เมื่อพูดถึงจังหวัดพัทลุงของดีเด่นๆที่กำลังมาแรงอยู่ตอนนี้ก็คือ
"ผลิตภัณฑ์กระจูด"
ก่อนอื่นกระจูดหรือพัทลุงชาวบ้านมักจะเรียกว่า"จูด" ลักษณะลำต้นกลมสีเขียวอ่อน ดินสอดำ สูงประมาณ 1 - 2 เมตร ออกดอกเป็นกระจุก
ในสมัยก่อนชาวบ้านเขาจะนิยมนำกระจูดมาสานเป็นเสื่อ
กว่าจะได้กระจูดมาแต่ละเส้นจะต้องผ่านกรรมวิธีต่างๆมากมาย
ขั้นตอนที่ 1 ชาวบ้านเขาจะเข้าไปในป่าพรุเพื่อที่ตัดกระจูด
ขั้นตอนที่ 2 เขาจะนำเอากระจูดมาโสมัดเป็นกำเพื่อที่จะทำกระจูดแต่ละเส้นให้มีขนาดความสูงไล่เลี่ยกันแล้วก็นำตัดปลายให้ปลายมันเท่าเสมอกัน
ขั้นตอนที่ 3 นำกระจูดที่ตัดแล้วไปคลุกตมจะมีลักษณะเป็นโคลนสีขาว
ขั้นตอนที่ 4 นำกระจูดไปตากแดด2-3แดด
ขั้นตอนที่ 5 หลังจากนั้นนำไปรีดกับครกกลิ้งกระจูดให้ตอกของกระจูดแบน
(สมัยก่อนเขาจะใช้ครกกลิ้งกระจูดแต่ปัจจุบันจะใช้เครื่องรีดแทน)
ขั้นตอนที่ 6 นำกระจูดไปสานเป็นผลิตภัณฑ์กระจูดต่างๆ
สิ่งที่ผู้คนจะให้ความสนใจก็คือกระเป๋ากระจูดที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมือ กระเป๋ากระจูดก็มีกรรมวิธีขั้นตอนการทำที่คล้ายกับการสานเสื่อแต่จะมีเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยนึงพอหลังจากที่เราได้กระจูดที่ผ่าการตัด การคลุก การรีด ขั้นตอนต่อไปคือการสานการสานนี้จะละเอียด การสานนี้จะขึ้นอยู่กับรูปทรงของกระเป๋าด้วย ประโยชน์ของกระเป๋ากระจูดนั้น
1.ใช้ใส่ของได้จำนวนมาก(อันนี้จะขึ้นอยู่กับประโยชน์)
2.ช่วยลดโลกร้อนลดการใช้ถุงพลาสติกนำมาใช้ซ้ำๆได้
ข้อดีของกระเป๋ากระจูดนั้นยังมีอีกมามายเลย
กระเป๋ากระจูดหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆของกระจูดนี้เป็นภูมิปัญญของภาคใต้ที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น ในมัยก่อนเด็กนักเรียนในจังหวัดพัทลุงนั้นจะมีแม่ หรือญาติทำกระเป๋ากระจูดให้ใส่หนังสือไปโรงเรียนแต่ปัจจุบันนั้นไม่นิยมกันแล้ว ไม่ใช่แค่กระเป๋ากระจูดที่ใส่หนังสือไปโรงเรียนแต่ยังเป็นย่ามพระที่ใช้เดินบิณฑบาตในตอนเช้าๆ เห็นไหมคะว่าประโยชน์ของกระจูดมันมีมากมันไม่ได้มีมากแค่นี้แต่มันยังมีมากกว่านี้อีก ปัจจุบันก็จะมีเฉพาะรุ่นแม่รุ่นยายรุ่นย่าที่สานกันเพราะปัจจุบันเด็กส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาทำกระจูดแบบนี้แล้วเพราะต้องทุ่มเทให้กับเวลาเรียนส่วนจขกท.นั้นสานเป็นอยู่ค่ะแต่ก็นั่นแหละไม่ค่อยมีเวลาเหมือนกันเพราะต้องเอาเรื่องเรียนก่อนจขกท.โตมากับกระจูดเพราะที่บ้านทำผลิตภัณฑ์กระจูดตั้งแต่จขกท.อายุยังน้อยแม่ของจขกท. เล่าให้ฟังว่าแม่อายุแค่ 10 ขวบต้องสานเสื่อเป็นผืนๆแล้ว ปัจจุบันคนที่สานลดเหลือลงน้อยลงแล้วจขกท. อยากให้ทุกคนรักษาภูมิปัญญาไทยไม่ใช่แค่การผลิตกระเป๋ากระจูดหรือการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกระจูดแต่เป็นภูมิปัญญาทุกอย่างของไทยที่สืบทอดกันมาเนิ่นนานให้อยู่นานๆสืบไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเพราะเราจะได้มีเรื่องเล่าให้ลูกให้หลานเราฟังเพราะภูมิปัญญาไทยลดเหลือน้อยลงแล้วของ
