นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่ได้มีเจตนาหมายถึงบุคคล สถานที่ หรือ องค์กรใดๆ
เนื้อหามีส่วนที่เป็นความรุนแรง เพศ และ คำหยาบคาย
ผืดพลาดแต่ประการใดผู้เขียนขออภัยมา ณ ที่นี้
ขอบคุณมากครับ
คำเตือน....นิยายเรื่องนี้ยังไม่จบนะครับ ผมเจตนาเอามาลงใน PANTIP แค่ 15 EP จากทั้งหมดที่กี่ EP จบก็ไม่ทราบได้เพราะยังเขียนไม่จบครับ
แต่ตั้งแต่ EP 16 ขึ้นไปถ้าจะอ่านต้องไปอ่านต่อที่
https://www.tunwalai.com/story/457923/%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a0%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%8b%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%9c%e0%b8%b5
สำหรับเพื่อนๆที่ไม่สะดวก...ไม่ควรเริ่มอ่านนะครับ เพราะอาจจะทำให้ค้างได้
สำหรับเพื่อนๆที่สะดวกไปสนับสนุนต่อ ขอสัญญาว่าจะตั้งใจเขียนให้สุดฝืมือจนจบ ไม่ทำให้ผิดหวังครับ
EP1 ปริม
ตลอดระยะเวลา 4 ปีในรั้ววิทยาลัยพยาบาล ปริม แทบไม่มีโอกาสเข้าสังคมเลย
เมื่อไหร่ก็ตามที่ว่างจากการเรียน เธอจะรีบกลับไปช่วยแม่ของเธอทำขนมขาย
บ้านของเธอยากจนมาก เธอจำ " พ่อ " ได้เพียงผู้ชายที่ทุบตีแม่กับเธอทุกครั้งที่เมา
วันสุดท้ายในบ้านหลังนั้น...คือวันที่พ่อเมาและพยายามจะข่มขืนเธอ ในวัยเพียง 7 ขวบ
แม่พยายามปกป้องปริมจนสุดชีวิต จึงคว้าขวดเหล้าฟาดหัวพ่อจนล้มตึงไป
แม่อุ้มเธอออกจากบ้านทันที ด้วยเงินติดตัวแค่ไม่กี่ร้อยบาท เธอวิ่งฝ่าสายฝนพาลูกสาวหนีออกมาจากนรกขุมนั้น
เหมือนเทวดาฟ้าดินยังมีเมตตา ระหว่างการเดินทางหลบหนี มีผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือ สองแม่ลูกหลังจากผ่านความยากลำบาก สุดท้ายก็ลงหลักปักฐานใหม่ได้
ความทรงจำอันสุดแสนจะเลวร้ายที่พ่อเธอฝากไว้ ทำให้ปริมแขยงการเข้าหาของผู้ชายทุกคน
ปริม ไม่เคยคบหากับผู้ชายคนไหนเลย แม้แต่มือผู้ชายเธอก็ยังไม่เคยจับ
เรือนร่างอันสวยงามและบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอไม่เคยแปดเปื้อนกับเรื่องทางเพศมาก่อน และนั้นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยสำหรับเธอ
ในวันที่เธอรับปริญญาพยาบาล เธอไม่ได้จ้างช่างภาพมาเก็บภาพสวยๆ เธอไม่มีงานเลี้ยงฉลอง แม่เธอก็ไม่ได้ซื้อของขวัญอะไรให้ แม้แต่ดอกไม้สักช่อ
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ปริมน้อยเนื้อต่ำใจแม้เพียงสักนิด
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีและเธอเอาใบปริญญาไปให้กับแม่ที่รถเข็นขายขนมเล็กๆในตลาด สองแม่ลูกกอดกันร้องไห้ด้วยความดีใจ
ปริมรู้ดีว่า แม่ต้องทำงานหนักแค่ไหน เสียสละเพียงใด ในการหาเงินส่งเธอเรียนพยาบาลจนจบ โดยอาศัยเพียงรายได้จากการทำขนมขาย
ในที่สุดวันนี้เธอก็ทำความฝันของเธอและแม่ให้เป็นจริง แม่พูดให้เธอฟังอยู่เสมอว่าเธอเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งเดียวในชีวิตแม่
และเพียงคำพูดนี้ก็เพียงพอ
ความรักของแม่มีค่ายิ่งกว่าของขวัญใดๆ
....................
