[SR] รีวิว MASERATI GHIBLI DISEL GRAN LUSSO สปอร์ตซีดาน ดีไซน์หรู สมรรถนะโหด ราคาดีกว่าที่คิด !


 
MASERATI เป็นแบรนด์ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ยุคสมัยก่อน อีกทั้งในไทยเองถือว่าเป็นแบรนด์ที่พรีเมี่ยม มีระดับเลยทีเดียวครับเป็นแบรนด์รถยนต์จากประเทศอิตาลีที่มีความคลาสสิก และโดดเด่นในเรื่องของงานออกแบบพอสมควรเลยครับ หลายๆคนอาจจะมองว่ามันจับต้องยากแต่ จริงๆแล้วถือว่า แบรนด์นี้ลุยตลาดได้ดีขึ้นมากพร้อมกับราคาเริ่มต้นที่จับต้องได้ง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะพอสมควร ในเรทราคา 6 ล้านปลายๆเท่านั้น อีกทั้งยังได้ประสบการณ์การขับขี่ที่อ้างอิงมาจากรถสปอร์ตได้เลยเพราะแบรนด์นี้ตั้งแต่ก่อตั้งนั้นทำรถสปอร์ตมาก่อนเรียกได้ว่าเป็น DNA ของค่ายก็ไม่เกินไปครับ อีกทั้งที่เรามักจะไม่ค่อยเห็นในไทยนั้นเป็นเพราะโควต้าแต่ละปีนั้นมีแค่ไม่กี่คันเท่านั้นทำให้ แบรนด์ยังคงรักษาความพรีเมี่ยม และโดดเด่นบนท้องถนนได้ดีเป็นอีกจุดเด่นของค่ายนี้นั้นเองครับ สำหรับครั้งนี้เรามาอยู่กับ GHIBLI เป็นรถยนต์ตระกูล Sport Sedan ระดับพรีเมี่ยมที่โดดเด่นพอสมควรครับ ต้องบอกก่อนว่า GHIBLI นั้นแต่ก่อนจะเป็นรถยนต์ COUPE 2 ประตู แต่มาในรุ่นที่ 3 มีการปรับเปลี่ยนเป็น 4 ประตูเพื่อที่จะตอบโจทย์การใช้งานและเข้าถึงลูกค้าในการใช้งาน Daily Use ได้มากขึ้นนั้นเองจึงออกมาเป็น Ghibli แบบที่เราเห็นในรีวิวบทความนี้ และเป็นเครื่องยนต์ Diesel ด้วยถือว่ามีความแปลกใหม่พอสมควรครับ สำหรับ Ghibli Diesel Gran Lusso คันนี้ ในราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาทเท่านั้น และได้สัมผัสความพรีเมี่ยมจาก MASERATI ถือว่าราคาดีมากๆครับในการเปิดตัวครั้งนี้ และ เป็นแบรนด์มีระดับรวมถึงตัวแบรนด์เองนั้นดูพรีเมี่ยมกว่าราคาไปเยอะมาก อีกทั้งโมเดลแต่ละรุ่นออกแบบมาลงตัว ดีไซน์อมตะและขายได้นานมากๆกว่าจะเปลี่ยนรุ่นในแต่ละโมเดลด้วยเช่นกัน และในไทยแต่ละปีนั้นมีขายแค่ 25 คันทำให้มันมีความพรีเมี่ยม ความหายากบนท้องถนน ทำให้เป็นแบรนด์ที่ไม่ซ้ำกับใครเท่าไรด้วยนั้นเอง
 

 

