แชร์ประสบการณ์บ้านหลังแรกกับบทเรียนที่ร้าวราน

ประสบการณ์นี้ถือว่าเป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ที่สุดของผมเลยก็ได้ เริ่มเรื่องมาจาก ผมต้องมาทำงานที่จังหวัดแห่งหนึ่งซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจังหวัดใหญ่จังหวัดนึงเลยก็ว่าได้ โดยย้ายมาทำงานตั้งแต่ปี 2017 ช่วงนั้นก็เช่าคอนโดอยู่ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะคิดว่าตัวเองไม่น่าจะอยู่ที่นี่นานสักเท่าไหร่ จนผ่านมาถึง 2020 แฟนเลยมีความคิดเห็นอยากจะให้ซื้อบ้านสักหลังเพราะดูน่าจะอยู๋ยาวแล้วหละ เวลาแฟนและลูกมาเที่ยวจะได้ไม่ต้องอดอู้อยู่ในห้องคอนโดเล็กๆ ก็เลยออกมองหาหมู่บ้านในพื้นที่รอบๆ ในตัวเมืองและชานเมืองจนมาสะดุดใจกับโครงการนี้  โครงการนี้บริษัทที่ไม่ได้โด่งดังหรือมีชื่อใดๆ ผมขอเรียกว่าโครงการ DDP แล้วกัน จุดที่ผมชอบสำหรับโครงการนี้คือลานจอดรถที่ลงเข็มไว้ซึ่งมั่นใจได้เลยว่า ต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้า ลานจอดรถจะไม่แยกจากตัวบ้านเหมือนโครงการอื่นที่ผมเคยเห็น ซึ่งเรื่องราวมันก็เริ่มวุ่นๆตั้งแต่ตรวจรับบ้านเลย
 
     หลังจากที่ทำสัญญาซื้อขายผ่านไปเรียบร้อย ทางโครงการก็ได้นัดหมายวันที่จะเข้ามาตรวจรับบ้าน ซึ่งก่อนหน้าถึงวันนัดตรวจก็มีวนเข้าไปดูอยู่ตลอด ก็ยังเห็นบ้านยังทำไม่เสร็จเลย แต่ทางโฟร์แมนคุมหน้างานก็ได้แจ้งมาว่าทันแน่นอนครับไม่ห่วง สรุปถึงวันนัดตามคาด ช่างยังนั่งขัดสี เก็บสีบัวผนัง อยู่เลย ส่วนภายนอกไม่ต้องพูดถึง ยังไม่พร้อมตรวจอะไรสักอย่าง  เวลานั้นได้เรียกฝ่ายขายคนที่รับเรื่องไปมาต่อว่า ทางนั้นก็ได้แต่ขอโทษขอโพยพร้อมตำหนิ ผู้รับเหมาเป็นการใหญ่  ซึ่งบริษัทรับจ้างตรวจบ้านที่ผมหามาก็ทำได้แค่ตรวจเบื้องต้นคร่าวๆ พร้อมทั้งแจ้งว่าคราวหน้าจะตรวจซ้ำให้อีกรอบ
     ทางโครงการนัดหมายกำหนดการตรวจนัดอีกรอบ เป็นอีกอาทิตย์ต่อมาผมเห็นว่าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำเดิมอีก เลยบอกว่าผมให้สองอาทิตย์เลย จะได้ปราณีตกับการเก็บงานหน่อย ก่อนหน้าถึงวันนัดทางโครงการก็ติดต่อมาว่า บ้านพร้อมแล้วสามารถเข้ามาตรวจได้เลย ผมเลยโทรนัดทางบริษัทที่ผมดิวไว้ ซึ่งพอไปถึงหน้าบ้านก็ต้องพิโรธอีกรอบ เมื่อความคืบหน้า คืบหน้าไปจากเดิมไม่ถึง 20% คราวนี้ผมโวยแบบไม่สนใจใคร นัดไม่เป็นนัด เสียเวลาเสียความรู้สึก ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ซึ่งวันนั้นเองแหละผมถึงได้รู้ว่า คนที่ประสานงานขายกับผม คือหนึ่งในหุ้นส่วนของโครงการนี้  ผมไม่ยอมเสียเงินผมฟรีแน่ผมเลยให้ทางโครงการจ่ายค่าส่วนต่างที่จะเกิดขึ้นให้กับบริษัทตรวจบ้านทั้งหมดผมจะไม่จ่ายอะไรทั้งนั้น ซึ่งครั้งนั้นทางโครงการก็ยอมรับผิดชอบแต่โดยดี
    การตรวจรับบ้านผ่านไปแบบทุลักทุเล แต่วันโอนนี่รวดเร็วแบบไร้ปัญหาใดๆ หลังจากนั้น ทางโครงการก็เริ่มออกแวว นัดว่าจะเข้ามาปลูกหญ้าก็ไม่เข้ามาตามนัด พอโทรตามก็ให้เหตุผลว่าช่างไม่ว่าง(แล้วก็ไม่ยอมโทรแจ้งเราให้เรานั่งคอย) จนผ่านฝนไป3-4รอบ ดินที่ถมไว้เริ่มโบ๋เป็นหลุมเป็นบ่อ เลยต้องตามทวงกันอีกรอบ ทางโครงการก็ย้อนกลับมาว่าเห็นว่าทางผมจะเทพื้นรอบบ้านเลย ไม่แน่แน่ใจว่าจะให้ปูหญ้าพื้นที่ไหนบ้าง ผมเลยย้อนกลับไปว่า ผมจะเทพื้นหรือต่อเติมอะไรเมื่อไหร่ก็เรื่องของผม หน้าที่คุณคือหาหญ้ามาปูให้ได้ตามที่รับปากไว้ เรื่องนี้ไม่ใช่ข้ออ้าง
   หลังการโวยไม่กี่วัน เช้าวันเสาร์ผมได้ทำการเดินสำรวจรอบ ๆบ้าน ก็เจอหลุมขนาดใหญ่ข้างผนังฝั่งห้องน้ำยุบลงไปเป็นโพรง ก้มเอาไฟฉายส่องดูก็เห็นน้ำหยดติ๋งๆ ในใจก็นึกว่าเอาแล้วบ้านตรู 