หลังพิธีสำเร็จการศึกษาผ่านไป ปริมต้องไปประจำที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด
เธอเรียนด้วยโควตานักเรียนทุนชนบท เมื่อจบแล้วจึงต้องกลับไปใช้ทุนตามสัญญา
วันนี้แม่มาส่งเธอที่สถานีรถไฟ
ตั้งแต่จำความได้จนถึงตอนนี้ ปริมอยู่ใกล้ชิดผู้เป็นแม่มาตลอด เมื่อถึงเวลาที่ต้องห่างกันทำให้ปริมอดรู้สึกใจหายไม่ได้
" ลูกไม่ต้องเป็นห่วงแม่นะ แม่อยู่ทางนี้ดูแลตัวเองได้ "
ปริมถอนใจ " หนูรู้จ้ะแม่ แต่หนูก็อดห่วงแม่ไม่ได้ แม่ก็อายุมากแล้ว ไม่รู้ว่าเวลาไม่สบายไป ใครจะดูแล "
" แม่มีลูกเป็นพยาบาลทั้งคน จะกลัวอะไร "
ปริมเอียงตัวไปซบกับไหล่แม่เธอ เพื่อให้แม่ของเธอลูบหัว " มันก็ใช่แหละ แต่หนูไม่ได้อยู่ใกล้ๆแม่นี่นา "
" ไปใช้ทุนแค่ 4 ปีไม่ใช่เหรอ เด๋วก็ค่อยย้ายกลับมาก็ได้นี่ลูก "
" โหยเวลาตั้ง 4 ปีนานจะแย่ หนูอยากอยู่ใกล้ๆแม่ให้เร็วกว่านั้น "
" เอาเถอะ เด๋วถ้าแม่คิดถึง แม่จะแวะไปหาลูกนะ เราก็ไมไ่ด้ไกลกันมาก นั่งรถไฟแค่ 4-5 ชั่วโมงก็ได้เจอกันแล้ว "
" แม่น่าจะย้ายไปอยู่กับหนู หนูไม่อยากให้แม่ทำงานอะไรแล้ว แม่เหนื่อยมามาก หนูเรียนจบแล้ว แม่น่าจะได้พักสักที "
เรื่องนี้สองแม่ลูกเถียงกันมาหลายรอบ สุดท้ายแม่ของเธอยืนยันว่าจะทำขนมขายต่อไป บางทีการทำงานมาตลอดอยู่ๆจะให้ไปอยู่บ้านเฉยๆ แม่เธออ้างว่ากลัวจะปรับตัวไม่ทัน
ที่สำคัญจริงๆเธอมองว่าการทำงานหาเงินเป็นคุณค่าในชีวิตของเธอ อย่างน้อยที่สุด เผื่อลูกสาวเธอมีเรื่องเดือดร้อนอะไร เธอยังพอมีเงินเก็บ เอาไปช่วยเหลือลูกได้ การทำขนมขาย แม้จะได้เงินไม่มาก แต่ถ้าประหยัดก็ยังพอเหลือเก็บ
หวูดรถไฟดังขึ้น นายด่านที่สถานีตีระฆังให้สัญญาณว่ารถเข้า เมื่อรถไฟจอดเรียบร้อย
ปริมกอดแม่ของเธอแน่น ราวกับจะจดจำซึมซับความอบอุ่นนี้ให้ติดตัวเธอไว้ให้ได้นานที่สุด
" หนูไปนะ " ปริมยกมือไหว้
เสียงเธอสั่น พยายามห้ามตัวเองอย่างเต็มที่ไม่ให้ร้องไห้ออกมาให้แม่ต้องเป็นห่วง
" ดูแลตัวเองดีๆนะลูก "
เมื่อรถไฟออกจากชานชลา สองแม่ลูกยืนส่งกันจนลับสายตา
เมื่อปริมเห็นผู้เป็นแม่ ค่อยๆห่างไกลออกไป หญิงสาวก็ปล่อยน้ำตาไหลอาบสองแก้มอย่างสุดกลั้น
.....................
