สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
แม่พี่ก็เคยเป็นแบบนี้ มันมีจุดเปลี่ยนชีวิต ท้ายซอยบ้านแม่พี่ มีคนงานชายหลายคนมาทำงานรับเหมาก่อสร้างบ้าน สามีพี่ มีเสื้อกางเกงเยอะมากสภาพดีใส่ไม่ได้เลยเพราะอ้วนขึ้นมากๆ พี่เลยหอบมาหลายลัง วานให้แม่พี่ ช่วยเอาไปแจกจ่ายให้น้อง ๆ ผู้ชายที่มาทำงานก่อสร้างท้ายซอยให้หน่อย แม่มาเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งช่วงเย็น ๆ น้อง ๆกลุ่มนี้เดินผ่านหน้าบ้านมาเรียกแม่พี่ เรียกให้ดูว่าพวกผมหล่อไหม ชุดที่ป้าให้ พวกผมใส่ได้พอดีเลย จะใส่ไปดูหมอลำกัน อยากให้น้องชายที่อยู่บ้านนอกได้ใส่เสื้อผ้าดี ๆ แบบนี้มั่งจัง ขอบคุณครับป้า แม่บอกไม่เคยสุขใจเท่านี้มาก่อน ทุกวันนี้แม่เปลี่ยนความคิดไปเลย กลายเป็นคนไม่หวงของที่ตัวเองไม่ได้ใช้ เอาไปให้คนที่เขาต้องการใช้มากกว่าเก็บเอาไว้จนผุผัง เวลาแม่พี่เอาของไปบริจาค คนรับก็จะไหว้และกล่าวอวยพรให้แม่พี่รวย ๆ สุขภาพแข็งแรงเสมอ แม่บอกอิ่มเอมใจ บ้านก็โล่ง สะอาดสุขภาพจิตก็ดี พี่คุยกับแม่เสมอว่า มือของผู้ให้มักอยู่สูงกว่ามือของผู้รับเสมอ ลองปรับใช้ดูนะ สู้ๆ
ความคิดเห็นที่ 2
นี่เป็นกระทู้ยอดนิยม
เท่าที่อ่าน น้อยมากที่จะแก้ไขได้ เช่น เอาไปทิ้ง ท่านตามไปเก็บ
จัดแล้วถามว่าจะเอาอะไรทิ้ง ก็แทบไม่ได้ทิ้ง จัดห้องใส่แบบคนทำ
ก็เต็มไปหมดไม่มีที่เดิน
คำแนะนำใหม่ ไหนๆรายได้ค่อนข้างแยะ น่าจะสร้างห้องเก็บของ
ใหญ่สักหนึ่งห้อง ทำชั้นไปจนถึงเพดาน ความสูงแต่ละชั้น ให้เหมาะ
สมกับสมบัติที่มีอยู่ เพื่อประหยัดเนื้อที่ มีหน้าต่างและพัดลมระบายอากาศ
ให้แม่ไประลึกถึงความหลังเป็นคราวๆไป เวลาแม่จะซื้ออะไร ก็พาไปรื้อกรุ
สมบัติ เพื่อจะได้ไม่อยากซื้อ ถ้าจะซื้อก็ต้องทิ้งบางส่วนไป
เผลอเมื่อไร ขนไปบริจาคโดยเฉพาะส่วนที่อยู่ชั้นบนสุด เพราะคนแก่มองไม่เห็นที่ตรงนั้น
เท่าที่อ่าน น้อยมากที่จะแก้ไขได้ เช่น เอาไปทิ้ง ท่านตามไปเก็บ
จัดแล้วถามว่าจะเอาอะไรทิ้ง ก็แทบไม่ได้ทิ้ง จัดห้องใส่แบบคนทำ
ก็เต็มไปหมดไม่มีที่เดิน
คำแนะนำใหม่ ไหนๆรายได้ค่อนข้างแยะ น่าจะสร้างห้องเก็บของ
ใหญ่สักหนึ่งห้อง ทำชั้นไปจนถึงเพดาน ความสูงแต่ละชั้น ให้เหมาะ
สมกับสมบัติที่มีอยู่ เพื่อประหยัดเนื้อที่ มีหน้าต่างและพัดลมระบายอากาศ
ให้แม่ไประลึกถึงความหลังเป็นคราวๆไป เวลาแม่จะซื้ออะไร ก็พาไปรื้อกรุ
สมบัติ เพื่อจะได้ไม่อยากซื้อ ถ้าจะซื้อก็ต้องทิ้งบางส่วนไป
เผลอเมื่อไร ขนไปบริจาคโดยเฉพาะส่วนที่อยู่ชั้นบนสุด เพราะคนแก่มองไม่เห็นที่ตรงนั้น
แสดงความคิดเห็น
ทำยังไงให้แม่เลิกเสียดายของคะ?
