ของผมมี 3 อย่าง ที่ทำให้หงุดหงิดมากๆ คือ
1. ฝูงแมลงวันบนถนน
มอเตอร์ไซด์ที่ไม่ได้ขับเร็ว แถมกระจัดกระจายไปทุกเลน
คือถ้า จะไม่ขับอยู่ที่บริเวณเส้นขอบเลน แล้วมา ขับรวมกันในช่องเลนแค่ 1-2 เลน
แบบนี้ก็ยังพอโอเคนะ แต่ไม่อะ พวกเค้าขับในเลนกันทุกเลน ปิดช่องทางการจราจรไปเลย
ขวางถนนมาก แล้วจะแซงก็ไม่ได้ เพราะระยะห่างก็ไม่ได้มากพอสำหรับรถยนต์ แล้วถ้าโดนล้มก็มาเป็นความผิดเรา
พบได้บ่อยเลยในกรุงเทพโซน ธนบุรี ยิ่งไปกว่านั้นในบริเวณนี้คือ คนที่คิดจะใช้เลนรถเป็นฟุตบาทก็ลงมาเดินทอดน่องหน้าตาเฉย
2. ไม่รู้จักไฟเลี้ยว
รถที่เปลี่ยนเลนหรือหักเลี้ยว โดยไม่ส่งสัญญาณไฟเลี้ยว
เข้าใจว่าคนที่ทำแบบนี้คงมาจากต่างจังหวัด.. ไม่ได้ดูถูกว่าโง่ไร้การศึกษา
แค่จะบอกว่า ต่างจังหวัดในเวลาปกติรถมันน้อยไง ไม่ค่อยมีใครตามติดหลัง ไฟเลี้ยวเลยไม่จำเป็น
แต่ในกรุงเทพ มันต่างออกไปนะ คือถ้าคันหน้าจะเปลี่ยนไปเลนอื่น โดยไม่เปิดไฟเลี้ยว เราไม่มีปัญหา (เลนที่ไปมี)
แต่การที่ รถจากเลนอื่นจะเปลี่ยนเลนมาอยู่ข้างหน้าเรา การไม่เปิดไฟเลี้ยว อันตรายมากนะ เพราะเราจะไม่ได้เตรียมชะลอ
ผมเองเจอหลายครั้ง ที่ต้องเบรคกะทันหันเพราะแบบนี้ ซึ่งมันมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดการชน และ มันก็นำมาซึ่งความเสียหาย
ถึงถ้าชน ผมก็ไม่ผิด ตามกฎหมาย เพราะคุณเข้ามาด้วยสัญญาณว่าจะยังอยู่ในเลนเดิม และ ประกันชั้น 1 ของผมก็คงสร้างความเจ็บรุนแรง
แต่มันเสียเวลา แทนที่จะขับรถอย่างสงบปกติบนถนน ก็ต้องมาโทรหาและรอประกัน เจอความเสี่ยงทะเลาะวิวาทกับคู่กรณี และ อย่างอื่นมากมาย
3. ไม่มีตังค์แต่อวดรวยบนทางด่วน
เข้าช่องอีซีพาส ทั้งที่เงินอยู่ไม่พอ แล้วก็ต้องถอยออกมา
เข้าใจเค้าก็ได้ว่าไม่รู้ แต่มันควรรู้ไง ไม่ใช่ไปเป็นปัญหาให้คนอื่นต้องถอยหลังตามๆกันไป
ยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน เลนนึงมีหลายคันต่อ การที่คุณทำให้ความสะเพร่าตัวเองมาสร้างปัญหา มันสมควรหรอ
อันที่จริง ระบบอีซี่พาสเอง พอมีเงินน้อยมันก็เตือนให้เติมอยู่แล้วนะ ด้วยการร้อง ปี๊บ ปี๊บ แทนที่จะเป็น ปี๊บ ครั้งเดียว
ถ้าคุณให้คนอื่นยืมรถ ก็ควรบอกเค้ากรณีเงินในนั้นน้อย และ ตัวคนยืมรถเอง ถ้าเค้าไม่บอก ก็ควรเผื่อด้วยการเตรียมเงินสด
อีกอย่าง ด้วยมารยาท เงินในอีซี่พาสเป็นเงินที่คนขับหลักเค้าเติมไว้ การที่คุณจะเอาไปใช้โดยพลการ คุณจะต้องเป็นคนแบบไหน