4-5 ชั่วโมงต่อมา รถไฟพาเธอมาถึงสถานีปลายทาง ลงจากรถไฟปริมต่อรถสองแถวอีก 15 นาทีก็มาถึงโรงพยาบาล
โรงพยาบาลS เป็นโรงพยาบาลขนาด 500 เตียง ศักยภาพเป็นโรงพยาบาลทั่วไป แต่ด้วยความที่อยู่ต่างจังหวัด ทำให้มีหมอที่นี่ไม่มาก
ปริมยืนมองอาคารผู้ป่วย 13 ชั้นที่เด่นตระหง่านอยู่หน้าโรงพยาบาล บอกกับตัวเองว่า นี่คือสถานที่ที่เราจะต้องทำงานอยู่อีก 4 ปี
......................
ไม่ไกลจากแถวนั้น มีใครคนนึงแอบจ้องเธออยู่
สายตานั้นมองไปที่ใบหน้าสวยซึ้ง ตาสวยกลมโต รอบยิ้มเปี่ยมเสน่ห์
ไล่ลงมาจากใบหน้าสวยเก๋ คือรูปร่างที่เติบโตเต็มสาว หน้าอกสมส่วน เอวคอดกิ่วบางแค่คืบเดียว ขายาวสวยได้รูป
ปริมนั้น ไม่ถึงกับสวยจนเฉิดฉาย แต่เมื่อมองรวมๆแล้วดูดี เป็นความงามตามแบบธรรมชาติ ไร้การปรุงแต่ง ที่ยิ่งมองยิ่งดูเพลิน ยิ่งมองยิ่งสวย
โชคร้ายที่ความสวยของเธอ ไปกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของ" มัน " เข้าให้อย่างรุนแรง
เพียงแค่ใช้สายตาจับจ้อง มันก็รู้สึกคอแห้งขึ้นมา ความร้อนลงไปสะสมอยู่ที่อวัยวะกลางลำตัว จนอดแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเองไม่ได้
ด้วยสายตาของผู้ช่ำชองในกามราคะของมัน มองปราดเดียวก็รู้ได้ในทันทีว่า หญิงสาวคนนี้บริสุทธิ์ไม่เคยผ่านมือชายใดๆ
" กูต้องเอาอีนี่ให้ได้ "
มันส่งเสียงคำรามออกมาเบาๆ คล้ายกับประกาศกับตัวเอง
ไม่เคยมีสาวใด ที่แค่แรกพบก็ทำให้มันอยากได้ถึงเพียงนี้มาก่อน
ครรภ์หลอนซ่อนผี
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่ได้มีเจตนาหมายถึงบุคคล สถานที่ หรือ องค์กรใดๆ
เนื้อหามีส่วนที่เป็นความรุนแรง เพศ และ คำหยาบคาย
ผืดพลาดแต่ประการใดผู้เขียนขออภัยมา ณ ที่นี้
ขอบคุณมากครับ
คำเตือน....นิยายเรื่องนี้ยังไม่จบนะครับ ผมเจตนาเอามาลงใน PANTIP แค่ 15 EP จากทั้งหมดที่กี่ EP จบก็ไม่ทราบได้เพราะยังเขียนไม่จบครับ
แต่ตั้งแต่ EP 16 ขึ้นไปถ้าจะอ่านต้องไปอ่านต่อที่ https://www.tunwalai.com/story/457923/%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a0%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%8b%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%9c%e0%b8%b5
สำหรับเพื่อนๆที่ไม่สะดวก...ไม่ควรเริ่มอ่านนะครับ เพราะอาจจะทำให้ค้างได้
สำหรับเพื่อนๆที่สะดวกไปสนับสนุนต่อ ขอสัญญาว่าจะตั้งใจเขียนให้สุดฝืมือจนจบ ไม่ทำให้ผิดหวังครับ
EP1 ปริม
ตลอดระยะเวลา 4 ปีในรั้ววิทยาลัยพยาบาล ปริม แทบไม่มีโอกาสเข้าสังคมเลย
เมื่อไหร่ก็ตามที่ว่างจากการเรียน เธอจะรีบกลับไปช่วยแม่ของเธอทำขนมขาย
บ้านของเธอยากจนมาก เธอจำ " พ่อ " ได้เพียงผู้ชายที่ทุบตีแม่กับเธอทุกครั้งที่เมา
