม่ไปถึงดึกเกินไปน่ะ ไว้พี่จะให้หนึ่งเขียนจดหมายไปหาหมูออมสินนะ” สกายพี่ชายของหนึ่งฤทัยพูดปลอบ
“ค่ะ งั้นหนูฝากต้นไม้สองต้นนี้เอาไปให้หนึ่งได้ไหมคะพี่กาย ?” กอหญ้ายื่นกระถางดอกไม้ปักษาสวรรค์ที่มีแต่ใบให้กับสกาย
“ได้สิ ครอบครัวพี่ต้องขอบคุณหมูออมสินมากเลยนะที่เอาต้นไม้มาให้พ่อพี่เอาไปขายทุกอาทิตย์เลย”
“หนูอยากช่วยหนึ่งค่ะ” กอหญ้าพูดน้ำตาซึม อดหวั่นไหวไม่ได้ที่จะไม่ได้เจอหน้าเพื่อนของเธออีก
“ช่วยได้เยอะมาก เงินที่ขายต้นไม้ของหมูออมสินทำให้พวกพี่มีเงินซื้อข้าวกินในบางมื้อ ขอบคุณมากนะ หมูออมสิน” สกายมองหน้าเด็กอ้วนกลมผมหยิกผิวคล้ำเกรียมแดด ด้วยสายตาอาทรไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะคิดทำแบบนี้ได้ มันดูจะเป็นความคิดของผู้ใหญ่มากกว่า
“หนูกลับก่อนนะคะ พี่กายอย่าลืมบอกให้หนึ่งเขียนจดหมายมาหาหนูบ้างนะคะ สวัสดีค่ะ” กอหญ้าสวัสดีสกายแล้วเดินกลับไปที่รถจักรยานของตัวเอง ปั่นกลับบ้านไปด้วยหัวใจห่อเหี่ยว และนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้ติดต่อกับครอบครัวนี้ เพราะว่าเธอลืมเขียนที่อยู่ของเธอให้ไปนั่นเอง
......................................
20 ปีต่อมา
“ขอโทษนะคะ มีใครอยู่ในบ้านไหมคะ ?” หญิงสาวสองคนสวมสูทหรูราคาแพงก้าวลงจากรถยนต์ราคาหลักล้านยืนตะโกนถามเข้าไปในบ้านไม้สองชั้นหลังหนึ่งอยู่หน้าประตูรั้วไม้ไผ่ที่ไม่มีกระดิ่งให้กด
“มาหาใครเหรอคะ” กอหญ้าเปิดประตูบ้านชั้นสองเดินลงบันไดมายังหน้าบ้าน
“ขอโทษนะคะ นี่ใช่บ้านคุณชนาเทพ มั่งมีโชค ไหมคะ?”
“ใช่ค่ะ บ้านคุณพ่อฉันเองค่ะ แต่ตอนนี้ท่านไม่อยู่นะคะ ไปทำบุญที่วัด คงกลับมาช่วงบ่ายเลยค่ะ”
“เฮ้อ...เจอจนได้ ถ้างั้น คุณคงจะเป็นลูกสาว ชื่อ กฤตติกา มั่งมีโชค หรือว่า กอหญ้า ใช่ไหมคะ ?” หญิงสาวทั้งสองทำสีหน้าโล่งอกยิ้มแป้นดีใจจนออกนอกหน้า
“ใช่ค่ะ แต่ขอโทษนะคะ พวกคุณเป็นใครหรือคะ ?”กอหญ้าถามกลับสงสัยมากขึ้นขมวดคิ้วเข้าหากัน
“คือ เราเป็นตัวแทนมาจาก
สมาพันธ์การค้าอัญมณีระดับโลกค่ะ จะเป็นการรบกวนไหมคะถ้าเราจะขออนุญาตเข้าไปคุยในบ้าน” หญิงสาวคนหนึ่งยื่นนามบัตรของตัวเองให้กับกอหญ้า ด้วยท่าทางไว้ใจได้ กอหญ้าจึงเชิญเธอทั้งสองคนเข้าไปคุยในบ้าน
“เราสองคนไปตามหาคุณกอหญ้าที่บ้านประชาชื่น แต่เจ้าของบ้านคนใหม่บอกเขาซื้อต่อจากคนเก่ามาเกือบจะสิบปีแล้ว”
“ใช่ค่ะ คุณพ่อคุณแม่และฉันย้ายมาอยู่บ้านที่ระยองนานแล้ว เชิญนั่งและดื่มน้ำก่อนค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวทั้งสองกล่าวขอบคุณขึ้นพร้อมกัน
“คุณทั้งสองมีธุระอะไรกับฉันหรือคะ ถึงได้ตามมาถึงที่นี่ ?”