     ผมรีบแจ้งทางโครงการไปส่งช่างมาดูแต่ก็ทำอะไรได้บอกต้องรอวันจันทร์จะเข้ามาเช็คให้โดยละเอียด พอวันจันทร์ทีมงานก็เข้ากันมาตรวจเช็คพบว่า สาเหตุมาจากช่างกระจกฉากกั้น ไปเจาะตัวยึดกระจกแล้วสกรูไปเจาะโดนแนวท่อด้านในผนังจะต้องทำการรื้อกระเบื้องสกัดผนังออกเพื่ออุดรูท่อที่รั่ว แต่........วันนั้นไม่มีช่างกระเบื้องให้รออีกวัน ระหว่างนั้นถ้าไม่ใช้น้ำก็ให้ไปปิดวาวล์น้ำไว้  เวลาจะอาบน้ำค่อยเปิด อารมณ์ผมตอนนั้น คืออะไรของยิ้มว่ะเนี่ยะ เวลาเปิดวาวล์ที่นี่ ผนังห้องน้ำผมจะเหมือน เมอร์ไลอ้อน ที่พ่นน้ำออกมาจากปากแต่นี่น้ำพุ่งออกมาจากรูข้างกำแพง ตอนนั้นช่างใช้เวลาในการแก้ปัญหาอยู่ 3-4 วัน ซึ่งผมก็เริ่มจะเอะใจแล้วว่า ทำไมโครงการนี้แก้ไขอะไรช้ามาก(เดี๋ยวจะมาต่อให้ฟัง)
     งานซ่อมครั้งนี้ ก็ได้สร้างความหงุดหงิดให้อีก เมื่อกลับมาพบว่าช่างที่มาทำ เหยีบย่ำไปบนผ้านวมทิ้งรอยบาทาไว้ให้ดูต่างหน้า ว่าตรูได้ผ่านมาแถวนี้นะรู้ไว้สะด้วย ครั้งนี้ตะบะแตกข้อความไปหา หุ้นส่วนคนนั้นกลางดึก ว่าทำแบบนี้มันเกินไป ไม่ทำความสะอาดไม่ว่าแต่ไม่รักษาความสะอาดด้วยนี่มันแย่มากๆ มาเอาผ้านวมผมไปซักให้ด้วยเลยผมไม่ยอมแบบนี้  หุ้นส่วนคนนั้นก็ขอโทษ ขอโพย แล้วก็ให้ฝ่ายขายมาเอาไปซักให้ในวันรุ่งขึ้น

