คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
นพ.บัลลังก์ อุปพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสต์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Jacky Ball” ว่า World Health Organization (WHO) เลือกประเทศไทยและนิวซีแลนด์ ในการถ่ายทำสารคดี ความสำเร็จในการจัดการการควบคุมและป้องกัน covid-19 โดยได้มาถ่ายทำสารคดีที่ห้องปฏิบัติการอ้างอิงของประเทศไทย National Institute of Health และมีการสอบถามถึงแล็บที่ใช้ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสต์สาธารณสุข ได้อธิบายว่า ในส่วนของห้องแล็บที่ใช้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 นั้น นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ให้นโยบายไว้ว่า จะต้องมี 1 ห้องแล็บ 1 จังหวัด และรายงานผลการตรวจได้ภายใน 1 วัน ซึ่งปัจจุบันมีห้องแล็บที่สามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 207 แห่งทั่วประเทศ หากได้รับการตรวจยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยจะถูกแยกออกจากคนอื่น ๆ ทันที โดยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือพื้นที่ที่กำหนด จนกว่าจะหายดีและไม่มีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 อีก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในชุมชน ส่วนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยก็จะเข้ากักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการจนครบ 14 วัน โดยจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้แน่ใจอีกครั้งก่อนที่จะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
โดยในตอนท้าย นพ.บัลลังก์ ได้ขอบคุณทีมจากองค์การอนามัยโลกที่มาถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้ของไทย และหวังว่าโควิด-19 จะถูกจัดการไม่ให้มีการแพร่ระบาดอีกภายในช่วง 1-2 ปีนี้
https://www.facebook.com/DrNarumonP/photos/a.229530074634679/624613461793003/
โครงการกำลังใจ ของเจ้าหน้าที่ อสม. อสส. และ รพ.สต. ลงทะเบียน 25 ก.ค.นี้
************************
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าโครงการกำลังใจ ของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2563
โดยผู้ขอรับสิทธิต้องเป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมี 1.2 ล้านราย โดยลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์มือถือ Smartphone พร้อมบัตรประชาชน โดยมือถือ 1 เครื่อง สามารถลงทะเบียนได้ 1 คนเท่านั้น
ขั้นตอนการลงทะเบียน เมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย KTB แล้ว ให้กรอกข้อมูลส่วนตัว / เบอร์มือถือ และยืนยันตัวตน ผู้ได้รับสิทธิต้องนำมือถือที่ลงทะเบียนไว้ ติดตัวตลอดการเดินทาง เพื่อสแกน QR Code ยืนยันตัวตนในวันเดินทางวันแรกและวันที่สองตามโปรแกรมท่องเที่ยวที่ได้เลือกไว้
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิค้นหาโปรแกรมท่องเที่ยวได้จากเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย หรือบริษัทนำเที่ยวที่ผ่านเกณฑ์จากสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและจดทะเบียนเป็นบริษัทนำเที่ยวก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 จะมีโปรแกรมทัวร์ที่ได้รับการอนุมัติจาก ททท. และสามารถเลือกบริษัทนำเที่ยวนอกเขตพื้นที่ตนเองได้ เริ่มเดินทางท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 30 กรกฎาคม - 31 ตุลาคม 2563 นี้
อยากให้เจ้าหน้าที่ อสม. อสส. และ รพ.สต. ใช้สิทธิในโครงการ หากต้องการเดินทางมากกว่า 2 วัน 1 คืน ก็สามารถทำได้ เพียงแต่ค่าใช้จ่ายจะไม่ถูกรวมอยู่ในโครงการนี้
https://www.facebook.com/realnewsthailand/photos/a.314925566006847/730303741135692/
หนึ่งในหลากหลายโมเดลกิจกรรมดีๆ สร้างสรรค์สังคม เพื่อร่วมกันก้าวผ่านวิกฤตโควิด จ.ระยอง
โดย ททท.สำนักงานระยอง ร่วมกับเซ็นทรัล จัดเทศกาล “กินปู” ดีเดย์วันที่ 24-28 ก.ค. 63 ซึ่งไม่ใช่เพียง...การกระตุ้นท่องเที่ยว
แต่เป็นการเชื่อม "ห่วงโซ่" ทางเศรษฐกิจ และการหมุนเวียนเม็ดเงิน ตั้งแต่ต้นทาง - กลางทาง - ปลายทาง
- ชาวประมง ลูกเรือ สะพานปลา ตลาดสด ได้เกิดการค้าขาย ขนส่ง แปรรูป
- ร้านอาหาร โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว กลับมาคึกคักจากการขายอาหาร สินค้า และจับจ่ายใช้สอยในชุมชน