“เราจะมาขอให้คุณกอหญ้า ช่วยสวมอัญมณีชุดนี้ ในงานการกุศลที่เรากำลังระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ซึ่งปีนี้ถึงคิวของประเทศไทยเราได้โอกาสนี้แล้วนะคะ ถือว่าได้ช่วยเหลือชาวไทยด้วยกัน” ยื่นรูปภาพชุดอัญมณีให้กับกอหญ้าดู
“เดี๋ยวค่ะฉันไม่เข้าใจ แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยคะ ?”
“คือว่า สองพี่น้องนักออกแบบอัญมณีระดับโลกเขาระบุมาว่า ต้องเป็นคุณเท่านั้น ที่จะสวมใส่อัญมณีชุดนี้ในงานครั้งนี้ค่ะ”
“สองพี่น้องไหนคะ ฉันไม่รู้จัก ?” กอหญ้ายิ่งสงสัยมากขึ้น
“นี่ค่ะเผื่อคุณกอหญ้าจะจำได้” ยื่นนิตยสารเล่มหนาส่งให้กอหญ้าดู ปกนิตยสารเป็นสองพี่น้องหน้าตาคุ้นเคยคลับคล้ายคลับคลาแต่ไม่มั่นใจ ทว่าสายตากลับไปสะดุดชื่อและนามสกุลของทั้งสองคนทำให้กอหญ้าแทบช็อคตากลมโตขนลุกซู่ไปทั้งตัว เงยหน้าขึ้นไปมองสตรีทั้งสองสลับกันไปมา
สกาย & หนึ่งฤทัย เพิ่มสมบัติ
++++++++
“ตอนนี้เรามาถึงอัญมณีชิ้นสุดท้ายสำหรับงานนี้แล้วครับ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ อัญมณีชุดนี้เป็นการออกแบบอย่างปราณีตงดงามจากสองพี่น้องนักออกแบบชื่อดังระดับโลกที่ทุกท่านรู้จักกันดี ซึ่งอัญมณีชุดนี้มีเพียง สอง ชุดบนโลกใบนี้เท่านั้น อัญมณีชุดนี้มีชื่อว่า
Jungle fever bird of paradise หรือ [
url]ปักษาสวรรค์ ซึ่งมีความหมายว่า
ให้ความรื่นรมย์ยินดี นำพาสิ่งดี ๆ เรื่องน่ายินดีมาให้กับผู้ครอบครอง นั่นเองครับ และทางเราได้รับเกียรติอย่างสูงจากนางแบบกิตติมศักดิ์ที่เราใช้เวลาตามหาเธอถึงครึ่งปีเลยครับ ตอนนี้ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอย ขอเชิญชมได้เลยครับ”
(มีต่อครับ) ^^
🕊️🦅🌼 THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น # 18 สัปดาห์ที่ 7 : 10-14 กรกฎาคม "ปักษาสวรรค์" โดย ถุงมือ "อัครมณี" 🌼🦅🕊️
เรื่องราวของเด็กหญิงผู้มีน้ำใจงามคนหนึ่ง อยู่ในครอบครัวมีฐานะ พ่อปลูกต้นไม้ขาย เด็กหญิงมีเพื่อนผู้อยู่ในครอบครัวยากจน เธอสงสารเห็นใจครอบครัวของเพื่อนและเพื่อน จึงขอต้นดอกไม้จากพ่อไปให้ครอบครัวนั้นไปขาย ซึ่งพ่อของเธอก็ไม่ขัดข้อง
อยู่มาวันหนึ่ง ครอบครัวนั้นก็ย้ายจากไปอยู่ที่อื่นอย่างกระทันหันโดยไม่ทันได้ร่ำลากัน เด็กหญิงจึงฝากต้นดอกไม้ซึ่งให้เพื่อนเป็นประจำให้แก่เพื่อนบ้านที่รู้จักกัน ขอให้เอาไปให้เพื่อนของเธอซึ่งเขาก็รับไว้ จากนั้นเธอจึงปั่นจักรยานกลับบ้านไปด้วยความเศร้า ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้เจอกับเพื่อนรักอีก
จนกระทั่ง...20 ปี ผ่านไป...
จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นต่อไป เด็กหญิงซึ่งโตเป็นสาวแล้วจะได้พบกับเพื่อนเก่าอีกครั้งหรือไม่ และสุดท้ายเรื่องจะจบอย่างไร ??
ตามมาดูกันครับ ^^
ปักษาสวรรค์ : JUNGLE FEVER Bird of Paradise
มีความหมายว่า ให้ความรื่นรมย์ยินดี นำพาสิ่งดี ๆ เรื่องน่ายินดีมาให้กับผู้ครอบครอง
................................................................................................................
คำเตือน. สถานที่และตัวละครในเรื่องนี้เป็นเพียงการสมมุติขึ้นเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
....................................................................................................................................
“พ่อคะ สวนต้นไม้ดอกไม้ของพ่อเยอะแยะขนาดนี้ถ้ามันหายไปต้นสองต้นพ่อจะรู้ไหมคะ ?” เด็กหญิงกอหญ้าวัยสิบขวบถามขึ้นขณะนั่งช่วยพ่อของเธอนำดินใส่กระถางต้นไม้เพื่อแยกต้นอ่อนไม้ดอกให้เป็นหลายต้นเตรียมนำไปส่งร้านขายต้นไม้อีกทอดหนึ่ง
“ไม่รู้หรอกจ้า แต่ไม่มีใครมาขโมยต้นไม้เหล่านี้หรอกกอหญ้า” ผู้เป็นพ่อตอบยิ้ม ๆ
“ทำไมหรือคะพ่อ ?”
“ก็สวนอยู่หลังบ้านเราและอีกอย่างล้อมรั้วมิดชิดขนาดนี้ไม่มีใครคิดจะขโมยหรอกจ้า”
“จริงด้วยค่ะ” เด็กหญิงกอหญ้ามองไปรอบ ๆ เห็นด้วย ทำหน้าสลดลงพลางคิดในใจ แบบนี้เธอก็ไม่สามารถขโมยมันออกไปได้เหมือนกัน เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เหมือนเธอคิดอะไรออก ก็คุยกับพ่อของเธอใหม่
“พ่อคะ ถ้าหนูมาช่วยพ่อทำงานในสวนทุกวันหลังเลิกเรียน หนูขอต้นไม้ต้นเล็ก ๆ พวกนี้ของพ่อ เป็นค่าแรงได้ไหมคะ แค่อาทิตย์ละหนึ่งต้นค่ะ” เด็กหญิงกอหญ้าคิด
“ได้สิ แต่กอหญ้าจะเอาไปทำไม ?” ผู้เป็นบิดาเงยหน้าหันมามองลูกสาวตัวเอง
“ถ้ามันเป็นของหนูแล้ว หนูก็มีสิทธิ์เอาไปให้ใครต่อก็ได้ใช่ไหมคะพ่อ ?” เด็กหญิงกอหญ้ายังไม่ตอบคำถามของบิดาแต่ถามต่อเพื่อให้แน่ใจเสียก่อน
“ใช่ มันเป็นของกอหญ้าแล้ว จะเอาไปให้ใครก็ได้ แต่พ่อก็มีสิทธิ์ต้องรู้ว่าลูกของพ่อจะเอาต้นไม้ไปให้ใครทุกสัปดาห์ แล้วทำไมต้องเลือก ปักษาสวรรค์ ด้วย ?”
“หนูจะเอาไปให้ หนึ่ง เพื่อนหนูที่โรงเรียนค่ะ ให้หนึ่งเอาไปให้พ่อของเธอเอาไปขายร้านต้นไม้ จะได้มีเงินซื้อข้าวกับอาหารกินค่ะ”
“ทำไมพวกเขาถึงไม่มีเงินล่ะกอหญ้า?”
