ผมคิดว่าที่เขาได้แต่มาสังเกตเรา เพราะมนุษย์ยังมีหลายประเทศและ ยังมีสงครามอยู่ ??
คิดดู ถ้ามี สหพันธ์ดวงดาว เกิดขึ้น ใครจะอยากคบกับ ดาวเคราะห์ ที่พร้อมจะขัดแย้งกันเองอยู่เลย
วันนี้ผมเลยจะมาเสนอ แนวคิดเกี่ยวกับ มนุษย์ต่างดาว ว่า ทำไมถึงได้แต่สังเกตการณ์มนุษย์เพียงเท่านั้น
ผมคิดว่ารูปแบบ สังคมของ อารยธรรมต่างดาว คือการที่ ดาวๆ หนึ่ง รวมเป็น 1 เดียว มีชื่อของดาวเป็นเหมือนประเทศ แล้ว แลกเปลี่ยนข้อมูล กับ อีกดาวๆ หนึ่ง หรือ หลายๆ ดวง ที่มีรูปแบบเหมือนกัน นั้นคือ กฏสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เทคโนโลยี และการ สื่อสาร ของพวกเขา
ซึ่งแบบนี้มันบ่งบอกได้ว่า สังคม อารยธรรม ของ ดาวนั้นๆ มันเปิดรับสิ่งที่แตกต่างอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งไม่ใช่ดาวโลก ที่ปัจจุบันยังเหยียดแม้แต่สีผิวจนถึงขนาดฆ่ากันตายอย่างแน่นอน
และคิดว่า มนุษย์ต่างดาว ไม่อยากมีสงคราม หรือ ต้องการยึดครองโลกแม้แต่น้อย และ ที่เขายังสังเกตการณ์ เราอยู่ อาจจะเพื่อดูว่ามนุษย์โลก เป็นภัย หรือไม่ ต่างหาก ถ้าเป็นภัยเขาก็พร้อมจะกำจัดก่อนเทคโนโลยีจะพัฒนาไปมากกว่านี้ แต่ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากให้มนุษย์วิวัฒนาการในทางที่เป็น มิตร มากกว่าศัตรู เพราะ บนอวกาศที่กว้างใหญ่แบบนี้ เขาต้องการ กำลังคน กำลังสมอง ช่วยเหลือกันมากกว่า
สังเกตได้จากมนุษย์มีอะไรที่มนุษย์ต่างดาวต้องการ ซึ่งแทบไม่มีเลย แรงงาน คงไม่จำเป็นเพราะคงมีหุ่นยนต์แทนที่หมดแล้ว ทรัพยากรธรรมชาติ เหรอ? ในอวกาศที่กว้างใหญ่เนี่ยนะ บางที ปัจจัยในการดำรงชีวิต ต่างกัน จนบางสิ่งที่สำคัญกับมนุษย์อาจไร้ค่าสำหรับพวกเขาด้วยซ้ำ
ผมเลยคิดว่าเป็นไปได้มาก ว่า ถ้าโลกเรารวมกันเมื่อไหร่ และทิ้งช่วงเวลาไปสักพัก มนุษย์ต่างดาว จะเข้ามาติดต่อสื่อสารแน่นอน แต่ถ้าเราเจอเขาก่อน แล้วอยู่ๆก็เข้าไปทักทาย เราอาจโดนเล่นงานได้เช่นกัน
ซึ่งผมว่าตอนนี้เราอยู่ ในประเภท อันตราย สำหรับเขา เพราะโลกเขามีความขัดแย้งกันมากเกินไป มีหลายประเทศเกินไป หลากหลายวัฒนธรรมเกินไป ยังมีสงครามเกิดขึ้นบนโลก แต่ เทคโนโลยี อวกาศ เริ่มพัฒนาไปไกล เริ่มมองเห็นอะไรๆ ได้ไกล ขึ้น ซึ่งตรงนี้คิดว่าเขาไม่ปลื้มแน่ๆ