     หลังจากนั้นไม่กี่วันการปูหญ้าก็ผ่านไปได้ด้วยดี ผู้รับเหมาปูหญ้าบริการดีมาก มีวนมารถน้ำให้ด้วยช่วง 3 วันแรก ทุกอย่างดูเหมือนเริ่มไปได้ด้วยดี จนกระทั่งวันที่ 4 พื้นเริ่มยุบเป็บจุดๆอีกแล้ว ช่างปูหญ้าก็ต้องมารื้อหญ้าออกเอาทมดินเข้าไปใหม่ก่อนปูหญ้าทับอีกรอบ
     ดูเหมือนเรื่องร้ายๆ จะผ่านไปได้ด้วยดีจนกระทั่ง คืนนึงกลางดึก นอนแล้วได้ยินเสียง เปรี๊ยะๆ เหมือนมีใครมาเขวี้ยงอะไรใส่ผนังหรือฝ้า  จนตอนเช้าถึงได้เห็นว่าเป็นอาการฝ้าลั่น 

     ลองเสริทหาข้อมูลในกูลเกิล ซึ่งก็ดูแล้วเป็นเรื่องปกติ ก็เลยไม่ตื่นเต้นอะไรมาก แต่ก็แจ้งทางโครงการให้ทราบเพื่อให้เข้ามาแก้ไขกันต่อไป หลังจากนั้น ก็รอช่างมาแก้ไข ผ่านไปเกือบเดือนก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครเข้ามา รอยแตกจากแค่ฝ้าเริ่มลามไปทั่ว ไปถึงรอยต่อกำแพงกับเสา รอยฉีกวงกบประตู หนักสุดถึงเข้าต้องเอาระเบิดไปลงอีกรอบคือ รอยร้าวพวกนั้นมันทำกระเบื้องแตกได้ อันนี้แสดงว่าเข้าขั้นวิกฤติ  

     พอถึงจุดนี้เลยเริ่มหาข้อมูลเชิงลึกของโครงการนี้แล้ว  แล้วก็เจอกับความจริงที่ต้องร้อง Cheer ดังๆ เมื่อ......   บริษัทที่รับเหมาสร้างโครงการนี้แห่งนี้น่าจะปิดไปแล้ว (จากข้อมูลที่ขึ้นโชว์ในnet) ผู้รับเหมาที่มาแก้งานให้เป็นผู้รับเหมารายวันทำแบบตามมีตามเกิด ซึ่งจะต่างจากบ้านหลังที่ยังไม่ส่งมอบที่จะเป็นผู้รับเหมาแบบเหมาช่วง มีคนงานลุยงานกันเป็น10คน หลังไหนโอนแล้วมีรายวันเข้าให้วันหล่ะ2คน  หนักกว่านั้นคือเจ้าของโครงการ กับ เจ้าของบริษัทรับเหมานั่นคือคนๆเดียวกัน เริ่มจากการเปิดบริษัทรับเหมาสร้างบ้านแล้วก็ผันตัวเองมาสู่วงการอสังหาแล้วโครงการที่ผมซื้อก็เป็นโครงการแรกในประสบการณ์การทำอสังหา หลังจากเอาบริษัทเองมารับเหมาแค่เฟสแรก ก็เอาบริษัทตัวเองเฟสออกหายไปให้เหลือแต่ชื่อบริษัทและรถที่โชว์โลโก้บริษัทจอดทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
     จากเคสกระเบื้องร้าวเลยต้องไปวางระเบิดถึงสำนักงานกันบ้าง ซึ่งทางโครงการก็รีบแอ็คชั่นโดยทันทีโดยหา ผู้รับเหมาเข้ามาแก้ให้ซึ่งไปถามหาสาเหตุผู้รับเหมาก็ตอบให้ไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร การแก้ก็แก้ตามพื้นฐานแบบเปิดตำรา คือ เลาะกระเบื้อง กรีดปูน สกิมโค้ท เป็นอันจบ แล้วก็ทิ้งท้ายด้วยว่าน่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว
     กระเบื้องร้าวผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ ก็ต้องมาปวดหัวกับอาการฝ้าลั่นต่อ เพราะตั้งแต่แจ้งไปก็ยังไม่มีคนมาแก้ จนมันลามไปจนถึงจุดที่ติดวอลเปเปอร์ ถ้าผมจะซ่อมก็ต้องลอกวอลเปเปอร์ออกถามทางโครงการไป ก็ได้รับคำตอบมาว่าเป็นสิ่งที่ลูกบ้านติดเพิ่มโครงการรับผิดชอบให้ไม่ได้ ถ้าจะให้รับผิดชอบก็จะรับผิดชอบแค่แนวที่มีปัญหา จะไม่ลอกเปลี่ยนทั้งผืน ผมเลยต้องโวยกลับไปว่า วอลฯ ผมติดมาทั้งผืนดีๆจะให้มาตัดแปะแบบนั้นได้ยังไง ถ้าอยู่มาซักปีแล้วมาแตกมันร้าวผมจะไม่บ่นไม่ว่าเลยจะลอกเปลี่ยนเองด้วยซ้ำ นี่อยู่ยังไม่ถึงเดือนร้าวอะไรได้ทั้งหลังแบบนี้ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังสรุปให้ผมไม่ได้ว่าจะรับผิดชอบยังไง ผมก็ต้องกรีดวอลฯออกให้ซ่อมเฉพาะจุดที่มีปัญหา 