“หนูไม่รู้ค่ะ แต่หนึ่งบอกว่าแม่ของเธอลื่นล้มในห้องน้ำเลยทำงานไม่ได้ ส่วนพ่อรับจ้างทั่วไปบางวันก็มีคนจ้างบางวันก็ไม่มีคนจ้างค่ะ หนึ่งบอกหนูว่า บางวันก็กิน ปลาทูเค็ม ตัวเดียว สองวันทั้งบ้านเลยค่ะพ่อ”
“แล้วทำไมกอหญ้าไม่ขอค่าแรงเป็นเงิน แทนเอาต้นไม้ไปล่ะลูก ?” ฝ่ายพ่อยังสงสัย
“ค่าแรง พ่อให้หนูวันละ 20 บาท ทั้งอาทิตย์ ก็ 140 บาทเองค่ะ แต่ถ้าหนูเอาต้น ปักษาสวรรค์ ไปให้หนึ่งให้พ่อของเธอเอาไปขาย ก็จะได้ต้นละ 300 บาท เลยนะคะพ่อ ก็พ่อเคยบอกกับหนูว่า ต้นอ่อนสูงหนึ่งไม้บรรทัดขึ้นไปก็ขายได้ต้นละสามร้อย ถ้าโตกว่านี้ขายได้เป็นพันเลยนี่คะ ”
“อ้อ ฉลาดนะนี่ลูกพ่อ” ฝ่ายพ่อยิ้ม
“ตกลงพ่อให้หนูได้ใช่ไหมคะ ?”
“ได้จ้า พ่อแถมให้อีก หนึ่งต้นเลย ถือว่าเป็นกำลังใจที่ลูกของพ่อมีน้ำใจกับเพื่อน”
“จริงหรือคะพ่อ ขอบคุณค่ะ พ่อใจดีที่สุดเลย” กอหญ้าลุกขึ้นกระโดดกอดพ่อของเธอจนเกือบจะพากันล้มแต่พ่อของเธอรู้ล่วงหน้าจึงตั้งรับร่างอ้วนน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานของลูกสาวไว้ได้
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เด็กหญิงกอหญ้าผู้ซึ่งมีหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ผมหยิกงอเป็นฝอยขัดหม้อ ผิวดำไหม้เกรียมแดดลม แดดฝน รูปร่างอ้วนตุ้ยนุ้ยจนเพื่อน ๆ ในโรงเรียนเรียกเธอว่า หมูออมสินเคลื่อนที่ ยกเว้น หนึ่งฤทัย ที่ไม่เคยมองเธอเป็นตัวตลก และคอยช่วยเหลือกอหญ้าเวลาถูกเพื่อนคนอื่นแกล้ง แต่กอหญ้าก็ไม่เคยโกรธหรือเกลียดเพื่อนคนไหนเลย ในทางกลับกันเธอจะให้ความช่วยเหลือเพื่อนที่เดือดร้อน สอนการบ้านเพื่อนที่ทำไม่ได้เสมอมา เด็กหญิงกอหญ้า จะหิ้วกระถางดอกไม้ ปักษาสวรรค์ สูงขนาดฟุตกว่า ทั้งสองใบใส่หน้ารถจักรยานคันเล็กของเธอเอาไปให้หนึ่งฤทัยที่บ้าน ทุกวันอาทิตย์ ตลอดเวลาห้าเดือนที่กอหญ้าทำเช่นนี้โดยไม่ได้มุ่งหวังสิ่งใดตอบแทนนอกจากอยากช่วยเหลือเพื่อนบ้าง
โดยที่เธอไม่รู้เบื้องหลังว่าพ่อของเธอเองเป็นคนรับซื้อ กระถางดอกไม้ปักษาสวรรค์ เหล่านั้น ทุกครั้งที่พ่อของหนึ่งฤทัยเอาไปขายให้กับร้านขายต้นไม้ ซึ่งพ่อของกอหญ้ารู้จักเจ้าของร้านค้าทุกร้านขายดอกไม้ในละแวกนี้ ได้สั่งไว้ว่า ถ้ามีใครเอา ต้นกล้าดอกปักษาสวรรค์มาขาย ให้รับซื้อไว้ในราคา กระถางละสามร้อยห้าสิบบาท แล้วเขาจะกลับมาซื้อคืนภายหลัง
จนอยู่มาวันหนึ่ง กอหญ้าสังเกตว่าไม่เห็นหนึ่งฤทัยไปโรงเรียนหลายวันแล้ว เธอจึงเฝ้ารอคอยวันอาทิตย์ เพื่อจะได้เอาต้นไม้ไปให้เธอที่บ้าน และจะได้ถามว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมไปโรงเรียน
“พี่กายสวัสดีค่ะ ทำไมบ้านเงียบจังเลย หนึ่งอยู่ไหมคะ ?” กอหญ้าเห็นพี่ชายของหนึ่งฤทัยกำลังง่วนช่วยลุงคนหนึ่งเหมือนจะขนของอะไรบางอย่างขึ้นรถ
“อ้าวหมูออมสิน สวัสดี หนึ่งเขาขึ้นรถอีกคันไปกับพ่อและแม่แล้วล่ะ”
“ไปไหนเหรอคะพี่กาย ?”