และ แน่นอน ที่มันเป็นแบบนี้ เพราะ มนุษย์ อาจจะ ฉลาดเกินไป หลายคนคงบอก ห๊ะ!! .... เอาจริงๆ นี่ไม่ได้พูดเล่น มนุษย์เราเนี่ยถือว่าฉลาดมากนะ และอาจจะ ฉลาดกว่ามนุษย์ต่างดาวด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้หมายความว่า เทคโนโลยีเราพัฒนามากกว่าเขานะ เพราะสังเกตดู การพัฒนาเทคโนโลยีของเรารวดเร็วมาก และ อาจเพราะความฉลาดเนี่ยแหละมันจึงรวมประเทศกันไม่ได้ เพราะมันดัน สงบซ่ะก่อนที่จะได้รวมกันจริงๆ ( จะบอกว่าสงบดีหรือป่าว? )
สังเกตดู มนุษย์เรา ล่าอาณานิคม กันมาตลอดไม่หยุดเลยนะตั้งแต่ มนุษย์เกิดขึ้นมาบนโลก แล้วมันไปหยุดเอาตอนไหน คำตอบคือ ระเบิดนิวเคลียร์ เทคโนโลยีทางสงครามที่อันตรายที่สุด ที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาได้ ทำให้หลายๆประเทศไม่กล้าทำสงครามกันเอง เพราะความเสียหายมันร้ายแรงเกินไป พอสงครามหยุด การพัฒนาทางด้านสังคม ก็พัฒนาได้เต็มที่อีก จนทำให้เห็นว่าไม่มีสงครามเราก็อยู่ได้ รักความสงบมากขึ้น แต่ปัญหาระหว่างประเทศก็ยังคงเป็นภัยเงียบที่พร้อมปะทุอยู่ดี
ผมเลยมองว่า มนุษย์ฉลาดเร็วเกินไป ส่วนทางกับความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไข เป็นดาวเคราะห์ที่ จัดอยู่ในประเภท อาจเป็นภัย แน่นอน
หลายคนคงบอกเราไม่มีทางรวมกันได้ตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้รวมกันได้ก็ยังคงมีความขัดแย้งภายในอยู่ดี แต่ผมมองว่า ปัญหาขัดแย้งภายใน นั้นคือปัญหาที่ 2 ที่มนุษย์ต้องแก้ไขมากกว่า ผมไม่มองว่าถ้ารวมกันแล้วมีปัญหาก็ไม่ต้องรวม! ซึ่งแบบนั้นเราก็ต้องเจอกับปัญหาที่ 1 ที่ไม่ได้รับการแก้ไขไปตลอดกาล ซึ่งมนุษย์จะอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้ สักวันอาจมีภัยที่คนทั้งโลกต้องสู้ร่วมกัน เช่น ภัยธรรมชาติ ทั้งจาก ภายในโลกและภายนอกโลก แต่บางปัญหาคนทั้งโลกอาจจะสู้ไม่ไหว ก็จึงจำเป็นต้องมี สหพันธ์ดวงดาว ที่ผมบอกไปข้างต้น มันจึงไปตรงกับที่ มนุษย์ต่างดาว เลยต้องการ มิตร มากกว่า ศัตรู เพราะเหตุผล เดียวกันนี้แน่นอน
ถ้าถามว่ามนุษย์ต่างดาวจะมาต้องการอะไรกับมนุษย์ที่ด้อยปัญญากว่า จะช่วยอะไรได้ ขอบอกเลยว่ามนุษย์โลกไม่ได้โง่ในสายตาพวกเขาแน่นอน แค่เราเกิดมาหลังเขา เทคโนโลยีเลย ตามหลังอยู่แค่นั้นเอง
นี่คือความคิดเห็น เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ที่เราพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง ว่าทำไมถึงไม่มาติดต่อสื่อสารกันสักที ของผมครับ ขัดใจใครก็ขออภัย