ถ้าใครที่สนใจหรือต้องการกระเป๋ากระจูดนั้นจขกท.ขอแนะนำเลยนะคะต้องที่พัทลุงเลยค่ะ
กระจูดของดีพัทลุง
ก่อนอื่นกระจูดหรือพัทลุงชาวบ้านมักจะเรียกว่า"จูด" ลักษณะลำต้นกลมสีเขียวอ่อน ดินสอดำ สูงประมาณ 1 - 2 เมตร ออกดอกเป็นกระจุก
ในสมัยก่อนชาวบ้านเขาจะนิยมนำกระจูดมาสานเป็นเสื่อ
กว่าจะได้กระจูดมาแต่ละเส้นจะต้องผ่านกรรมวิธีต่างๆมากมาย
ขั้นตอนที่ 1 ชาวบ้านเขาจะเข้าไปในป่าพรุเพื่อที่ตัดกระจูด
ขั้นตอนที่ 2 เขาจะนำเอากระจูดมาโสมัดเป็นกำเพื่อที่จะทำกระจูดแต่ละเส้นให้มีขนาดความสูงไล่เลี่ยกันแล้วก็นำตัดปลายให้ปลายมันเท่าเสมอกัน
ขั้นตอนที่ 6 นำกระจูดไปสานเป็นผลิตภัณฑ์กระจูดต่างๆ
สิ่งที่ผู้คนจะให้ความสนใจก็คือกระเป๋ากระจูดที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมือ กระเป๋ากระจูดก็มีกรรมวิธีขั้นตอนการทำที่คล้ายกับการสานเสื่อแต่จะมีเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยนึงพอหลังจากที่เราได้กระจูดที่ผ่าการตัด การคลุก การรีด ขั้นตอนต่อไปคือการสานการสานนี้จะละเอียด การสานนี้จะขึ้นอยู่กับรูปทรงของกระเป๋าด้วย ประโยชน์ของกระเป๋ากระจูดนั้น
1.ใช้ใส่ของได้จำนวนมาก(อันนี้จะขึ้นอยู่กับประโยชน์)
2.ช่วยลดโลกร้อนลดการใช้ถุงพลาสติกนำมาใช้ซ้ำๆได้
ข้อดีของกระเป๋ากระจูดนั้นยังมีอีกมามายเลย
กระเป๋ากระจูดหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆของกระจูดนี้เป็นภูมิปัญญของภาคใต้ที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น ในมัยก่อนเด็กนักเรียนในจังหวัดพัทลุงนั้นจะมีแม่ หรือญาติทำกระเป๋ากระจูดให้ใส่หนังสือไปโรงเรียนแต่ปัจจุบันนั้นไม่นิยมกันแล้ว ไม่ใช่แค่กระเป๋ากระจูดที่ใส่หนังสือไปโรงเรียนแต่ยังเป็นย่ามพระที่ใช้เดินบิณฑบาตในตอนเช้าๆ เห็นไหมคะว่าประโยชน์ของกระจูดมันมีมากมันไม่ได้มีมากแค่นี้แต่มันยังมีมากกว่านี้อีก ปัจจุบันก็จะมีเฉพาะรุ่นแม่รุ่นยายรุ่นย่าที่สานกันเพราะปัจจุบันเด็กส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาทำกระจูดแบบนี้แล้วเพราะต้องทุ่มเทให้กับเวลาเรียนส่วนจขกท.นั้นสานเป็นอยู่ค่ะแต่ก็นั่นแหละไม่ค่อยมีเวลาเหมือนกันเพราะต้องเอาเรื่องเรียนก่อนจขกท.โตมากับกระจูดเพราะที่บ้านทำผลิตภัณฑ์กระจูดตั้งแต่จขกท.อายุยังน้อยแม่ของจขกท. เล่าให้ฟังว่าแม่อายุแค่ 10 ขวบต้องสานเสื่อเป็นผืนๆแล้ว ปัจจุบันคนที่สานลดเหลือลงน้อยลงแล้วจขกท. อยากให้ทุกคนรักษาภูมิปัญญาไทยไม่ใช่แค่การผลิตกระเป๋ากระจูดหรือการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกระจูดแต่เป็นภูมิปัญญาทุกอย่างของไทยที่สืบทอดกันมาเนิ่นนานให้อยู่นานๆสืบไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเพราะเราจะได้มีเรื่องเล่าให้ลูกให้หลานเราฟังเพราะภูมิปัญญาไทยลดเหลือน้อยลงแล้วของ