วันหยุดเล็กๆกับสถานที่ที่ถูกลืม "กาญจนบุรี"

การได้เที่ยวคงเป็นความฝันของใครหลายๆคนในวันหยุด นั้นก็เป็นความคิดของผมเหมือนกันที่อยากเที่ยวทุกๆวันหยุด แต่บางที่มันก็มีเรื่องมากมายที่ทำให้ไม่สามารถออกเดินทางได้ เช่น ติดงานบ้าง  รายได้ไม่พอบ้าง โน้นนี่นั้นอีกมากมาย จนบางครั้งก็ทำฝันของตัวเองดับสลายไปโดยปริยาย  ส่วนการเดินทางครั้งนี้ก็เป็นการเดินทางโดยไม่มีการวางแผนใดๆทั้งสิ้น แค่เอ่ยคำชวนที่ว่า ไปเที่ยวกัน และคำตอบที่ได้มาก็คือ “ไปดิ” การเดินทางโดยไม่มีจุดหมาย มันดีอย่างคือไม่ต้องคิดอะไรมาก  อยากกินไร พักไหน แวะไหน ก็ทำได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา  รอบนี้สถานที่พวกเราจะไปก็คือ กาญจนบุรี  โดยการพักของเราคือนำเต็นท์ไปกลางนอนกัน ในสถานที่แห่งหนึ่งในจังหวัดกาญฯ

สายบรรทุก


สายลุย


สายเสมอ555+

พวกเราเริ่มออกจากสมุทรสาครเวลา 09.00 น. ขับไปเรื่อยๆ  วันนี้เหมือนอากาศจะเป็นใจ ไม่ค่อยมีแดดเท่าไร  ประมาณ10.00น. เริ่มจะหิวข้าวเช้าขึ้นมาแหละ เลยตัดสินใจแวะกินข้าวขาหมูในจังหวัดนครปฐม เพื่อเติมพลังสักหน่อย จากนั้นก็ดันยาวๆกันขึ้นกาญจนบุรีเลย 
                             แวะถ่ายรูปแปปฟิน                 

  พอถึงจุดที่พวกเราจะนอนคืนนี้ก็เริ่มกลางเต็นท์เลยละกันน่ะ   

   

ส่วนสายเปล่อย่างผมก็ต้องหาต้นไม้สักคู่  เดินหาอยู่พักใหญ่ หูยๆๆคู่นี้สวย แต่ว่ามันไกลจากเต็นท์เพื่อนผมมากเลย มันจะมีอะไรไหมน่า  ความคิดในแง่ลบเริ่มเกิดในสมองของผม จะมีเรื่องอะไรได้นอกจากเรื่องผีสิครับ บริเวณนี้ไฟก็ไม่มี ไฟฉายก็ไม่ได้เอามา มีแต่ไฟแฟลชโทรศัพท์ที่พอจะให้แสงสว่างได้ ใจก็อยากจะนอนแบบไม่ต้องกลางผ้าใบกันฝน อีกใจก็คิดว่า แล้วถ้าฝนเกิดตกล่ะทำไง ….
เปย์สิคะ
         จากนั้นก็ไปหาข้าวเที่ยงกินกัน  ขี่ออกไปจากที่พักสักพักนึงก็เจอเพิงข้างทางเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ข้าวตามสั่ง เอาร้านนี้แล้วกัน ผมเอ่ยบอกเพื่อนทั้งสอง ด้วยความหิวก็สั่งคนละ1ชามคนละ2 ชาม พอเก็บเงินเท่านั้นแหละถึงกับตกใจ คุนพระป้าคิดผิดไหมเนี้ย ทำไมถูกจังป้า   ป้าก็บอกกับเราว่าไม่ผิดลูกป้าขายราคานี้แหละ ป้าถามต่อมาเที่ยวกันเหรอ แล้วมาอีกน่ะชวนคนมาเที่ยวที่นี่เยอะๆน่ะ จากนั้นคุยไปคุยมาถามว่ามีตลาดใกล้ๆแถวนี่ไหม ป้าบอกไปอีกหน่อยลูก ป้าถามจะไปซื้ออะไร ผมตอบไปจะไปซื้อหมูมาย่าง ป้าอาสาบอกพวกเราอีกว่าซื้อมาดิ ป้าหมักให้  ขอบคุณครับป้า 
 
   “สิ่งที่มีค่าที่สุดอาจไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นน้ำใจไมตรีที่มีให้กันระหว่างเดินทาง”


จากนั้นพวกเราก็ขี่รถไปหาซื้อหมูที่ตลาดใกล้ๆ  เพื่อให้ป้าหมักและมาย่างที่พักของเรา

ค่ำคืนเดือนมืดที่ปราศจากสัญญาณโทรศัพท์และแสงไฟ มีเพียงแค่แสงไฟจากตะเกียงเล็กๆที่ลอดออกมาพอที่จะทำให้สว่างได้ นั่งคุยกันสักพัก ดูนาฬิกาอีกที หูยๆ เที่ยงคืนกว่าแล้วเหรอนี้ ได้เวลานอนแหละ
เพี้ยนฝันดีเพี้ยนฝันดีเพี้ยนฝันดี
ยามเช้า เสียงนกกางเขนร้องเป็นเพลงบริเวณนั้นเหมือนเสียงนาฬิกาที่คอยปลุกผมให้ตื่นขึ้นเพื่อมาสูดอาการบริสุทธิ์ในยามเช้า พวกผมก็อาบน้ำล้างหน้าเพื่อเตรียมตัวกับบ้าน เพื่อดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมๆของทุกวันต่อไป
นานาจบข่าวนานาจบข่าวนานาจบข่าว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่