สวัสดีค่ะ เพจ Born2Dine เพจน้องใหม่ของคนที่รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะอาหารบุฟเฟ่ต์  ขอประเดิมเริ่มต้นรีวิวแรกจากการไปรับประทานมื้อหรูๆ ที่ Oishi Grand ซึ่งอยู่ที่ชั้น 4 Siam Paragon ค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้มารับประทาน Oishi Grand ที่นี่ แต่เมื่อหลายปีก่อนเคยไปทานที่ Siam Discovery ประมาณ 2 ครั้ง และเนื่องจากยุคนี้เป็นยุคที่เราต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่หรือ New Normal เราเลยอยากจะศึกษาก่อนว่าทางร้านมีวิธีบริหารจัดการอย่างไรในด้านการบริการอาหาร จึงพยายามหารีวิวดูแต่ไม่เจอ คาดว่าหลายๆ คนก็อยากจะรู้ จึงขอมาแบ่งปันประสบการณ์กันค่ะ

ผู้เขียนเป็นสมาชิก Oishi และจองโต๊ะผ่าน app ที่ชื่อว่า BevFood ล่วงหน้า 1 วัน โดยใน app มีเวลาให้เลือกตั้งแต่ 10.00 น. ทั้งนี้ เราเลือกจองเวลา 10.30 น. สำหรับ 2 คน วันที่ไปรับประทานกันตรงกับวันอาทิตย์ค่ะ เพื่อความชัวร์คิดว่าจองไว้ก่อนดีกว่า เราและเพื่อนไปถึงหน้าร้านก่อนเวลาจอง 10 นาที ทีแรกคิดว่าจะเข้าได้เลยเพราะเข้าใจว่าร้านเปิดตั้งแต่ 10.00 น. แต่ปรากฏว่าน้องพนักงานแจ้งว่า “ร้านเปิด 11 โมงค่ะ” เราเกิดความงุนงงและแจ้งน้องพนักงานกลับไปว่า แต่ใน app ให้จองโต๊ะเพื่อรับประทานได้ตั้งแต่ 10.00 นะ น้องพนักงานตอบว่า “เปลี่ยนเวลาแล้วค่ะ” ในจุดนี้ เราไม่ถือโทษโกรธเคืองน้องคนนั้นเลย แต่ในแง่ของการบริหารจัดการโดยภาพรวมนั้น ผู้เกี่ยวข้องควรไปแก้ไขเวลาใน app นะคะ เนื่องจากทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดและเสียเวลาค่ะ เราและเพื่อนต้องยอมจำนนทนหิวหิ้วพุงย้อยๆ ที่รอคอยอาหารอย่างใจจดใจจ่อ แล้วถ่อสังขารไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าเพื่อรอเวลาร้านเปิดค่ะ

ได้เวลาร้านเปิดแล้ว ก็รีบเดินกลับไปที่ร้านค่ะ ก่อนที่จะไปลิ้มรสกัน ขอแจ้งว่าผู้เขียนเน้นถ่ายภาพเมนูที่สั่งมานะคะ ยังไม่ได้ลองอีกหลายเมนูเลยค่ะ และขอชี้แจงว่าเราจะมีการใช้เกณฑ์ดังนี้ในการให้คะแนนด้วยค่ะ 1. รสชาติ 2. วัตถุดิบ 3. ความสะอาด 4. บรรยากาศภายในร้าน 5.บริการ 6. ราคา โดยจะแบ่งคะแนนเป็น 1-5 ดาวค่ะ 


บรรยากาศภายในร้านมีความใกล้เคียงกับโรงแรมหรู หลังคาสูง ประกอบกับมีผนังกระจกสูงตามหลังคา ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งดี นั่งไปนั่งมาโต๊ะเต็มทุกโต๊ะค่ะ 