     ผ่านจากฝ้าร้าวหนังร้าวก็มาเรื่องปวดหัวสุดก็คือ พื้นสนามรอบบ้านทรุด คราวนี้เล่นหนักจนถึงขนาดว่ารั้วบ้านเอียงจะล้มไปอีกฝั่งนึงเลย พอลองส่งแนวรั้วดูรั้วนี่เรื้อยเป็นงูเลย หัวเสารั้วก็แตก ไม่รู้ว่าสาเหตุใด (เดี๋ยวมาเฉลย) 

     กลับมาที่รั้วบ้านแจ้งทางโครงการไป ทางโครงการรีบเข้ามาดูทันทีทันใดพร้อมทั้งแก้ไขด้วยการ....... เอาไม้ไปค้ำไม่ให้กำแพงล้มไปอีกฝั่ง -.-* โน่นรออีก 3-4 วันโน่น ช่างกำแพงถึงเข้ามาแก้ สาเหตุก็มาจาก ดินตรงนั้นมันยุบตัวแล้วเข็มที่ปักไปตอนแรกมันไม่ถึงระดับที่ควรจะเป็น อีกทั้งไม่ได้ใช้ปั่นจั่นตอกใช้แค่แบ็คโฮกดมันลงไป เลยทำให้เข็มยุบลงไปตามดินแล้วทำให้เสารั้วบ้านล้มเพราะดินมันไม่แน่พอ วิธีแก้หน่ะหรอดินไม่แน่นใช่ไหม??? หล่อปูนที่ฐานเสามันสะเลย ผมกลับมาเห็นนี่พูดไม่ออกเลยทีเดียว  คราวนี้ก็มาถึงหัวเสาที่แตกเลยถึงบางอ้อ ตอนที่ช่างกำลังเก็บงาน ด้วยสาเหตุที่สั่งเสามามันสั้นไป ก็เลยดามเหล็กเส้นเอาไว้แล้วก็พอกปูนเสริมให้มันได้ระดับเท่ากับแนวอื่น ตรงนี้ผมโวยผู้รับเหมาไปว่าทำไมไม่เปลี่ยนอันใหม่ เค้าก็โยนกลับมาว่าให้มาคุยกับโครงการเอง เพราะโครงการสั่งให้ทำแค่นี้ ไปคุยกับโครงการ โครงการก็โยนกับมาให้ผู้รับเหมาว่าจะแจ้งให้เค้าทำให้ใหม่ สรุปโยนกันไปกันมาเหมือนลิงชิงบอล ท้ายที่สุดผมก็ได้เสาพอกปูนเหมือนเดิม แถมไม่เก็บงานสีให้ด้วย บอกว่าผมมาแค่ซ่อมกำแพง

     เดี๋ยวมาต่ออีกหน่อย บรรทัดหมดพอดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่