การขับรถในกรุงเทพ พฤติกรรมคนขับร่วมถนนอะไรที่น่าหงุดหงิดที่สุดครับ
1. ฝูงแมลงวันบนถนน
มอเตอร์ไซด์ที่ไม่ได้ขับเร็ว แถมกระจัดกระจายไปทุกเลน
คือถ้า จะไม่ขับอยู่ที่บริเวณเส้นขอบเลน แล้วมา ขับรวมกันในช่องเลนแค่ 1-2 เลน
แบบนี้ก็ยังพอโอเคนะ แต่ไม่อะ พวกเค้าขับในเลนกันทุกเลน ปิดช่องทางการจราจรไปเลย
ขวางถนนมาก แล้วจะแซงก็ไม่ได้ เพราะระยะห่างก็ไม่ได้มากพอสำหรับรถยนต์ แล้วถ้าโดนล้มก็มาเป็นความผิดเรา
พบได้บ่อยเลยในกรุงเทพโซน ธนบุรี ยิ่งไปกว่านั้นในบริเวณนี้คือ คนที่คิดจะใช้เลนรถเป็นฟุตบาทก็ลงมาเดินทอดน่องหน้าตาเฉย
2. ไม่รู้จักไฟเลี้ยว
รถที่เปลี่ยนเลนหรือหักเลี้ยว โดยไม่ส่งสัญญาณไฟเลี้ยว
เข้าใจว่าคนที่ทำแบบนี้คงมาจากต่างจังหวัด.. ไม่ได้ดูถูกว่าโง่ไร้การศึกษา
แค่จะบอกว่า ต่างจังหวัดในเวลาปกติรถมันน้อยไง ไม่ค่อยมีใครตามติดหลัง ไฟเลี้ยวเลยไม่จำเป็น
แต่ในกรุงเทพ มันต่างออกไปนะ คือถ้าคันหน้าจะเปลี่ยนไปเลนอื่น โดยไม่เปิดไฟเลี้ยว เราไม่มีปัญหา (เลนที่ไปมี)
แต่การที่ รถจากเลนอื่นจะเปลี่ยนเลนมาอยู่ข้างหน้าเรา การไม่เปิดไฟเลี้ยว อันตรายมากนะ เพราะเราจะไม่ได้เตรียมชะลอ
ผมเองเจอหลายครั้ง ที่ต้องเบรคกะทันหันเพราะแบบนี้ ซึ่งมันมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดการชน และ มันก็นำมาซึ่งความเสียหาย
ถึงถ้าชน ผมก็ไม่ผิด ตามกฎหมาย เพราะคุณเข้ามาด้วยสัญญาณว่าจะยังอยู่ในเลนเดิม และ ประกันชั้น 1 ของผมก็คงสร้างความเจ็บรุนแรง
แต่มันเสียเวลา แทนที่จะขับรถอย่างสงบปกติบนถนน ก็ต้องมาโทรหาและรอประกัน เจอความเสี่ยงทะเลาะวิวาทกับคู่กรณี และ อย่างอื่นมากมาย
3. ไม่มีตังค์แต่อวดรวยบนทางด่วน
เข้าช่องอีซีพาส ทั้งที่เงินอยู่ไม่พอ แล้วก็ต้องถอยออกมา
เข้าใจเค้าก็ได้ว่าไม่รู้ แต่มันควรรู้ไง ไม่ใช่ไปเป็นปัญหาให้คนอื่นต้องถอยหลังตามๆกันไป
ยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน เลนนึงมีหลายคันต่อ การที่คุณทำให้ความสะเพร่าตัวเองมาสร้างปัญหา มันสมควรหรอ
อันที่จริง ระบบอีซี่พาสเอง พอมีเงินน้อยมันก็เตือนให้เติมอยู่แล้วนะ ด้วยการร้อง ปี๊บ ปี๊บ แทนที่จะเป็น ปี๊บ ครั้งเดียว
ถ้าคุณให้คนอื่นยืมรถ ก็ควรบอกเค้ากรณีเงินในนั้นน้อย และ ตัวคนยืมรถเอง ถ้าเค้าไม่บอก ก็ควรเผื่อด้วยการเตรียมเงินสด
อีกอย่าง ด้วยมารยาท เงินในอีซี่พาสเป็นเงินที่คนขับหลักเค้าเติมไว้ การที่คุณจะเอาไปใช้โดยพลการ คุณจะต้องเป็นคนแบบไหน