และเรื่องมันเกิดจากช่วงนี้มีโควิดเราเลยได้กลับมาทำงานที่บ้าน ว่างๆเห็นบ้านรก ของวางไม่เป็นที่เป็นทางเราเลยจัดใหม่ให้เข้าที่เข้าทาง พอเราได้เอาของออกมาวางรวมกันก็พบว่ามีของหลายอย่างเลยที่ไม่ได้ใช้มาเกือบ10ปี เราเลยจะเอาไปบริจาคให้คนที่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้
แต่แม่เราขี้หวงของมากกกก เสื้อผ้าที่เก็บไว้เกือบๆ 6-7 ปีไม่เคยใส่ พอเราจะเอาไปบริจาคแม่ก็ไม่ยอม จาน ชาม ที่สามารถเอามาจัดโต๊ะจีนเลี้ยงคนได้เป็น 20 โต๊ะ ชุดเครื่องนอนสำหรับ 20-30คน ช้อน แก้ว อีกไม่รู้กี่ร้อยใบ เราบอกให้เอาไปบริจาคแม่ก็บอกจะได้ใช้อยู่ พอถึงเวลาที่ต้องได้ใช้(งานศพตา6ปีที่แล้ว ทำบุญต่างๆ)กลับไปยืมของวัดมาใช้ พี่ชายบอกให้เราเอาไปบริจาคตอนที่แม่ไม่อยู่ แต่เรากลัวทำแล้วทะเลาะกับแม่ เพราะเวลาทะเลาะกันแม่ชอบอ้างไปถึงเรื่องพี่ชายคนแรกที่เสียชีวิต ว่าถ้าพี่ไม่ตายเราก็ไม่ได้เกิดหรอก จนเราฝังใจไม่อยากจะทะเลาะกับแม่ แต่ของที่บ้านมันรกเกินเยียวยาจริงๆค่ะ
ก่อนหน้านี้เราทำความสะอาดในส่วนตัวบ้านไปแล้วรอบนึง ของที่ไม่ได้ใช้เราต้องเอาไปเก็บในห้องรับแขกเพราะไม่มีพื้นที่ให้เก็บแล้ว พอทำความสะอาดส่วนครัวเราก็เอาของที่ไม่ได้ใช้ไปเก็บที่ห้องรับแขกอีกห้อง และเราก็ไม่เคยเห็นแม่เดินเข้าไปหยิบของอะไรในนั้นมาใช้เลย
พอครั้งนี้เราจัดห้องแต่งตัวใหม่ เสื้อผ้าหลายตัวไม่ได้ใส่เราพับใส่กล่องแม่ก็มาขนออกไปใส่ไม้แขวนผ้าไว้เหมือนเดิม รองเท้าของพี่ชายเราจะเอาไปบริจาคเพราะถามพี่แล้วพี่ไม่ได้ใช้ แม่ก็มาเอากลับไปใส่ชั้นวางเหมือนเดิม
เราจนปัญญาจริงๆค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงให้แม่ยอมเอาของพวกนี้ไปบริจาค ทั้งเตียงนอนของเรากับพี่ตั้งแต่เรียนประถมที่กลายเป็นเศษเหล็กไปแล้ว แม้แต่เตียงไม้ของคุณตาที่พังไปแล้วแม่ก็แอบเอามาเก็บไว้ในห้องนอนของเรา จนห้องเรามีทางเดินกว้างแค่60เซนเองค่ะ จะเอาออกก็ไม่ได้เพราะไม่มีที่เก็บ จะทิ้งก็กลัวโดนด่าอีก
หมายเหตุ : บ้านหลังนี้แม่อยู่คนเดียวเป็นหลักนะคะ เรากับพี่ชายอยู่คอนโดที่อีกจังหวัดนึง ส่วนพ่อทำงานไม่อยู่กับที่จะกลับบ้านทีก็ปีละ 3-7 วัน แต่พ่อมีแพลนว่าจะเลิกทำงานแล้วกลับมาอยู่บ้านหลังจากที่เรากลับไปทำงานค่ะ เพราะเศรษฐกิจยังไม่แน่นอนเรากับพี่อาจจะถูกเลิกจ้างได้พ่อเลยยังไม่กล้าวางมือจากงาน