“หนึ่งไม่ได้บอกเหรอ ครอบครัวพี่ต้องกลับไปอาศัยอยู่บ้านญาติที่ต่างจังหวัดแล้วล่ะ”
“ทำไมเหรอคะ ?”
“เจ้าของบ้านเค้าจะมายึดบ้านกับที่ตรงนี้คืน เพราะแม่ค้างค่าเช่าเขามาห้าเดือนแล้ว”
“ไม่เห็นหนึ่งบอกลาหนูเลยค่ะ” กอหญ้าพูดเสียงเศร้าเบะหน้าเสียกำลังทำท่าจะร้องไห้
“หนึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าต้องย้ายวันนี้ เห็นขอพ่อกับแม่อยู่ว่าจะไปบอกลากอหญ้า แต่ลุงเจ้าของรถรับจ้างบอกต้องออกรถตอนนี้เลยไม่มีเวลาแล้วจะได้ไม่ไปถึงดึกเกินไปน่ะ ไว้พี่จะให้หนึ่งเขียนจดหมายไปหาหมูออมสินนะ” สกายพี่ชายของหนึ่งฤทัยพูดปลอบ
“ค่ะ งั้นหนูฝากต้นไม้สองต้นนี้เอาไปให้หนึ่งได้ไหมคะพี่กาย ?” กอหญ้ายื่นกระถางดอกไม้ปักษาสวรรค์ที่มีแต่ใบให้กับสกาย
“ได้สิ ครอบครัวพี่ต้องขอบคุณหมูออมสินมากเลยนะที่เอาต้นไม้มาให้พ่อพี่เอาไปขายทุกอาทิตย์เลย”
“หนูอยากช่วยหนึ่งค่ะ” กอหญ้าพูดน้ำตาซึม อดหวั่นไหวไม่ได้ที่จะไม่ได้เจอหน้าเพื่อนของเธออีก
“ช่วยได้เยอะมาก เงินที่ขายต้นไม้ของหมูออมสินทำให้พวกพี่มีเงินซื้อข้าวกินในบางมื้อ ขอบคุณมากนะ หมูออมสิน” สกายมองหน้าเด็กอ้วนกลมผมหยิกผิวคล้ำเกรียมแดด ด้วยสายตาอาทรไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะคิดทำแบบนี้ได้ มันดูจะเป็นความคิดของผู้ใหญ่มากกว่า
“หนูกลับก่อนนะคะ พี่กายอย่าลืมบอกให้หนึ่งเขียนจดหมายมาหาหนูบ้างนะคะ สวัสดีค่ะ” กอหญ้าสวัสดีสกายแล้วเดินกลับไปที่รถจักรยานของตัวเอง ปั่นกลับบ้านไปด้วยหัวใจห่อเหี่ยว และนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้ติดต่อกับครอบครัวนี้ เพราะว่าเธอลืมเขียนที่อยู่ของเธอให้ไปนั่นเอง
......................................
20 ปีต่อมา
“ขอโทษนะคะ มีใครอยู่ในบ้านไหมคะ ?” หญิงสาวสองคนสวมสูทหรูราคาแพงก้าวลงจากรถยนต์ราคาหลักล้านยืนตะโกนถามเข้าไปในบ้านไม้สองชั้นหลังหนึ่งอยู่หน้าประตูรั้วไม้ไผ่ที่ไม่มีกระดิ่งให้กด
“มาหาใครเหรอคะ” กอหญ้าเปิดประตูบ้านชั้นสองเดินลงบันไดมายังหน้าบ้าน
“ขอโทษนะคะ นี่ใช่บ้านคุณชนาเทพ มั่งมีโชค ไหมคะ?”