- การจ้างงาน แรงงานตามร้านอาหาร โรงแรม โฮมสเตย์ แหล่งท่องเที่ยวในชุมชน สถานประกอบการต่างๆ
- เพิ่มการค้าขายแหล่งวัตถุดิบในพื้นที่ และจังหวัดข้างเคียง ทั้งพืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล
- อื่นๆ อีกมากมาย
เสริมด้วยนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลในภาพรวม
#ไทยเที่ยวไทย #เที่ยวปันสุข #กำลังใจ (สำหรับการศึกษาดูงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมจำนวน 1.2 ล้านคน) และ #เราเที่ยวด้วยกัน
https://www.xn--12c1bik6bbd8ab6hd1b5jc6jta.com/
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/323855148999814
นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง เน้นย้ำปรับการทำงานให้เป็นรูปแบบ New Normal
การขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศ ในสถานการณ์โควิด-19 ทั้งปัจจุบันและอนาคต ถือเป็นความท้าทาย จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือร่วมใจของทุกคน
ตามหลักการ #รวมไทยสร้างชาติ คือคนไทยทุกช่วงวัย ทุกกลุ่ม ทุกส่วนราชการ รัฐบาล นักการเมือง นิสิต นักศึกษา จะต้องรวมใจกันสร้างชาติ ไปสู่การพัฒนาได้โดยเร็ว
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/324088775643118
เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมกล่าวชื่นชมระบบสาธารณสุขของไทย ในการควบคุมสถานการณ์โควิด - 19
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกระชับความร่วมมือระหว่างกัน หลังจากสถานการณ์โควิด - 19 คลี่คลาย โดยนายกรัฐมนตรียินดีพร้อมให้ความร่วมมืออย่างรอบด้าน ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ยินดีที่จะผลักดันด้านการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพทางด้านการค้า ความมั่นคง ตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน (supply chains) ซึ่งจะช่วยการฟื้นตัว และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/324016808983648
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียน และสัญญาณเตือน พวกเราทุกคนจะต้องไม่ประมาท
ขอให้กำลังใจทุกคน ที่พยายามและทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ แม้จะเกิดปัญหาขึ้นมาบ้าง ขออย่าท้อถอย หรือปล่อยมือ ขอให้ทุกคนอดทน โดยเฉพาะความพยายามของการรักษาสมดุลด้านการสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม เป็นสิ่งสำคัญ
นอกจากนั้นเรายังต้องเผชิญเรื่องการบิดเบือนต่างๆ ขอให้ทุกคนยืนหยัด และตั้งมั่นในเจตนารมณ์ที่บริสุทธิ์ ที่จะทำเพื่อชาติบ้านเมือง และก้าวเดินสู่ความสำเร็จโดยรวม
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/323331825718813
นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตรวจสอบโรงแรมในโครงการ #เราเที่ยวด้วยกัน หากพบว่าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการไว้แล้ว ไปขึ้นราคามากกว่าที่ตกลงกันไว้ จะขึ้นแบล็คลิสต์ไว้ทั้งหมด
ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจเอกชน ต้องช่วยกัน ไม่อาศัยโอกาสปรับราคาสูงขึ้น เพราะหากทำไม่ดีก็จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของตัวเอง เสียชื่อเสียงและโอกาสธุรกิจในอนาคต เราควรมีความซื่อสัตย์ สุจริต ร่วมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดี
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/322439719141357
นพ.บัลลังก์ อุปพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสต์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Jacky Ball” ว่า World Health Organization (WHO) เลือกประเทศไทยและนิวซีแลนด์ ในการถ่ายทำสารคดี ความสำเร็จในการจัดการการควบคุมและป้องกัน covid-19 โดยได้มาถ่ายทำสารคดีที่ห้องปฏิบัติการอ้างอิงของประเทศไทย National Institute of Health และมีการสอบถามถึงแล็บที่ใช้ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสต์สาธารณสุข ได้อธิบายว่า ในส่วนของห้องแล็บที่ใช้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 นั้น นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ให้นโยบายไว้ว่า จะต้องมี 1 ห้องแล็บ 1 จังหวัด และรายงานผลการตรวจได้ภายใน 1 วัน ซึ่งปัจจุบันมีห้องแล็บที่สามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 207 แห่งทั่วประเทศ หากได้รับการตรวจยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยจะถูกแยกออกจากคนอื่น ๆ ทันที โดยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือพื้นที่ที่กำหนด จนกว่าจะหายดีและไม่มีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 อีก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในชุมชน ส่วนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยก็จะเข้ากักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการจนครบ 14 วัน โดยจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้แน่ใจอีกครั้งก่อนที่จะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
โดยในตอนท้าย นพ.บัลลังก์ ได้ขอบคุณทีมจากองค์การอนามัยโลกที่มาถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้ของไทย และหวังว่าโควิด-19 จะถูกจัดการไม่ให้มีการแพร่ระบาดอีกภายในช่วง 1-2 ปีนี้
https://www.facebook.com/DrNarumonP/photos/a.229530074634679/624613461793003/
โครงการกำลังใจ ของเจ้าหน้าที่ อสม. อสส. และ รพ.สต. ลงทะเบียน 25 ก.ค.นี้
************************
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าโครงการกำลังใจ ของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2563
โดยผู้ขอรับสิทธิต้องเป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมี 1.2 ล้านราย โดยลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์มือถือ Smartphone พร้อมบัตรประชาชน โดยมือถือ 1 เครื่อง สามารถลงทะเบียนได้ 1 คนเท่านั้น
ขั้นตอนการลงทะเบียน เมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย KTB แล้ว ให้กรอกข้อมูลส่วนตัว / เบอร์มือถือ และยืนยันตัวตน ผู้ได้รับสิทธิต้องนำมือถือที่ลงทะเบียนไว้ ติดตัวตลอดการเดินทาง เพื่อสแกน QR Code ยืนยันตัวตนในวันเดินทางวันแรกและวันที่สองตามโปรแกรมท่องเที่ยวที่ได้เลือกไว้
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิค้นหาโปรแกรมท่องเที่ยวได้จากเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย หรือบริษัทนำเที่ยวที่ผ่านเกณฑ์จากสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและจดทะเบียนเป็นบริษัทนำเที่ยวก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 จะมีโปรแกรมทัวร์ที่ได้รับการอนุมัติจาก ททท. และสามารถเลือกบริษัทนำเที่ยวนอกเขตพื้นที่ตนเองได้ เริ่มเดินทางท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 30 กรกฎาคม - 31 ตุลาคม 2563 นี้
อยากให้เจ้าหน้าที่ อสม. อสส. และ รพ.สต. ใช้สิทธิในโครงการ หากต้องการเดินทางมากกว่า 2 วัน 1 คืน ก็สามารถทำได้ เพียงแต่ค่าใช้จ่ายจะไม่ถูกรวมอยู่ในโครงการนี้
https://www.facebook.com/realnewsthailand/photos/a.314925566006847/730303741135692/
หนึ่งในหลากหลายโมเดลกิจกรรมดีๆ สร้างสรรค์สังคม เพื่อร่วมกันก้าวผ่านวิกฤตโควิด จ.ระยอง
โดย ททท.สำนักงานระยอง ร่วมกับเซ็นทรัล จัดเทศกาล “กินปู” ดีเดย์วันที่ 24-28 ก.ค. 63 ซึ่งไม่ใช่เพียง...การกระตุ้นท่องเที่ยว
แต่เป็นการเชื่อม "ห่วงโซ่" ทางเศรษฐกิจ และการหมุนเวียนเม็ดเงิน ตั้งแต่ต้นทาง - กลางทาง - ปลายทาง
- ชาวประมง ลูกเรือ สะพานปลา ตลาดสด ได้เกิดการค้าขาย ขนส่ง แปรรูป
- ร้านอาหาร โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว กลับมาคึกคักจากการขายอาหาร สินค้า และจับจ่ายใช้สอยในชุมชน
- การจ้างงาน แรงงานตามร้านอาหาร โรงแรม โฮมสเตย์ แหล่งท่องเที่ยวในชุมชน สถานประกอบการต่างๆ
- เพิ่มการค้าขายแหล่งวัตถุดิบในพื้นที่ และจังหวัดข้างเคียง ทั้งพืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล
- อื่นๆ อีกมากมาย
เสริมด้วยนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลในภาพรวม
#ไทยเที่ยวไทย #เที่ยวปันสุข #กำลังใจ (สำหรับการศึกษาดูงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมจำนวน 1.2 ล้านคน) และ #เราเที่ยวด้วยกัน
https://www.xn--12c1bik6bbd8ab6hd1b5jc6jta.com/
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/323855148999814
นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง เน้นย้ำปรับการทำงานให้เป็นรูปแบบ New Normal
การขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศ ในสถานการณ์โควิด-19 ทั้งปัจจุบันและอนาคต ถือเป็นความท้าทาย จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือร่วมใจของทุกคน