อุปกรณ์สำคัญของนักกินอย่างช้อน ส้อม ตะเกียบ กระดาษทิชชู ถูกใส่ไว้ในห่ออย่างมิดชิดค่ะ มีป้ายขอความร่วมมือจากลูกค้าตั้งอยู่ทุกโต๊ะค่ะ โดยก่อนเข้าไปหยิบหรือตักอาหาร ลูกค้าทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งต้องทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และใส่ถุงมือพลาสติกที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ก่อนค่ะ  ในช่วงนี้ ลูกค้ายังสามารถเดินไปหยิบอาหารเองได้บางส่วน แต่เมนูส่วนใหญ่ลูกค้าต้องสแกน QR Code และสั่งผ่านโทรศัพท์ ซึ่งสะดวกสบายและทันสมัยดีค่ะ


เราขอเริ่มต้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่างสลัดปลาทูน่า-แซลมอน หน้าตาน่ารับประทาน สีสันสวยงาม รสชาติดีเลยค่ะ เมนูนี้สามารถเดินไปหยิบจากที่เคาเตอร์ได้เองค่ะ 

เมนูนี้เป็นแซลมอนในน้ำซีฟู้ด อร่อยมากค่ะ เห็นภาพแล้วน้ำลายจะไหลค่ะ เมนูนี้ก็สามารถเดินไปหยิบจากที่เคาเตอร์ได้เองค่ะ

จานนี้คือข้าวปั้นหน้าปลาแซลมอลและฟัวกราส์ต้องสั่งผ่าน QR Code เท่านั้นค่ะ 1 ออเดอร์จะได้ 2 ชิ้น ขอบอกว่านอกจากจะหน้าตาดีเเล้วยังอร่อยมาก หอมขึ้นจมูก จนต้องสั่งเพิ่มอีก 4 ชิ้นเลย 😋 อิอิ

จานนี้คือข้าวปั้นหน้าปลาไหนญี่ปุ่นย่างซีอิ๊ว นุ่ม หอม อร่อยค่ะ สั่งเพิ่มสิคะ รออะไร 😋

มากิแซลมอนและเอ็นกาวะ รสชาติผ่านเเต่รู้สึกเฉยๆ ค่ะ

ข้าวปั้นหน้าหอยเซลล์ญี่ปุ่นและแซลมอน น่ากินดี รสชาติผ่านค่ะ 

กุนกันไข่ปลาแซลมอน เป็นเมนูไฮโซที่เราชอบสั่งเวลาไปกินบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นแต่ไม่ค่อยชอบรสเค็มๆ ของมันเท่าไรค่ะ เนื้อสัมผัสมันนุ่มๆ แตกง่ายๆ ในปาก เราควรกินเพื่อความคุ้มค่ะ แต่จานเดียวพอค่ะ

ข้าวปั้นหน้าเนื้อวากิว พอดีเราไม่ใช่สายเนื้อเลยรู้สึกเฉยๆ แต่ถือว่าผ่านค่ะ

ข้าวห่อสาหร่ายคลุกไข่ปู ใน app ภาพดูน่ากินเเต่ของจริงไม่ตรงปกอย่างแรง รสชาติก็เฉยๆ ค่ะ

หอยปีกนกซาชิมิ เป็นครั้งแรกที่ลองหอยชนิดนี้ เนื้อสัมผัสมันจะหนึบๆ รสชาติเฉยๆ ค่ะ ค่อนไปทางไม่ค่อยชอบค่ะ ส่วนแซลมอนซาชิมิอร่อยดีค่ะ ของโปรด ของจริงสีของเเซลมอนจะออกส้มๆ กว่าในภาพนะคะ

จานนี้ไม่ได้ลองทานเลยสักอย่าง เพื่อนสั่งมาเลยขอถ่ายรูปเก็บไว้ดูค่ะ

ปลาฮาลิบัทนึ่งมะนาว อร่อยฟินมากคร่า เนื้อขาวๆ แน่นๆ ก้างจะใหญ่เด่นชัด ทำให้เขี่ยออกได้ง่าย ไม่ต้องกลัวติดคอ น้ำจิ้มซีฟู้ดเด็ดมากคร่า