 
MASERATI GHIBLI DIESEL GRAN LUSSO ทางด้านสเปกหรือว่ารุ่นย่อยของ MASERATI GHIBLI นั้นมีมาให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย Maserati Ghibli เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ วี 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 350 แรงม้า และ Maserati Ghibli Diesel เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ วี 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 275 แรงม้า รวมถึงตัวแรง Maserati Ghibli S เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ วี 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 430 แรงม้า แต่รุ่น Diesel นั้นจะ เปิดตัวมาที่ ราคาเริ่มต้น 6,890,000 บาทเท่านั้น แต่ทางที่เรารีวิวนั้นจะเป็นรุ่น MASERATI GHIBLI  DIESEL GRAN LUSSO จะอยู่ที่  7,590,000 บาท ครับจะมี อุปกรณ์ที่ติดตั้งเข้ามา คือ ระบบครูสคอนทโรลแบบแปรผันความเร็ว ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเตือนจุดอับสายตา ระบบเตือนการเปลี่ยนเลนโดยไม่เจตนา และระบบกล้องมองภาพรอบคัน ที่เพิ่มเติมเข้ามาจากรุ่นปกติ ส่วนดีไซน์นั้นจะเหมือนกันครับในภาพรวม แต่ในรุ่น S นั้นจะเปลี่ยนกันชนให้ดู สปอร์ตมากขึ้นนั้นเองที่แตกต่างกันหลักๆในรุ่นที่ได้อ่านกันนั้นจะเป็นเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ดีเซล V6 ขนาด 3.0 ลิตร  พละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า (HP) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 600 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 2,600 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหลัง จับคู่เกียร์อัตโนมัติ ZF 8 จังหวะ และมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหน้าตาใหม่ ทั้งไฟหน้า MATRIX High Beam และ ปรับกันชนหน้าหลังใหม่ทั้งหมด รวมถึงช่องดักลม ครับ และฟีเจอร์ช่วยเลือกอีกมากมายที่ใส่เข้ามาในรุ่นนี้ด้วย ระบบการเตือนการชนข้างหน้า กล้องรอบคัน หรือจะเป็นแจ้งเตือนออกนอกเลนพร้อมดึงกลับเข้าสู่เลนให้ทันที และ เตือนจุดบอดเป็นต้นครับ และ ภายในก็ยังเน้นวัสดุหนังแท้ทั้งหมด รวมถึงภายในสี ทูโทนดำแดง พร้อมกับโลโก้ ตรีศูล เด่นๆไว้ตรงพนักพิงหัวก็ให้มาครับ รวมถึงประตูทั้ง 4 บานเป็นระบบไฟฟ้าดูดให้สนิทได้เลยไม่ต้องออกแรงปิดประตูครับใส่มาให้ด้วยเช่นกัน
 

 
EXTERIOR
 
ภายนอกในรุ่นนี้ต้องบอกว่าแม้จะออกมาตั้งแต่ปี 2010 แล้วก็ตามแต่ดีไซน์รูปทรงของตัวรถต้องบอกว่าไม่ตกยุคเลยแม้แต่น้อยแม้จะมีอายุร่วม 10 ปีแล้ว และในรุ่นนี้นั้นเป็นการปรับเปลี่ยนหน้าตาใหม่ในบางส่วนเช่นในกันชนหน้า กระจังหน้า ไฟหน้า กันชนท้าย ทั้งหมดครับถือว่าเปลี่ยนน้อยมากๆ แต่ก็เพิ่มความทันสมัยของตัวรถได้ดีเลยแหละ เพราะต้องบอกกันก่อนว่าค่ายนี้แต่ละโมเดลออกมาคือขายยาวนานมาก และแต่ละโมเดลนั้นบางทีไม่ได้ทำต่อเนื่องเลยทำให้การออกแบบแต่ละรุ่นนั้นมีความใส่ใจในงานออกแบบเน้นมากๆ ทำให้ดีไซน์มันอมตะและดูสวยนานจริงๆครับจุดนี้ต้องยอมรับค่ายนี้เลยทีเดียว ดีไซน์ภาพรวมนั้นมีความเตี้ย แบนและมีกระโปรงหน้ายาว และเส้นสายชัดเจนมีบ่าสวยงามทำได้ลงตัวมากเลยครับ เส้นสายมัดกล้ามชัดเจนและการที่กดหน้าต่ำเห็นซุ้มล้อหน้าทำให้มันดูดุดันขึ้นเยอะมากครับ
 

 

 