วันสุดท้ายในบ้านหลังนั้น...คือวันที่พ่อเมาและพยายามจะข่มขืนเธอ ในวัยเพียง 7 ขวบ
แม่พยายามปกป้องปริมจนสุดชีวิต จึงคว้าขวดเหล้าฟาดหัวพ่อจนล้มตึงไป
แม่อุ้มเธอออกจากบ้านทันที ด้วยเงินติดตัวแค่ไม่กี่ร้อยบาท เธอวิ่งฝ่าสายฝนพาลูกสาวหนีออกมาจากนรกขุมนั้น
เหมือนเทวดาฟ้าดินยังมีเมตตา ระหว่างการเดินทางหลบหนี มีผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือ สองแม่ลูกหลังจากผ่านความยากลำบาก สุดท้ายก็ลงหลักปักฐานใหม่ได้
ความทรงจำอันสุดแสนจะเลวร้ายที่พ่อเธอฝากไว้ ทำให้ปริมแขยงการเข้าหาของผู้ชายทุกคน
ปริม ไม่เคยคบหากับผู้ชายคนไหนเลย แม้แต่มือผู้ชายเธอก็ยังไม่เคยจับ
เรือนร่างอันสวยงามและบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอไม่เคยแปดเปื้อนกับเรื่องทางเพศมาก่อน และนั้นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยสำหรับเธอ
ในวันที่เธอรับปริญญาพยาบาล เธอไม่ได้จ้างช่างภาพมาเก็บภาพสวยๆ เธอไม่มีงานเลี้ยงฉลอง แม่เธอก็ไม่ได้ซื้อของขวัญอะไรให้ แม้แต่ดอกไม้สักช่อ
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ปริมน้อยเนื้อต่ำใจแม้เพียงสักนิด
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีและเธอเอาใบปริญญาไปให้กับแม่ที่รถเข็นขายขนมเล็กๆในตลาด สองแม่ลูกกอดกันร้องไห้ด้วยความดีใจ
ปริมรู้ดีว่า แม่ต้องทำงานหนักแค่ไหน เสียสละเพียงใด ในการหาเงินส่งเธอเรียนพยาบาลจนจบ โดยอาศัยเพียงรายได้จากการทำขนมขาย
ในที่สุดวันนี้เธอก็ทำความฝันของเธอและแม่ให้เป็นจริง แม่พูดให้เธอฟังอยู่เสมอว่าเธอเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งเดียวในชีวิตแม่
และเพียงคำพูดนี้ก็เพียงพอ
ความรักของแม่มีค่ายิ่งกว่าของขวัญใดๆ
....................
หลังพิธีสำเร็จการศึกษาผ่านไป ปริมต้องไปประจำที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด
เธอเรียนด้วยโควตานักเรียนทุนชนบท เมื่อจบแล้วจึงต้องกลับไปใช้ทุนตามสัญญา
วันนี้แม่มาส่งเธอที่สถานีรถไฟ
ตั้งแต่จำความได้จนถึงตอนนี้ ปริมอยู่ใกล้ชิดผู้เป็นแม่มาตลอด เมื่อถึงเวลาที่ต้องห่างกันทำให้ปริมอดรู้สึกใจหายไม่ได้
" ลูกไม่ต้องเป็นห่วงแม่นะ แม่อยู่ทางนี้ดูแลตัวเองได้ "
ปริมถอนใจ " หนูรู้จ้ะแม่ แต่หนูก็อดห่วงแม่ไม่ได้ แม่ก็อายุมากแล้ว ไม่รู้ว่าเวลาไม่สบายไป ใครจะดูแล "
" แม่มีลูกเป็นพยาบาลทั้งคน จะกลัวอะไร "
ปริมเอียงตัวไปซบกับไหล่แม่เธอ เพื่อให้แม่ของเธอลูบหัว " มันก็ใช่แหละ แต่หนูไม่ได้อยู่ใกล้ๆแม่นี่นา "
" ไปใช้ทุนแค่ 4 ปีไม่ใช่เหรอ เด๋วก็ค่อยย้ายกลับมาก็ได้นี่ลูก "
" โหยเวลาตั้ง 4 ปีนานจะแย่ หนูอยากอยู่ใกล้ๆแม่ให้เร็วกว่านั้น "