เทปันยากิปลาแซลมอน รสชาติเฉยๆ ผิดคาดค่ะ ปกติเราชอบกินแซลมอนแบบสุกนะ เราว่ามันเเห้งเกินไปค่ะ

บาร์บีคิวเนื้อวัว เพื่อนแบ่งมาให้ลอง 1 ไม้ ไม่ปลื้มค่ะ ไม่ชอบความเหนียวของเนื้อ

เทปันยากิเนื้อนิวซีแลนด์ อันนี้เพื่อนก็แบ่งมาให้ชิม หอมขึ้นจมูก เนื้อเหนียวนุ่มดีค่ะ แต่เราไม่ใช่สายเนื้ออย่างที่บอก ไม่ชอบความเหนียวของมันค่ะ เลยขอชิมแบบผ่านๆ ค่ะ สายเนื้อน่าจะชอบนะเพราะมันเหนียว นุ่ม และหอม

สปาเกตตี้ปลาแอนโชวี่และกระเทียม ชื่อเมนูฟังดูไฮโซมากเเต่เค็มมากค่ะ มีกลิ่นเเละรสคล้ายปลาเค็มบ้านเรา เราเกลียดปลาเค็มค่ะ กินเเค่ 2 คำก็ต้องกล่าวคำร่ำลา พอลองหาข้อมูลดูจึงพบว่าปลาแอนโชวี่ก็คือปลาร้าอิตาลี่ดีๆ นั่นเอง

ขนมจีบ หยิบได้เองที่เคาเตอร์อาหาร เนื้อเด้ง นุ่ม อร่อยค่ะ

ข้าวผัดกุนเชียงหยิบได้เองที่เคาเตอร์ รสชาติเฉยๆ มากค่ะ

เกี๊ยวซ่า ผักทอด กุ้งเทมปุระ รสชาติเฉยๆ ค่ะ กุ้งเทมปุระตัวนี้คือตัวสุดท้ายในถาด ได้มาตัวเดียว เสียใจ  T_T

ไอศกรีมสุดพรีเมี่ยมของ Häagen-Dazs ก็รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์นะคะ เมื่อต้องการ เพียงเดินไปที่มุมไอศกรีม แล้วแจ้งให้พนักงานตักให้ค่ะ เราลอง 1. แมคคาเดเมีย อร่อยมาก ใส่แมคคาเดเมียเยอะกว่าของ Swensen ซึ่งอร่อยคนละแบบค่ะ 2. ชาเขียว หอม อร่อย 3.ช็อคโกแลต อร่อย 4. สีชมพูเข้มนี้ไม่แน่ในว่ารสราสเบอรี่หรือไม่ แต่เปรี้ยว เราไม่ปลื้มค่ะ

บลูเบอรี่ชีสพาย ของโปรดของเราแต่รสชาติกลับเฉยๆ มาก ไม่ฟินเลย แทบไม่ได้รสชาติชีส กินไม่หมดค่ะ พานาตอตต้าธรรมดาค่ะ ส่วนเมล่อนญี่ปุ่นหวานปานกลางค่ะ

กาแฟสดมีให้เลือกหลายเมนูค่ะ เช่น เอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ ลาเต้ อเมริกาโน่ มีน้ำตาลแคลอรี่ต่ำให้ ไม่มีตัวเลือกประเภทสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนะคะ มุมนี้ติดกับมุมไอศกรีม มีพนักงานทำให้ซึ่งเป็นคนเดียวกันค่ะ

ค่าอาหารมื้อนี้ 1,990 บาท เฉลี่ยคนค่ะ 995 บ. รับประทานได้ 2 ชม. ค่ะ เเต่ๆๆ หลังจากไปทานเเล้ว 2 วันถึงสังเกตเห็นว่า เวลาในการทานอาหารควรหมดตอน 13.59 น. แต่พนักงานเเจ้งว่า 13.29 น. เพื่อความชัวร์เลยลองเข้าไปเช็คในเว็บไซต์ของ OISHI พบข้อความระบุไว้ชัดเจน "จำกัดเวลาในการรับประทานไว้ที่ 2 ชั่วโมง 30 นาที"....เอาอีกครึ่งชั่วโมงของช้านคืนมา 😡 หรือคืนเงินมาส่วนนึงได้ไหมคร้าาาา ยังกินไม่หนำใจเลยคร่า 😭😭😭