 
ทรงการออกแบบของตัวรถนั้นการที่ทาง Maserati พยายามเน้นด้านหน้าให้มีความยาวคล้ายกับรถยนต์สปอร์ตส่งผลให้ทรงของตัวรถนั้นมีความโดดเด่นกว่า Sedan ทั่วไปแบบชัดเจนครับด้านหน้าที่กดต่ำจนเตี้ยแบน ดันซุ้มล้อด้านหน้าให้มีความสูง และ เห็นทรงเป็นมัดกล้ามส่งผลให้เวลาเจอแสงเงานั้นดูมีความลึกนูนได้ชัดเจนและทรงของไฟหน้า กระจังหน้าส่งให้รถมีความดุดันชัดเจน ด้านหลังนั้นมีความสั้นและเน้นเส้นสายบาด้านข้างทำให้มีความแบนมากขึ้นและทรงรถภาพรวมคล้ายกับรถยนต์ Supercar มีกลิ่นอายมาผสมอยู่ในด้านหลังเมื่อมองไกลๆ และในด้านข้างเราจะเห็นซุ้มล้อหน้าหลังนั้นมีความเด่น ดูมีความดุดันมากๆตัวรถค่อนข้างเตี้ย ฝากระโปรงหน้ามีความยาวส่งผลให้ภาพรวมของรถดูกระชับกระเชง มีความเป็นรถยนต์ 2 ประตูแบบรุ่นก่อนๆแต่ยังออกแบบให้ใช้งานได้4 ประตูได้แบบลงตัว
 

 

 
หน้าตรงทำให้เราเห็นเอกลักษณ์ของ Maserati แบบชัดเจนขึ้นทั้งตัวกระจังหน้าที่มีความใหญ่เด่นทรงดุดันพร้อมกับ โลโก้ ตรีศูลชัดเจน และในรุ่นล่าสุดนี้มีการปรับกระจังหน้าใหม่ กันชนด้านล่างใหม่ทั้งชุดทำให้มีความทันสมัยขึ้นช่องดักลมล่างนั้นมีความใหญ่ดุดันมากขึ้น แน่นอนว่ามีความต่ำมากๆเมื่อเทียบกับตำแหน่งที่ติดตั้งป้ายทะเบียนของคันนี้ครับ ด้านหน้าเป็นส่วนที่สวยลงตัวมากที่สุดในบรรดารถยนต์ Sport Sedan ในระดับเดียวกันดูหรู พรีเมี่ยม และมีความดุดันไปในตัวส่วนตัวค่อนข้างชอบงานออกแบบด้านหน้าค่ายนี้มากกว่าคู่แข่งพอสมควร ส่วนในด้านท้ายนั้นต้องบอกว่าไฟท้ายยังคงคล้ายแบบเดิมครับ และ ตัวทรงไฟท้ายยังไม่ค่อยสปอร์ตหรือดุดันเท่าที่ควรนักเมื่อเทียบกับด้านหน้าตัวรถ แต่ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนกันชนล่างปรับใหม่ให้เข้ากับตัวรถมากขึ้นจากรุ่นเดิมชายล่างจะเป็นสีดำทั้งหมด แต่รุ่นนี้มีเล่นสีตัวรถเข้ามาเสริมขอบข้างซ้ายขวา และตรงกลางทำให้ดูดีขึ้นมากและมาพร้อม 4ท่อจริงสวยงามถือว่าด้านท้ายดูหนาแน่น และเส้นบ่าชัดมากแต่น่าเสียดายน่าจะทำไฟท้ายหรือเส้นสายให้ดุดันเข้ากับด้านหน้าจะดีมาก
 

 

 