ตามหลักการ #รวมไทยสร้างชาติ คือคนไทยทุกช่วงวัย ทุกกลุ่ม ทุกส่วนราชการ รัฐบาล นักการเมือง นิสิต นักศึกษา จะต้องรวมใจกันสร้างชาติ ไปสู่การพัฒนาได้โดยเร็ว
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/324088775643118
เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมกล่าวชื่นชมระบบสาธารณสุขของไทย ในการควบคุมสถานการณ์โควิด - 19
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกระชับความร่วมมือระหว่างกัน หลังจากสถานการณ์โควิด - 19 คลี่คลาย โดยนายกรัฐมนตรียินดีพร้อมให้ความร่วมมืออย่างรอบด้าน ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ยินดีที่จะผลักดันด้านการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพทางด้านการค้า ความมั่นคง ตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน (supply chains) ซึ่งจะช่วยการฟื้นตัว และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/324016808983648
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียน และสัญญาณเตือน พวกเราทุกคนจะต้องไม่ประมาท
ขอให้กำลังใจทุกคน ที่พยายามและทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ แม้จะเกิดปัญหาขึ้นมาบ้าง ขออย่าท้อถอย หรือปล่อยมือ ขอให้ทุกคนอดทน โดยเฉพาะความพยายามของการรักษาสมดุลด้านการสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม เป็นสิ่งสำคัญ
นอกจากนั้นเรายังต้องเผชิญเรื่องการบิดเบือนต่างๆ ขอให้ทุกคนยืนหยัด และตั้งมั่นในเจตนารมณ์ที่บริสุทธิ์ ที่จะทำเพื่อชาติบ้านเมือง และก้าวเดินสู่ความสำเร็จโดยรวม
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/323331825718813
นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตรวจสอบโรงแรมในโครงการ #เราเที่ยวด้วยกัน หากพบว่าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการไว้แล้ว ไปขึ้นราคามากกว่าที่ตกลงกันไว้ จะขึ้นแบล็คลิสต์ไว้ทั้งหมด
ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจเอกชน ต้องช่วยกัน ไม่อาศัยโอกาสปรับราคาสูงขึ้น เพราะหากทำไม่ดีก็จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของตัวเอง เสียชื่อเสียงและโอกาสธุรกิจในอนาคต เราควรมีความซื่อสัตย์ สุจริต ร่วมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดี
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/322439719141357
แสดงความคิดเห็น
♦️♦️/มาลาริน/23 ก.ค.ป่วยโควิด 8 ราย มาจาก ตปท. ทห.กลับจากฮาวายมีอาการ10 คนรอผล ไทยร่วมWHOถอดบทเรียน"โควิด"ที่แรกของโลก
เจอผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 8 ราย จากอียิปต์ ซูดาน และสหรัฐฯ ทั่วโลกป่วย 15.3 ล้านราย ป่วยใหม่สูงที่สุด 2.79 แสนราย เผยทหารไทยกลับจากฮาวาย 151 นาย เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 10 ราย ส่งตรวจหาเชื้อ รพ.พระมงกุฎเกล้า อยู่ระหว่างรอผล อีก 1 รายมีโรคประจำตัวเข้ารักษาใน รพ.ที่เหลือ 140 รายเข้าสเตท ควอรันทีน
วันนี้ (23 ก.ค.) พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย ไม่มีคนหายและเสียชีวิตเพิ่มเติม ผู้ป่วยสะสม 3,269 ราย มาจากสถานเฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ 332 ราย รักษาหายรวม 3,105 ราย ยังรักษาใน รพ.106 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย
โดยผู้ป่วยรายใหม่มาจาก.....♦️ 1. อียิปต์ 4 ราย คือ เพศชายอายุ 21 ปี จำนวน 2 ราย เดินทางถึงไทยวันที่ 8 ก.ค. เข้าพักสเตทควอรันทีน จ.ชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 19 ก.ค.ไม่มีอาการ ซึ่งก่อนหน้านี้พบผู้ป่วยในเที่ยวบินเดียวกัน 15 ราย ♦️อีก 2 รายเป็นชายอายุ 20 ปี และ 24 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 17 ก.ค. เข้าพักสเตทควอรันทีน จ.ชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรกวันที่ 21 ก.ค.ไม่มีอาการ ก่อนหน้านี้มีผู้ป่วยในเที่ยวบินเดียวกัน 4 ราย
♦️2. ซูดาน 2 ราย เป็นเพศชาย อายุ 20 ปี และเพศหญิงอายุ 20 ปี ทั้งสองรายมีอาชีพนักศึกษา ถึงไทยวันที่ 10 ก.ค. พบมีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ตรวจหาเชื้อที่ด่านควบคุมโรค สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ไม่พบเชื้อ จึงเข้าพักสเตทควอรันทีน จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อครั้งที่ 3 คือ วันที่ 21 ก.ค.
3. สหรัฐอเมริกา 2 ราย เป็นเพศหญิงอายุ 22 ปี และ 23 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 18 ก.ค. เข้าพักสเตทควอรันทีนใน กทม. พบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 21 ก.ค.
พญ.พรรณประภากล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสม 15.3 ล้านราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 2.79 แสนราย ถือว่ามากที่สุดที่มีการระบาดมา เสียชีวิตใหม่มากกว่า 7 พันราย เสียชีวิตสะสมมากกว่า 6.3 แสนราย 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยใหม่ 7.2 หมื่นราย สะสมรวม 4.1 ล้านราย บราซิลป่วยเพิ่ม 6.5 หมื่นราย ป่วยสะสม 2.2 ล้านราย และอินเดียป่วยใหม่ 4.5 หมื่นราย สะสม 1.23 ล้านราย โดยการเสียชีวิตทั้ง 3 ประเทศสูงกว่า 1 พันรายทั้งสิ้น
พญ.พรรณประภากล่าวว่า กรณีทหารไทยกลับจากฮาวาย สหรัฐอเมริกา เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 18.50 น. ตรวจคัดกรองโรค 151 คน โดย 140 คนไม่เข้าเกณฑ์ จึงเดินทางเข้าพักสเตทควอรันทีน จ.ชลบุรี ส่วน 10 รายมีอาการเข้าได้กับเกณฑสอบสวนโรค คือ มีไข้ ไอ เสมหะ เจ็บคอ ส่งตัว รพ.พระมงกุฎเกล้าเพื่อตรวจเชื้อ อยุ่ระหว่างรอผลตรวจเชื้ออย่างเป็นทางการ และ 1 รายมีโรคประจำตัว แต่ไม่ใช่โควิด-19 เข้ารักษาที่ รพ.เช่นกัน สถานการณ์ไม่ได้น่ากังวลสำหรับประชาชน เพราะส่งเข้ารักษา และเข้าสถานเฝ้าระวังเรียบร้อย
“ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร การผ่อนคลายมาตรการทำให้เกิดสถานการณ์เปลี่ยนแปลง สิ่งที่เรายังคงทำเสมอคือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อ เพื่อเฝ้าระวังตนเองไม่ให้รับเชื้อโควิด-19 สถานการณ์อย่างไรไม่ใช่เรื่องต้องกังวล สิ่งที่ทำได้คือ การดูแลตนเองโดยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงไปในที่แออัด ปลอดเชื้อโควิด-19 ได้” พญ.พรรณประภากล่าว
https://mgronline.com/qol/detail/9630000075539
"ทหารไทย151นาย"กลับจากฮาวาย เข้ากักตัวที่แอมบาสเดอร์ฯ14วันตามมาตรการศบค.
วันนี้(22ก.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟชบุคของกองทัพบก "ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก"ได้เผยแพร่ข้อความและภาพของกำลังพลไทยที่เดินทางถึงประเทศไทย ในช่วงเย็นวันนี้ โดยระบุว่า
"ถึงไทยแล้ว... กำลังพลจากร้อย ร.ไทยทั้ง 151 นาย
หลังจากภารกิจฝึกผสม Lighting force 2020 ณ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
วันนี้เวลา 18.20 น. เครื่องบินที่นำกำลังพลร้อย ร.ไทย ทั้ง 151 นาย กลับจาก มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ลงจอด ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้กำลังพลทั้งหมดได้ปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปที่เดินทางกลับเข้าประเทศทุกประการ นอกจากนี้กองทัพบกยังได้มีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเสริมการปฏิบัติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยกำลังพลทั้งหมดได้เดินทางต่อไปยังพื้นที่กักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา"
https://siamrath.co.th/n/171583
ที่แรกของโลก "ไทย"ร่วมถอดบทเรียน "โควิด-19"กับWHO และองค์กรระหว่างประเทศ
23 ก.ค.63-นพ. ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าร่วมการถอดบทเรียนการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 โดยทีมจากองค์การอนามัยโลก องค์กรระหว่างประเทศ และสถาบันในประเทศ ระหว่างวันที่ 20-24 กรกฎาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ซึ่งมีผู้แทนและผู้ปฏิบัติงานจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนจากองค์การเภสัชกรรม โรงพยาบาลรัฐและเอกชน มหาวิทยาลัย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มูลนิธิรักษ์ไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และอีกหลายหน่วยงาน เข้าร่วมกว่า 100 คน ใน 9 เสาหลักสำคัญต่อการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ได้แก่
1) การประสานงาน การวางแผน การติดตามและประเมินผลในระดับประเทศ
2) การสื่อสารความเสี่ยงและการมีส่วนร่วมของชุมชน
3) การเฝ้าระวัง การสอบสวนโรค และการติดตามผู้สัมผัส
4) ช่องทางเข้าออกประเทศ
5) ระบบห้องปฏิบัติการแห่งชาติ
6) การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ
7) การจัดการผู้ป่วย และการแบ่งปันความรู้ นวัตกรรมและการวิจัย
8) การสนับสนุนการปฏิบัติงานและการขนส่งในห่วงโซ่อุปทาน และการจัดการกำลังคน และ
9) การบำรุงรักษาด้านบริการสุขภาพที่จำเป็นระหว่างการระบาดของโรคโควิด 19
โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่เข้าร่วมการถอดบทเรียนการดำเนินงานจัดการปัญหาโรคโควิด 19 โดยใช้เครื่องมือที่องค์การอนามัยโลกได้พัฒนาขึ้นมาใหม่
นพ.สมบัติ แทนประเสริฐสุข นายแพทย์ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การที่ประเทศไทยเข้าร่วมการถอดบทเรียนการดำเนินงานภายใต้การระบาดของโรคโควิด 19 ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางานป้องกันควบคุมโรค พัฒนาระบบบริหารจัดการภายใต้ภาวะฉุกเฉิน รวมถึงพัฒนากระบวนการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ดียิ่งขึ้น เพื่อก้าวไปสู่ความมั่นคงด้านสุขภาพของประเทศไทย พร้อมรับมือกับการระบาดระลอกสองที่อาจจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ของประเทศไทยจะไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศมาหลายสัปดาห์แล้ว แต่ยังมีการรายงานการพบผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศในสถานกักกันที่สนับสนุนโดยรัฐบาล ดังนั้น ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจึงมีความจำเป็นในการป้องกันโรค ซึ่งสอดคล้องกับผลการประชุมเตรียมการถอดบทเรียน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจากหลายภาคส่วน เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งจัดโดยสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค พบว่า...♦️
ประเทศไทยมีความเข้มแข็งในการป้องกันควบคุมโรคที่ดี อันเกิดจากความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ ระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับพื้นที่ที่ร่วมกันดำเนินการตามมาตรการและให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี รวมถึงความร่วมมือจากประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยในการสนับสนุนการดำเนินงานตามมาตรการต่างๆ และให้ร่วมมือในการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อโควิด 19
https://mgronline.com/qol/detail/9630000075539
อย่าอ้างว่า...ไม่มีการติดเชื้อโควิดในประเทศแล้วคิดว่า....♦️
จะทำอะไรก็ได้ ตามใจฉัน
อย่างมุ้งมิ้ง นั้น ต้องการไม่ให้ใช้ พ.ร.ก. ไม่ทราบว่ามุ้งมิ้งแบกหามพ.ร.ก.เอาไว้หรืออย่างไร จึงรู้สึกหนักบ่าไหล่หรือศีรษะ
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ ถ้าเราประมาท
ต้อนรับทหารไทยกลับบ้าน ขนาดแข็งแรงสมชายชาติทหาร ยังมึอาการที่ต้องตรวจเชื้อลุ้นผลโควิดค่ะ
ที่หนึ่งในโลกสำหรับไทยกับองค์การอนามัยโลก ที่มาร่วมถอดบทเรียนการดำเนินงานจัดการปัญหาโรคโควิด 19 โดยใช้เครื่องมือที่องค์การอนามัยโลกได้พัฒนาขึ้นมาใหม่
ปรบมืออีกสิคะ...รออะไร