ได้เวลาให้ดาวแล้ว
1. รสชาติ 3.5/5
👍จุดเด่น: รสชาติของซูชิ ซาชิมิ และปลานึ่งพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดดีงามมาก
👎จุดด้อย: หลายๆ เมนูรสชาติเฉยๆ ธรรมดา บางเมนูก็กินไม่ได้ค่ะ

2. วัตถุดิบ 3.5/5
👍จุดเด่น: ปลาแซลมอลดีงามมาก
👎จุดด้อย: ไม่มีสารให้ความหวานแทนน้ำตาลไว้ใส่กาแฟ/ เมนูน้อยกว่าที่คิดไว้ น่าจะมีราเมน เค้ก และบิงซู แบบที่มีที่ Oishi Eaterium ด้วยนะคะ

3. ความสะอาด 5/5
👍จุดเด่น: มีมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยภาพรวมอยู่ในระดับที่ผ่านมาตรฐาน
👎จุดด้อย: ไม่มี

4. บรรยากาศภายในร้าน : 4/5
👍จุดเด่น: หลังคาสูง ปลอดโปร่ง เราไปเร็วได้เลือกที่นั่งแบบเป็นคอก รู้สึกส่วนตัวดี
👎จุดด้อย: ลูกค้าเยอะมาก เดินตักอาหารกันอย่างใกล้ชิดไม่ค่อยมี social distancing เเต่ทุกคนให้ความร่วมมือในการใส่หน้ากากอนามัย ใช้เจลล้างมือ เเละสวมถุงมือ เราจึงไม่ได้กังวลอะไรค่ะ

5. บริการ 2/5
👍จุดเด่น: พนักงานสุภาพ
👎จุดด้อย: เวลาในการให้บริการจองโต๊ะใน app ไม่อัพเดท/ พนักงานเเจ้งเวลาในการรับประทานอาหารผิด ทำให้ลูกค้าเสียสิทธิ์ในการทานไปครึ่งชั่วโมง/ พนักงานเสิร์ฟอาหารไม่ครบตามที่สั่งผ่าน OR Code คาดว่าน่าจะเป็นเพราะลูกค้าเยอะด้วยล่ะค่ะ/ อาหารเติมไม่ทันความต้องการของลูกค้า (อย่างผู้เขียน) / บางจุด เช่น จุดให้บริการกาแฟและไอศกรีมมีพนักงานคนเดียว ทำให้ต้องรอคิวนาน แถมไอศกรีมบางรสก็หมด น่าจะเติมโดยทันทีหรือเติมให้เร็วกว่านี้นะคะ เรารอชิมไอศกรีมรสคาราเมลบิสกิตเก้อเลยคร่า

6. ราคา 3.5/5
👍จุดเด่น: ทำให้คนเชื่อมั่นได้ว่าได้กินของหรูๆ แน่นอน
👎จุดด้อย: เมื่อเทียบราคากับเกณฑ์ข้อ 1-5 และร้านในเครืออย่าง Oishi Eaterium เราชอบ Oishi Eaterium มากกว่า (เคยไปทานหลายครั้งก่อนจะมีโควิดระบาด)

หากรวมคะแนนทั้งหมดจะได้ 21.5/30 หรือเฉลี่ยเป็น 3.6/ 5 ดาว รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ยินดีรับฟังทุกความเห็นค่ะ สุดท้ายนี้ ฝากติดตามเพจ Born2Dine ด้วยนะคะ คราวหน้าจะพาไปชมไปชิมของอร่อยๆ กันอีกคร่า