คิดไหมว่า ที่มนุษย์ต่างดาวไม่ยอมติดต่อกับโลก เพราะเรายังรวมเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ได้
คิดดู ถ้ามี สหพันธ์ดวงดาว เกิดขึ้น ใครจะอยากคบกับ ดาวเคราะห์ ที่พร้อมจะขัดแย้งกันเองอยู่เลย
วันนี้ผมเลยจะมาเสนอ แนวคิดเกี่ยวกับ มนุษย์ต่างดาว ว่า ทำไมถึงได้แต่สังเกตการณ์มนุษย์เพียงเท่านั้น
ผมคิดว่ารูปแบบ สังคมของ อารยธรรมต่างดาว คือการที่ ดาวๆ หนึ่ง รวมเป็น 1 เดียว มีชื่อของดาวเป็นเหมือนประเทศ แล้ว แลกเปลี่ยนข้อมูล กับ อีกดาวๆ หนึ่ง หรือ หลายๆ ดวง ที่มีรูปแบบเหมือนกัน นั้นคือ กฏสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เทคโนโลยี และการ สื่อสาร ของพวกเขา
ซึ่งแบบนี้มันบ่งบอกได้ว่า สังคม อารยธรรม ของ ดาวนั้นๆ มันเปิดรับสิ่งที่แตกต่างอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งไม่ใช่ดาวโลก ที่ปัจจุบันยังเหยียดแม้แต่สีผิวจนถึงขนาดฆ่ากันตายอย่างแน่นอน
และคิดว่า มนุษย์ต่างดาว ไม่อยากมีสงคราม หรือ ต้องการยึดครองโลกแม้แต่น้อย และ ที่เขายังสังเกตการณ์ เราอยู่ อาจจะเพื่อดูว่ามนุษย์โลก เป็นภัย หรือไม่ ต่างหาก ถ้าเป็นภัยเขาก็พร้อมจะกำจัดก่อนเทคโนโลยีจะพัฒนาไปมากกว่านี้ แต่ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากให้มนุษย์วิวัฒนาการในทางที่เป็น มิตร มากกว่าศัตรู เพราะ บนอวกาศที่กว้างใหญ่แบบนี้ เขาต้องการ กำลังคน กำลังสมอง ช่วยเหลือกันมากกว่า
สังเกตได้จากมนุษย์มีอะไรที่มนุษย์ต่างดาวต้องการ ซึ่งแทบไม่มีเลย แรงงาน คงไม่จำเป็นเพราะคงมีหุ่นยนต์แทนที่หมดแล้ว ทรัพยากรธรรมชาติ เหรอ? ในอวกาศที่กว้างใหญ่เนี่ยนะ บางที ปัจจัยในการดำรงชีวิต ต่างกัน จนบางสิ่งที่สำคัญกับมนุษย์อาจไร้ค่าสำหรับพวกเขาด้วยซ้ำ
ผมเลยคิดว่าเป็นไปได้มาก ว่า ถ้าโลกเรารวมกันเมื่อไหร่ และทิ้งช่วงเวลาไปสักพัก มนุษย์ต่างดาว จะเข้ามาติดต่อสื่อสารแน่นอน แต่ถ้าเราเจอเขาก่อน แล้วอยู่ๆก็เข้าไปทักทาย เราอาจโดนเล่นงานได้เช่นกัน
ซึ่งผมว่าตอนนี้เราอยู่ ในประเภท อันตราย สำหรับเขา เพราะโลกเขามีความขัดแย้งกันมากเกินไป มีหลายประเทศเกินไป หลากหลายวัฒนธรรมเกินไป ยังมีสงครามเกิดขึ้นบนโลก แต่ เทคโนโลยี อวกาศ เริ่มพัฒนาไปไกล เริ่มมองเห็นอะไรๆ ได้ไกล ขึ้น ซึ่งตรงนี้คิดว่าเขาไม่ปลื้มแน่ๆ
