ด้วยเพราะพื้นที่โดยรอบหมู่บ้านคิโนะซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen) ในเมืองโทโยโอกะ (Toyooka) ของจังหวัดเฮียวโงะนั้นเปี่ยมไปด้วยวิถีชีวิตอันแสนเรียบง่ายของคนท้องถิ่นและธรรมชาติ ตั้งแต่หาดทราย ภูเขา พื้นที่ชุ่มน้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวมักพบเห็นการอยู่ร่วมกันของชุมชนและสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น นก ปลา หรือสัตว์น้อยใหญ่ต่างๆ

ซึ่งหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองโทโยโอกะนั่นก็คือนกกระสาขาวตะวันออก (Oriental White Stork) หรือเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า โคโนะโทริ (コウノトリ) ว่ากันว่าเป็นนกที่มีความหมายกับเมืองโทโยโอกะเป็นอย่างมากเลยแหละ

นกกระสาขาวตะวันออกเป็นนกที่รูปร่างค่อนข้างใหญ่ค่ะและเป็นสัตว์สำคัญต่อระบบห่วงโซ่อาหารบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ กินเนื้อเป็นอาหาร ของโปรดก็มีตั้งแต่ได้แก่ ปลา กบ งู และตั๊กแตน เมื่อสยายปีกออกเต็มที่จะมีขนาดตัวราว 200-220 เซนติเมตรเลยทีเดียว (ใหญ่เนาะ) ด้านความสูงตอนกำลังยืนอยู่ที่ราว 100-110 เซนติเมตร

ในอดีตนกกระสาตัวขาวปีกดำพันธุ์นี้เคยพบเห็นอยู่เป็นจำนวนมากแถบทาจิมะ (ตำแหน่งปัจจุบันคือตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ ซึ่งตอนนี้ไม่มีการเรียกชื่อแบบนี้แล้ว) แต่ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1971 ก็ได้สูญพันธุ์ไปในที่สุด นกกระสาตัวสุดท้ายที่มีคนพบเห็นบินอยู่บนท้องฟ้าของญี่ปุ่นคือที่เมืองโทโยโอกะ ทำให้ทางเมืองแปะโป้งสัญญากับคนญี่ปุ่นว่าจะนำนกกระสาขาวตะวันออกกลับคืนสู่ธรรมชาติให้ได้

ในปี ค.ศ. 1985 เมืองโทโยโอกะจัดเตรียมสถานที่สำหรับเพาะพันธุ์ เพาะเลี้ยง และวิจัยนกกระสา (แบบจริงจัง) โดยเริ่มต้นจากการนำเข้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจากรัสเซีย (สหภาพโซเวียตในขณะนั้น) 6 ตัว ต่อมาในปี ค.ศ. 1989 ได้ถือกำเนิดลูกนกตัวแรก นับเป็นความสำเร็จในการเพาะพันธุ์เป็นครั้งแรก หลังจากนั้นทุกปีก็มีลูกนกตัวใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากความพยายามสุดความสามารถของเมืองโทโยโอกะ นกกระสาขาวตะวันออกตัวแรกได้ถูกปล่อยสู่ธรรมชาติในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2005 จนกระทั่งปัจจุบันมีนกกระสาจำนวนกว่า 200 ตัวบินทั่วท้องฟ้าของเมืองโทโยโอกะซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์นกกระสาให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัย