เสือลากหาง

ที่บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หลังใหญ่ พื้นที่กว้างขวาง ล้อมด้วยกำแพงสูง ห่างจากถนนใหญ่มาพอสมควร

     มอเตอร์ไซค์ส่งเสียงครางฮึมแล่นใกล้เข้ามา  ทำให้เหล่ายามเฝ้าประตูตื่นตัว  

     ที่นี่ คือ 'ซุ้ม'ของป๋ากวง ไม่มี 'คนแปลกหน้า' หลงทางมาที่นี่  ผู้ที่มา ถ้าไม่ใช่ 'สมาชิก' ก็ต้องเป็น 'ศัตรู' เท่านั้น

     มอเตอร์ไซค์มาถึงหน้าประตูใหญ่ ยามคนเก่าคนแก่ที่อาวุโสสูงที่สุดจดจำผู้ขับขี่ได้ทันที ยกมือขึ้นไหว้ 

     "สวัสดีครับ พี่วิเชียร"
 
     ทำให้ยามรุ่นน้องที่อยู่ใกล้ต้องยกมือไหว้ตาม แล้วรีบเปิดประตู  ส่วนยามคนอื่นอีก 6 คน เก็บปืนกลับเข้าที่

     วิเชียรทำเหมือนมองไม่เห็นพวกเขา ขี่รถเข้าไปที่ตัวบ้าน

     "นั่นใครเหรอพี่" ยามคนใหม่รุ่นน้องถามยามเก่า

     "วิเชียร เมฆคล้อย  มือปืนอันดับหนึ่งของวงการ  ถูกให้ฉายาว่า เสือลากหาง"

     "หูวว อันดับหนึ่ง  แล้วเสือลากหาง  มันเป็นยังไงเหรอพี่"

     "ตอนที่พี่เขาไปเก็บไอ้ป้อม มือขวาของกำนันตู้  เขาเดินขึ้นไปบนรถทัวร์ แล้วยิงไอ้ป้อมกับสมุนมันอีก 2 คน ปัง ปัง ปัง สามนัดสามศพ  ตั้งแต่ที่เขาขึ้นไปแล้วก็ลงมา ไม่มีใครในรถส่งเสียงซักแอะ ได้แต่เบิกตาดูพี่เขายิงไอ้ป้อมแล้วก็เดินจากไปเฉยๆอย่างนั้น  เขาเลยได้ฉายาว่า เสือลากหาง

     ยังมีอีก สารวัตรชาญก็โดนยิงแสกหน้าคาโต๊ะกินข้าว  เมียสารวัตรก็นั่งนิ่งมองเฉย ดูพี่วิเชียรเดินออกจากบ้านแล้วถึงแหกปากร้อง"

     "โห พี่เขาเล่นของอะไรรึเปล่าน่ะ"

     "ความลับของพี่เขา ไม่มีใครรู้หรอก"

     "เขาก็โคตรเก่งเลยน่ะสิ"

     "อาวุธลับของป๋ากวง ได้ยินว่าป๋ากวงเคยช่วยพี่เขามาก่อน เขาเลยตอบแทนให้ โดยการฆ่าคนทุกคนที่ป๋ากวงอยากให้ตาย ป๋ากวงมีศัตรูหลายคน 
แต่ไม่มีใครกล้าลงมือกับป๋ากวงก็เพราะป๋าแกมีพี่วิเชียรนี่แหละ ว่ากันว่าถ้าจะเก็บป๋ากวงต้องเก็บเขาให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นเจอพี่วิเชียรตามไปล้างแค้น ไม่มีใครรอดไปได้"

     "โห ร้ายกาจขนาดนั้นเชียวหรือ"

     "เออ ได้ยินว่าพี่เขาเพิ่งทำงานเสร็จไปอีกเรื่อง ความจริงต้องอยู่ระหว่างเก็บตัว  แต่วันนี้ป๋ากวงเรียกพี่เขามา ต้องมีเรื่องใหญ่อีกแน่ๆ"
 
     "เจ๋ง สุดยอดเลยพี่"

     ยามคนอื่นที่ได้ยิน ต่างอมยิ้ม ขำในความขี้โม้ของยามแก่

     ขณะที่ยามทั้งสองคุยกัน วิเชียรได้ขี่รถมาถึงตัวบ้านแล้ว  เขาเป็นชายวัย 40 ที่ยังดูแข็งแรง เต็มไปด้วยพละกำลัง สวมแว่นกันแดด แจ็คเก็ตกันลมสีดำและกางเกงยีนส์  หน้าตาและการแต่งกายของเขาไม่โดดเด่น แต่ผู้คนสามารถจดจำเขาได้แต่ไกล ด้วยท่าเดินอันเป็นเอกลักษณ์ 
 
     วิเชียรวาดขาลงมอเตอร์ไซค์ ก้าวขาซ้ายนำก่อน ขาขวาจึงก้าวตาม แล้วค่อยก้าวขาซ้ายนำอีกครั้ง

     การ์ด 2 คน ยืนรอรับวิเชียรที่หน้าตัวบ้าน ทั้งสองยกมือไหว้

     "สวัสดีครับ พี่วิเชียร" ผู้ชายไว้หนวดอายุราว 50 พูด แม้เขาจะอายุมากกว่าวิเชียร แต่ก็ไหว้และเรียกวิเชียรว่า พี่ โดยไม่ขัดเขินแม้แต่น้อย

     "ป๋ากวงรออยู่ครับ เชิญข้างใน"

     วิเชียรเดินตามที่คนทั้งสองนำทาง

     ป้าบ  ไอ้หนวดใช้หลังมือตบหน้าอกผู้ชายร่างเตี้ยอายุ 30 กว่า มีแผลเป็นใต้ตา เมื่อฝ่ายหลังจ้องมองที่ขาของวิเชียร

     "ขอโทษครับ พี่วิเชียร" ไอ้หนวดตบหลังหัวของไอ้เตี้ย "เด็กมันไม่มีมารยาท"

     วิเชียรพยักหน้า เชิดคางให้อีกฝ่ายนำทางต่อ  ทั้งสองไม่ได้นำวิเชียรขึ้นไปชั้นบน  แต่ตรงไปยังห้องลับที่อยู่ชั้นล่าง  ซึ่งวิเชียรรู้จักเป็นอย่างดี 
จึงไม่แปลกใจอะไร

     ไอ้เตี้ยเปิดประตูห้อง ไอ้หนวดผายมือ 
 
     "ป๋ากวงอยู่ข้างในครับ"

     วิเชียรเดินมาที่ปากประตูห้อง  เมื่อมองเข้าไปในห้องลับซึ่งมีเพียงไฟสลัว แต่ก็ยังพอที่จะเห็นป๋ากวงนั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน คอพับไปข้างหนึ่ง
ยังพอจะมองเห็นรูกระสุนบนหน้าผาก ที่มีคราบเลือดเป็นทางลงมาถึงหางคิ้ว

     "ป๋ากวงรอพี่อยู่ พี่ก็ตามไปนะครับ" 
 
     ไอ้หนวดที่รอจังหวะให้เขาเดินเข้าประตู  เพราะนี่เป็นโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะได้อยู่ด้านหลังมือปืนระดับพระกาฬ  มันพูดพร้อมกับจ่อปืนไปที่หลังหัวของวิเชียร

     ไอ้หนวด หรือ ขจร พันเกตุ ฉายา น้ำตาจระเข้  ฉายานี้ได้มาตอนที่ไปยืนร้องไห้ขวางรถเสี่ยหล่อ ก่อนจะกระหน่ำยิงด้วยปืนคู่จนตายทั้งคันรถ

     ขณะเดียวกัน ปืนอีกกระบอกก็ได้ถูกยกขึ้นเล็งใส่เป้าใหญ่ที่กลางหลังของวิเชียร 

     ผู้ที่ถือมันคือไอ้เตี้ย หรือ ขอน เก้าเลี้ยว อาวุธประจำมือของมันคือปืนลูกโม่ 6 นัด โดยที่คอมันก็ห้อยกระสุนไว้นัดหนึ่ง  ด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้ามันยิง
จนกระสุนหมดแล้ว งานยังไม่สำเร็จ หรือตัวมันหนีไม่รอด  มันจะใช้กระสุนที่ห้อยคอยิงตัวตาย จึงได้ชื่อว่า 'ขอน เจ็ดนัด'

     "เสือลากหางอะไรวะ  แค่หมาขาเป๋เดินลากขา.{ เปรี้ยงง!! } 

     คำพูดสุดท้ายในประโยคของขอนถูกกลบทับด้วยเสียง Colt Python .357 magnum ที่ลั่นกระสุนออกไป พร้อมกันกับ กล็อก17 9มม. ในมือของขจร
 
     .357 ที่แรงขับเคลื่อนมากกว่า แหวกอากาศรวดเร็วกว่า ทะลุผ่านเสื้อของวิเชียร เจาะทะลวงกินเลือดเนื้อของยอดมือปืนเข้าไปได้ครึ่งนัด
   
     ชั่วเศษเสี้ยววินาทีนั้น กระสุนกลับหยุดลง หลังจากนั้น กระสุนเคลื่อนถอยออกจากหลังของวิเชียรช้าๆ แม้แต่เสื้อที่ขาดก็กลับคืนสู่สภาพเดิม  เมื่อกระสุนย้อนกลับห่างจากร่างของวิเชียรราวหนึ่งฟุต กระบวนการถอยหลังก็หยุดลง เปลี่ยนเป็นค่อยๆเดินหน้าพุ่งไปด้วยความเชื่องช้าอย่างน่าอึดอัดใจ

     วิเชียรเหลียวกลับมาเห็นลูกปืนกำลังพุ่งเข้ามา จึงเดินหลบทางลูกปืน  เมื่อเห็นทั้งสองเป็นคนยิงใส่เขา  ยอดมือปืนจึงเดินเข้าไปหาขอน ที่ยังมีรอยยิ้มเหยียดหยามอยู่ที่มุมปาก แต่แววตานั้นตกใจตื่นกลัว วิเชียรกระชากปืนออกมาจากมือขอน ใช้ท้ายปืนกระแทกหน้าเจ้าของมันเข้าที่ครึ่งปากครึ่งจมูก จนฝ่ายหลังหน้ามืดเห็นดาวระยับ

     วิเชียรหันไปทางขจร  ซึ่งแววตาแตกตื่นไม่แพ้ขอน  ขจรไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

     หลังจากปรากฏการณ์ภาพช้าถอยหลัง ที่ทำให้วิเชียรไม่ตายจากลูกปืนแล้ว

     เวลาเชื่องช้าลง แต่ประสาทการรับรู้ของเขาทำงานเท่าเดิม  จนเขามองเห็นถึงรอบที่กระสุนมันหมุน  ขณะที่เขาขยับตัวไม่ได้แม้แต่ลูกตา วิเชียรกลับเคลื่อนไหวได้เป็นปกติ  จากหางตาของขจร เขาเห็นวิเชียรหยิบมีดสปริงจากเข็มขัด กดใบมีดให้ออกมา

     ฉับพลันทุกสิ่งกลับเป็นปกติ  กระสุนที่ยิงออกไปพุ่งชนกำแพง  ขอนล้มทั้งยืน ลงไปกองเป็นขี้หมา  วิเชียรกลายเป็นเงาที่ขจรมองตามไม่ทัน

     ราวกับภาพถูกตัด ขจรรู้สึกถึงความเจ็บปวดและน้ำหนักบนบ่าซ้าย ขณะที่ตัวเองอยู่ๆก็กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น เขาเหลียวไปมองที่บ่า เห็นมือของวิเชียรกำมีดปักทะลุร่องไหปลาร้าเขาจนมิดด้าม เป็นแรงกดที่ทำให้เขาต้องคุกเข่าเช่นนี้  ด้วยความคิดที่จะตอบโต้ แต่เขาไม่รู้สึกถึงปืนในมือขวาแม้แต่น้อย เมื่อหันไปมอง ก็เห็นข้อพับแขนตัวเองถูกกรีดจนเหวอะ เส้นเอ็นถูกตัดขาด ปืนในมือจึงได้หลุดไป 

     ด้วยความเจ็บและความกลัว ขจรร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร
 
     มืออีกข้างของวิเชียรที่ยังถือปืนลูกโม่ ใช้ด้ามปืนตบกกหูมัน

     "ไม่ต้องร้อง ใครใช้มึ-มา"

     ขจรหยุดร้องตามคำสั่ง แต่ยังคงครางหงิงๆเหมือนลูกหมาอย่างน่าสงสาร  วิเชียรหันปืนไปยังขอนที่ทำท่าจะลุก
 
     เปรี้ยง 

     ลูกปืนเข้าหางคิ้วขวาทะลุออกด้านหลัง  เศษกะโหลกและสมองระเบิดกระจาย

     ขอน เจ็ดนัด ไม่มีโอกาสได้ใช้กระสุนนัดที่เจ็ดของมัน

     วิเชียรตบด้ามปืนเข้าไปที่กกหูไอ้หนวดอีกครั้ง

     "ใครใช้มึ-มา" 

     "เสี่ยเกี๊ยกครับ เสี่ยเกี๊ยกสั่ง ผมไม่ได้อยากทำจริงๆ แต่เสี่ยเกี๊ยกสั่งมา" ขจรรีบตอบโดยเร็วทั้งที่น้ำมูกน้ำตายังเต็มหน้า

     เสี่ยเกี๊ยก ลูกชายของป๋ากวง  มันไม่ยอมรอให้ป๋ากวงวางมือด้วยตัวเอง แต่ว่า

     วิเชียรตบด้ามปืนเข้าไปที่กกหูไอ้หนวดอีกครั้ง

     "ใครใช้มึ-มา" 

     "เสี่ยเกี๊ยกครับ เป็นเสี่ยเกี๊ยกจริงๆ  ผมไม่ได้โกหก อย่าฆ่าผมเลย"

     คราวนี้ใช้ท้ายปืนทุบลงบนด้ามมีดที่ปักอยู่

     "อ๊าาาากกกกก"

     "กูถามอีกครั้ง  ใครใช้มึ-มา"

     วิเชียรรู้จักไอ้เกี๊ยก  ไอ้เกี๊ยกก็รู้จักเขา  มันไม่มีทางเก็บป๋ากวงก่อนตัวเขาแน่
 
     "ฮือๆๆ  เสี่ยเกี๊ยกเป็นคนสั่งจริงๆครับ  เสี่ยเชื่อแม่เลี้ยงจันทร์ฉายครับ พวกเขาร่วมมือกัน  ผมบอกพี่หมดแล้ว"
 
     อืม ไอ้เกี๊ยกมันไม่กล้ากับวิเชียรหรอก แต่อีฉายที่อาศัยบารมีผัวที่ตายไปขึ้นมามีอิทธิพล  ถ้าไม่ได้ป๋ากวงช่วย มันคงถูกขายเข้าซ่องไปแล้ว
ใช่ มีแต่อีนี่แหละที่ไม่รู้จักเขา

     ไอ้พวกนี้ ก็คงเป็นคนของอีฉาย  มาอ้างว่าไอ้เกี๊ยกสั่ง คิดว่าเขาจะเห็นแก่หน้าไอ้เกี๊ยกงั้นหรือ

     วิเชียรดึงมีดออก เช็ดคราบเลือดกับเสื้อของไอ้หนวดด้านที่ยังสะอาด เก็บใบมีด กลับไปเหน็บที่เข็มขัด

     "ผมผิดไปแล้วครับ ผมแค่ทำตามคำสั่งของเสี่ยเกี๊ยก ขอร้องล่ะครับ ไว้ชีวิตผมเถอะ อย่าฆ่าผมเลย"

     ขจรพนมมือก้มลงกราบไปข้างหน้า แม้ว่าวิเชียรจะไม่อยู่ตรงนั้น  วิเชียรจึงยิงท้ายทอยมันไปหนึ่งนัด แล้วโยนปืนทิ้ง

     น้ำตาจระเข้ ไม่ได้ผลกับวิเชียร
 
     เขาเดินลากขามาหน้าบ้าน ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ สตาร์ตเครื่อง
  
     นอกจากยามแก่กับยามหนุ่มที่เปิดประตูรั้วให้วิเชียรแล้ว ยามเฝ้าประตูคนอื่นอีก 6 คน เห็นวิเชียรขี่มอเตอร์ไซค์ออกมา ต่างตกใจอย่างไม่คาดคิด 
รีบล้วงปืนออกมาตั้งท่าเล็ง พร้อมรุมกระหน่ำยิงใส่วิเชียร

     แต่พวกมันก็ทำเพียงแค่ตั้งท่า  จนวิเชียรเร่งเครื่องผ่านพวกมันมาจอดที่หน้าประตูรั้ว เขาจึงชักปืนออกมาจากซองในอกเสื้อ หันกลับไปยิงใส่พวกมันจากทางด้านหลัง 
 
     วิเชียรยิงไป 6 นัด  เกิดเป็น 6 ศพ นอนเกลื่อนบนพื้น  ยามอีก 2 คนที่ไม่ได้เป็นพวกมัน มองจนอ้าปากค้าง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

     "เปิดสิ"  วิเชียรสั่ง

     ยามหนุ่มเหมือนเพิ่งตื่นจากภวังค์ รีบวิ่งมาเปิดประตูรั้วให้วิเชียร  มันได้เห็นเสือลากหางของจริงในวันนี้  มันมีเรื่องไปโม้ให้เพื่อนๆของมันฟังแล้ว 

     วิเชียรรั้งแขนเสื้อแจ็คเก็ตลง พลิกข้อมือซ้ายขึ้นดู จุดแต้มบนนั้นหายไป 2 จุด  เป็นเพราะเขาใช้พลัง "บิดเวลา" ไปอีก 2 ครั้งแล้ว
  
     นั่น ทำให้เขาหงุดหงิด จนต้องเหนี่ยวไกยิงยามหนุ่มกับยามแก่ที่ไร้ประโยชน์ทิ้ง

     หลังจากนั้น ยอดมือปืนบ่ายหน้ารถมอเตอร์ไซค์ไปทางถนนใหญ่  คำรามเสียงเย็น
     
     "ไอ้เกี๊ยก ไอ้ทรพี  อีฉาย อีงูพิษ  พวกมึ- เจอกับกูแน่"  

     จุดแต้มบนข้อมือเขายังมีเหลือพอสำหรับพวกมัน

     มอเตอร์ไซค์ส่งเสียงครางฮึมแล่นไกลออกไป

     เขาคือ วิเชียร เมฆคล้อย  มือปืนอันดับหนึ่งของวงการ  ถูกให้ฉายาว่า     เสือลากหาง

..................................................................................................................................................................................................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่