และ แน่นอน ที่มันเป็นแบบนี้ เพราะ มนุษย์ อาจจะ ฉลาดเกินไป หลายคนคงบอก ห๊ะ!! .... เอาจริงๆ นี่ไม่ได้พูดเล่น มนุษย์เราเนี่ยถือว่าฉลาดมากนะ และอาจจะ ฉลาดกว่ามนุษย์ต่างดาวด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้หมายความว่า เทคโนโลยีเราพัฒนามากกว่าเขานะ เพราะสังเกตดู การพัฒนาเทคโนโลยีของเรารวดเร็วมาก และ อาจเพราะความฉลาดเนี่ยแหละมันจึงรวมประเทศกันไม่ได้ เพราะมันดัน สงบซ่ะก่อนที่จะได้รวมกันจริงๆ ( จะบอกว่าสงบดีหรือป่าว? )
สังเกตดู มนุษย์เรา ล่าอาณานิคม กันมาตลอดไม่หยุดเลยนะตั้งแต่ มนุษย์เกิดขึ้นมาบนโลก แล้วมันไปหยุดเอาตอนไหน คำตอบคือ ระเบิดนิวเคลียร์ เทคโนโลยีทางสงครามที่อันตรายที่สุด ที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาได้ ทำให้หลายๆประเทศไม่กล้าทำสงครามกันเอง เพราะความเสียหายมันร้ายแรงเกินไป พอสงครามหยุด การพัฒนาทางด้านสังคม ก็พัฒนาได้เต็มที่อีก จนทำให้เห็นว่าไม่มีสงครามเราก็อยู่ได้ รักความสงบมากขึ้น แต่ปัญหาระหว่างประเทศก็ยังคงเป็นภัยเงียบที่พร้อมปะทุอยู่ดี
ผมเลยมองว่า มนุษย์ฉลาดเร็วเกินไป ส่วนทางกับความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไข เป็นดาวเคราะห์ที่ จัดอยู่ในประเภท อาจเป็นภัย แน่นอน
หลายคนคงบอกเราไม่มีทางรวมกันได้ตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้รวมกันได้ก็ยังคงมีความขัดแย้งภายในอยู่ดี แต่ผมมองว่า ปัญหาขัดแย้งภายใน นั้นคือปัญหาที่ 2 ที่มนุษย์ต้องแก้ไขมากกว่า ผมไม่มองว่าถ้ารวมกันแล้วมีปัญหาก็ไม่ต้องรวม! ซึ่งแบบนั้นเราก็ต้องเจอกับปัญหาที่ 1 ที่ไม่ได้รับการแก้ไขไปตลอดกาล ซึ่งมนุษย์จะอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้ สักวันอาจมีภัยที่คนทั้งโลกต้องสู้ร่วมกัน เช่น ภัยธรรมชาติ ทั้งจาก ภายในโลกและภายนอกโลก แต่บางปัญหาคนทั้งโลกอาจจะสู้ไม่ไหว ก็จึงจำเป็นต้องมี สหพันธ์ดวงดาว ที่ผมบอกไปข้างต้น มันจึงไปตรงกับที่ มนุษย์ต่างดาว เลยต้องการ มิตร มากกว่า ศัตรู เพราะเหตุผล เดียวกันนี้แน่นอน
ถ้าถามว่ามนุษย์ต่างดาวจะมาต้องการอะไรกับมนุษย์ที่ด้อยปัญญากว่า จะช่วยอะไรได้ ขอบอกเลยว่ามนุษย์โลกไม่ได้โง่ในสายตาพวกเขาแน่นอน แค่เราเกิดมาหลังเขา เทคโนโลยีเลย ตามหลังอยู่แค่นั้นเอง
นี่คือความคิดเห็น เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ที่เราพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง ว่าทำไมถึงไม่มาติดต่อสื่อสารกันสักที ของผมครับ ขัดใจใครก็ขออภัย