" เอาเถอะ เด๋วถ้าแม่คิดถึง แม่จะแวะไปหาลูกนะ เราก็ไมไ่ด้ไกลกันมาก นั่งรถไฟแค่ 4-5 ชั่วโมงก็ได้เจอกันแล้ว "
" แม่น่าจะย้ายไปอยู่กับหนู หนูไม่อยากให้แม่ทำงานอะไรแล้ว แม่เหนื่อยมามาก หนูเรียนจบแล้ว แม่น่าจะได้พักสักที "
เรื่องนี้สองแม่ลูกเถียงกันมาหลายรอบ สุดท้ายแม่ของเธอยืนยันว่าจะทำขนมขายต่อไป บางทีการทำงานมาตลอดอยู่ๆจะให้ไปอยู่บ้านเฉยๆ แม่เธออ้างว่ากลัวจะปรับตัวไม่ทัน
ที่สำคัญจริงๆเธอมองว่าการทำงานหาเงินเป็นคุณค่าในชีวิตของเธอ อย่างน้อยที่สุด เผื่อลูกสาวเธอมีเรื่องเดือดร้อนอะไร เธอยังพอมีเงินเก็บ เอาไปช่วยเหลือลูกได้ การทำขนมขาย แม้จะได้เงินไม่มาก แต่ถ้าประหยัดก็ยังพอเหลือเก็บ
หวูดรถไฟดังขึ้น นายด่านที่สถานีตีระฆังให้สัญญาณว่ารถเข้า เมื่อรถไฟจอดเรียบร้อย
ปริมกอดแม่ของเธอแน่น ราวกับจะจดจำซึมซับความอบอุ่นนี้ให้ติดตัวเธอไว้ให้ได้นานที่สุด
" หนูไปนะ " ปริมยกมือไหว้
เสียงเธอสั่น พยายามห้ามตัวเองอย่างเต็มที่ไม่ให้ร้องไห้ออกมาให้แม่ต้องเป็นห่วง
" ดูแลตัวเองดีๆนะลูก "
เมื่อรถไฟออกจากชานชลา สองแม่ลูกยืนส่งกันจนลับสายตา
เมื่อปริมเห็นผู้เป็นแม่ ค่อยๆห่างไกลออกไป หญิงสาวก็ปล่อยน้ำตาไหลอาบสองแก้มอย่างสุดกลั้น
.....................
4-5 ชั่วโมงต่อมา รถไฟพาเธอมาถึงสถานีปลายทาง ลงจากรถไฟปริมต่อรถสองแถวอีก 15 นาทีก็มาถึงโรงพยาบาล
โรงพยาบาลS เป็นโรงพยาบาลขนาด 500 เตียง ศักยภาพเป็นโรงพยาบาลทั่วไป แต่ด้วยความที่อยู่ต่างจังหวัด ทำให้มีหมอที่นี่ไม่มาก
ปริมยืนมองอาคารผู้ป่วย 13 ชั้นที่เด่นตระหง่านอยู่หน้าโรงพยาบาล บอกกับตัวเองว่า นี่คือสถานที่ที่เราจะต้องทำงานอยู่อีก 4 ปี
......................
ไม่ไกลจากแถวนั้น มีใครคนนึงแอบจ้องเธออยู่
สายตานั้นมองไปที่ใบหน้าสวยซึ้ง ตาสวยกลมโต รอบยิ้มเปี่ยมเสน่ห์
ไล่ลงมาจากใบหน้าสวยเก๋ คือรูปร่างที่เติบโตเต็มสาว หน้าอกสมส่วน เอวคอดกิ่วบางแค่คืบเดียว ขายาวสวยได้รูป
ปริมนั้น ไม่ถึงกับสวยจนเฉิดฉาย แต่เมื่อมองรวมๆแล้วดูดี เป็นความงามตามแบบธรรมชาติ ไร้การปรุงแต่ง ที่ยิ่งมองยิ่งดูเพลิน ยิ่งมองยิ่งสวย
โชคร้ายที่ความสวยของเธอ ไปกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของ" มัน " เข้าให้อย่างรุนแรง
เพียงแค่ใช้สายตาจับจ้อง มันก็รู้สึกคอแห้งขึ้นมา ความร้อนลงไปสะสมอยู่ที่อวัยวะกลางลำตัว จนอดแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเองไม่ได้
ด้วยสายตาของผู้ช่ำชองในกามราคะของมัน มองปราดเดียวก็รู้ได้ในทันทีว่า หญิงสาวคนนี้บริสุทธิ์ไม่เคยผ่านมือชายใดๆ
" กูต้องเอาอีนี่ให้ได้ "
มันส่งเสียงคำรามออกมาเบาๆ คล้ายกับประกาศกับตัวเอง
ไม่เคยมีสาวใด ที่แค่แรกพบก็ทำให้มันอยากได้ถึงเพียงนี้มาก่อน