“ใช่ค่ะ บ้านคุณพ่อฉันเองค่ะ แต่ตอนนี้ท่านไม่อยู่นะคะ ไปทำบุญที่วัด คงกลับมาช่วงบ่ายเลยค่ะ”
“เฮ้อ...เจอจนได้ ถ้างั้น คุณคงจะเป็นลูกสาว ชื่อ กฤตติกา มั่งมีโชค หรือว่า กอหญ้า ใช่ไหมคะ ?” หญิงสาวทั้งสองทำสีหน้าโล่งอกยิ้มแป้นดีใจจนออกนอกหน้า
“ใช่ค่ะ แต่ขอโทษนะคะ พวกคุณเป็นใครหรือคะ ?”กอหญ้าถามกลับสงสัยมากขึ้นขมวดคิ้วเข้าหากัน
“คือ เราเป็นตัวแทนมาจากสมาพันธ์การค้าอัญมณีระดับโลกค่ะ จะเป็นการรบกวนไหมคะถ้าเราจะขออนุญาตเข้าไปคุยในบ้าน” หญิงสาวคนหนึ่งยื่นนามบัตรของตัวเองให้กับกอหญ้า ด้วยท่าทางไว้ใจได้ กอหญ้าจึงเชิญเธอทั้งสองคนเข้าไปคุยในบ้าน
“เราสองคนไปตามหาคุณกอหญ้าที่บ้านประชาชื่น แต่เจ้าของบ้านคนใหม่บอกเขาซื้อต่อจากคนเก่ามาเกือบจะสิบปีแล้ว”
“ใช่ค่ะ คุณพ่อคุณแม่และฉันย้ายมาอยู่บ้านที่ระยองนานแล้ว เชิญนั่งและดื่มน้ำก่อนค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวทั้งสองกล่าวขอบคุณขึ้นพร้อมกัน
“คุณทั้งสองมีธุระอะไรกับฉันหรือคะ ถึงได้ตามมาถึงที่นี่ ?”
“เราจะมาขอให้คุณกอหญ้า ช่วยสวมอัญมณีชุดนี้ ในงานการกุศลที่เรากำลังระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ซึ่งปีนี้ถึงคิวของประเทศไทยเราได้โอกาสนี้แล้วนะคะ ถือว่าได้ช่วยเหลือชาวไทยด้วยกัน” ยื่นรูปภาพชุดอัญมณีให้กับกอหญ้าดู
“เดี๋ยวค่ะฉันไม่เข้าใจ แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยคะ ?”
“คือว่า สองพี่น้องนักออกแบบอัญมณีระดับโลกเขาระบุมาว่า ต้องเป็นคุณเท่านั้น ที่จะสวมใส่อัญมณีชุดนี้ในงานครั้งนี้ค่ะ”
“สองพี่น้องไหนคะ ฉันไม่รู้จัก ?” กอหญ้ายิ่งสงสัยมากขึ้น
“นี่ค่ะเผื่อคุณกอหญ้าจะจำได้” ยื่นนิตยสารเล่มหนาส่งให้กอหญ้าดู ปกนิตยสารเป็นสองพี่น้องหน้าตาคุ้นเคยคลับคล้ายคลับคลาแต่ไม่มั่นใจ ทว่าสายตากลับไปสะดุดชื่อและนามสกุลของทั้งสองคนทำให้กอหญ้าแทบช็อคตากลมโตขนลุกซู่ไปทั้งตัว เงยหน้าขึ้นไปมองสตรีทั้งสองสลับกันไปมา
สกาย & หนึ่งฤทัย เพิ่มสมบัติ
++++++++
“ตอนนี้เรามาถึงอัญมณีชิ้นสุดท้ายสำหรับงานนี้แล้วครับ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ อัญมณีชุดนี้เป็นการออกแบบอย่างปราณีตงดงามจากสองพี่น้องนักออกแบบชื่อดังระดับโลกที่ทุกท่านรู้จักกันดี ซึ่งอัญมณีชุดนี้มีเพียง สอง ชุดบนโลกใบนี้เท่านั้น อัญมณีชุดนี้มีชื่อว่า Jungle fever bird of paradise หรือ [url]ปักษาสวรรค์ ซึ่งมีความหมายว่า ให้ความรื่นรมย์ยินดี นำพาสิ่งดี ๆ เรื่องน่ายินดีมาให้กับผู้ครอบครอง นั่นเองครับ และทางเราได้รับเกียรติอย่างสูงจากนางแบบกิตติมศักดิ์ที่เราใช้เวลาตามหาเธอถึงครึ่งปีเลยครับ ตอนนี้ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอย ขอเชิญชมได้เลยครับ”
(มีต่อครับ) ^^