 
ล้อคันนี้มาพร้อมกับล้อลาย 19 นิ้วมาพร้อมกับยางขนาด 245/45/19 และลวดลายเล่นสี 2 สีสลับกันครับแต่ถ้ารุ่น Sport นั้นจะเป็นล้อลาย 19 นิ้วโทนสีเดียวจริงๆแอบชอบล้อตัว 19 มากกว่านิดหน่อยในแง่ของดีไซน์ครับตัวนี้ ยางขอบกำลังดีไม่ได้บางมากเกินไป รองรับกับถนนเมืองไทยได้ดีทีเดียว ซับแรงและขับง่ายครับ และขนาดตัวล้อนั้นกำลังพอดีกับซุ้มล้อพอสมควรกำลังลงตัวไม่เล็กและไม่ใหญ่ และระยะอะไรความสูงกำลังสวยเลยทีเดียว และจะเห็นเอกลักษณ์การเขียนชื่อรุ่น Gran Lusso ในส่วนขอบล่าง และ จะเห็นช่องลม 3 ช่องที่เป็นเอกลักษณ์ประจำค่ายไว้จริงๆตรงเหนือซุ้มล้อหน้าครับ ทุกคันต้องมีจุดนี้เลยทีเดียว และอีกจุดคือโลโก้ตรงบริเวณเสา C หลังประตูหลังนั้นเอง
 

 

 

 
กระจังหน้าเป็นจุดเด่นของค่ายนี้มานานครับในยุคหลังด้วยการออกแบบที่เด่นๆดึงลงต่ำ และ มีความใหญ่พอสมควรในรุ่นนี้ได้ปรับทรงให้มีความดุดันมากขึ้นเน้นเส้นสายแนวตั้ง และโลโก้ให้เด่นมากขึ้นรวมถึงช่องกันชนล่างก็ปรับให้มีใหญ่จะเห็นรายละเอียดในส่วนของช่องดักลมล่าง ว่ามีขีดๆแนวนอนผสมกันไปครับ และเส้นสายขอบล่างก็รับกันด้วยเช่นกัน ทางด้านโลโก้นั้นเราจะเห็นว่ามันเป็นแผ่นเรียบๆทั้งหมด เหมือนมีอะไรปิดไว้เพราะตรงนี้จะเป็นเซนเซอร์สำหรับการจับระยะคันข้างหน้ารวมถึงการตรวจจับระบบความปลอดภัยทั้งหมดนั้นเองครับ และ จะเห็นกล้องหน้ามาให้ด้วยอยู่บนโลโก้คันนี้ ใช้สำหรับระบบกล้องรอบคัน 360 องศา และจะเห็นติ่งจะงอยเป็นเอกลักษณ์ของค่ายไว้อยู่เช่นกัน และทรงด้านหน้านั้นเมื่อมองด้านข้างจะเห็นความแหลม และ ทรงคล้ายๆกับปากฉลามอยู่นิดหน่อยส่วนของกระจัง
 

 

 

 
ภาษาโลโก้คล้ายกับตัวอักษรเขียนด้านหลังนั้นยังคงใส่เข้ามาในหลายๆรุ่นของค่ายแทนโลโก้ ตรีศูลครับ เพราะใน Ghibli รุ่นก่อนจะเป็นโมเดลนี้จะยังคงใช้โลโก้แบบเดิมแต่พอเข้าสู่ยุคใหม่ทั้งหมดนั้นจะเป็น ตัวอักษรแบบนี้ในทุกรุ่นเลยนั้นเองครับและยังคงมีจุดติ่ง 3เหลี่ยมตรงกลางรถทั้งด้านหน้า และ หลังเป็นเอกลักษณ์ด้วยเช่นกันครับ ในกันชนหลังนั้นเราจะเห็นงานออกแบบที่เปลี่ยนไปชัดเจนจากรุ่นก่อน มีการออกแบบให้โทนสีตัวรถเข้ามาคลุมถุงด้านข้างและดูดุดันขึ้นมาอีกทั้งยังมีการใส่สีตัวรถเข้ามาตรงกลางระหว่าง 4 ท่อไอเสียทำให้มันดูดุดันสปอร์ตมากขึ้น และ มีลูกเล่น และ 4ท่อจริงทั้งหมดครับสำหรับค่ายนี้เสียงบอกเลยว่าสะใจ และหนักแน่นแบบผู้ดีมากๆแม้จะเป็นดีเซลก็ตาม และเส้นสายบ่าข้างหลังนั้นยังคงเล่นกับแสงเงาได้ดีเช่นเดิมและกระจกประตูหลังนั้นจะพอดีกับกระตูเลยไม่มีกระจกต่อมาครับ
 

 

 
ชื่อสินค้า:   MASERATI GHIBLI DISEL GRAN LUSSO
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่