วันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดป่าสุขใจ บางบ่อ สมุทรปราการ เป็นครั้งแรก
ตอนเดินทางก็ไปสะดวก แต่ตามวิถีของวัดป่ามักอยู่ปลีกวิเวกออกไปพอสมควร
เมื่อไปถึงก็รู้สึกถึงความร่มรื่น
จะขอเล่าการไปใส่บาตรนะคะ
เริ่มใส่บาตรเวลาประมาณ 07.30 น.
ควรจะมาถึงที่วัดก่อนเวลาประมาณ 15-30 นาที
เพื่อเตรียมตัวด้วยความสงบ เรียบร้อย
มาถึงบ้านหน้ามีการวัดไข้ ตามมาตราการป้องกัน Covid-19
อาหารคาว และของหวานที่เป็นน้ำๆ ที่ต้องใส่จานชาม ในการฉันให้นำไปที่โรงครัว ผ่านประตูเลี้ยวขวาเลย
จะมีแม่ชีคอยดูแลช่วยเหลืออยู่
อาหารที่เราจะใส่บาตรก็ให้นำมาเตรียมตั้งไว้
ทุกอย่างจะเอาเสียง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสงบ เรียบง่าย
ข้าวแนะนำว่าในมาเป็นถุงๆ หรือใส่ในภาชนะนะคะ จะได้สะดวก
แม่ชีแนะนำว่า ไม่ควรเอาของแห้งเช่น ข้าวสาร ไมโล หรือ โอวันติน 3 in 1 มาใส่ เพราะพระไม่สามารถฉันได้
เมื่อถึงเวลาพระก็จะเดินมาบิณฑบาตร ขณะนั้นญาติโยมเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว
ไม่มีเสียงผู้คนคุยกันเลย
พระเดินมาด้วยใบหน้าเปี่ยมเมตตา หลวงพ่อเจ้าอาวาสยิ้มและทักทายญาติโยม
ลูกศิษย์นั่งลงไหว้เพื่อรอรับพระอาจารย์ที่กำลังเดินมาบิณฑบาตร เป็นภาพที่เห็นแล้วรู้สึกปิติมากค่ะ
แสดงถึงความเลื่มใสศรัทธาที่เหล่าลูกศิษย์มีด้วย
ใส่บาตรแล้วท่านก็ให้ไปที่ศาลานะคะ เพื่อฟังธรรมและรับพร
เรานั่งดูเหตุการณ์ต่างๆเป็นไป สังเกตว่าญาติโยมที่มาที่นี่สำรวมกาย สำรวมใจกันมาก
ไม่มีเสียงผู้คนพูดคุยกัน
ผู้คนส่วนใหญ่เหมือนจะเป็นคนเที่เคยมาประจำ เก้าสิบเปอรเซ็นต์สวมเสื้อขาวผู้ชายใส่กางเกงสีดำ และผู้หญิงนุ่งผ้าถุงดำ หรือกางเกงสีดำ
โดยพร้อมเพียงกัน บางทีเราไปบางวัดก็จะเห็นญาติโยมสวมใส่ชุดขาวทั้งเสื้อและกางเกง หรือใส่เสื้อสีต่างๆบ้าง
เห็นแล้วรู้สึกเรียบร้อย สุภาพ สบายตา ไปอีกแบบ
ส่วนพระสงฆ์ท่านมีจริยวัตร ที่งดงามเป็นระเบียบเดียวกัน ดูมีความนอบน้อม จนเรารู้สึกมีศรัทธา
หลังจากนั้นหลวงพ่อก็เทศน์สั่งสอนญาติโยม ในการปฏิบัติภาวนา
นอกจากจะขอนำบุญมาฝากทุกคนจะขอนำธรรมที่หลวงแสดงแล้วเราจำได้มาฝากพอสังเขป
“ให้ดูกายดูใจของเรา เมื่อมีสัมผัสทั้ง 5 ย่อมมีทุกข์ เมื่อรับทุกข์จงฝึกจิตให้เห็นความจริง อบรมใจให้เป็นสุขอยู่เสมอ เมื่อได้ยินได้ฟังเรื่องทุกข์ร้อนของใคร จงดูใจของเราอย่าร้อน อย่าเป็นบ้าตาม ให้เป็นผู้มีปกติเป็นสุขทุกเมื่อ ก่อนนอนหลังออกไปใช้ชีวิต ให้ใช้ปัญญา อบรมจิต สะสางข้อบกพร่อง จนเป็นคนที่ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอเถิด อย่าปล่อยวันคืนล่วงไปๆ โดยไม่รู้อะไรเลย”
หลวงพ่อขอฝากไว้ว่า "ให้รักษาใจให้เป็นสุข และเห็นตามความจริงอยู่เสมอ กายนี้เลี้ยงดูยากยิ่งกว่าสัตว์ใดๆ ทั้งหิว ทั้งเหนื่อยหน่าย ทั้งเจ็บ และทั้งป่วย ร้องไห้ทุรนทุราย กี่ภพ กี่ชาติแล้ว ที่เราต้องพาลพบความโศกเศร้า เจ็บปวดทั้งหลาย จงพิจารณาตัวเองให้เห็นสิ่งนี้แล้วเบื่อหน่ายเสียเถิด เร่งความเพียร เพื่อพ้นจากวัฏสงสารนี้ ดูใจของเราให้รู้แจ้ง"
"รักษาใจให้เป็นสุข" เป็นกิจที่พึงกระทำ ที่นี่จึงชื่อ "วัดป่าสุขใจ"
หลังจากนั้นก็รับพร ประมาณ เก้าโมงทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย
ขอให้ทุกๆ ท่านที่ได้อ่าน ได้รับความสงบสุขจากการอ่านกระทู้นี้นะคะ
ขอให้เป็นผู้มีจิตเป็นสุข และอบรมจิตได้รู้แจ้งดั่งพระพุทธองค์ทรงสอนไว้
ร่มเงาต้นไม้แพรกพายให้ร่ม ความเย็นจากก้อนหินผสม จึงเป็นความเย็นให้กายสัมผัส
ร่มพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ความเมตตาของผู้คนผสม จึงเป็นความเย็นให้ใจได้สัมผัส
ถ้ามีโอกาสจะไปใส่บาตรอีกหลายๆครั้งเลยค่ะ
ใส่บาตร วัดป่าสุขใจ บางบ่อ สมุทรปราการ
ตอนเดินทางก็ไปสะดวก แต่ตามวิถีของวัดป่ามักอยู่ปลีกวิเวกออกไปพอสมควร
จะขอเล่าการไปใส่บาตรนะคะ
เริ่มใส่บาตรเวลาประมาณ 07.30 น.
ควรจะมาถึงที่วัดก่อนเวลาประมาณ 15-30 นาที
เพื่อเตรียมตัวด้วยความสงบ เรียบร้อย
มาถึงบ้านหน้ามีการวัดไข้ ตามมาตราการป้องกัน Covid-19
อาหารคาว และของหวานที่เป็นน้ำๆ ที่ต้องใส่จานชาม ในการฉันให้นำไปที่โรงครัว ผ่านประตูเลี้ยวขวาเลย
จะมีแม่ชีคอยดูแลช่วยเหลืออยู่