สวัสดีครับ....เรื่องมีอยู่ว่า ตัวผมเป็นคน กทม แล้วต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านแฟน ที่ ตจว ครับ
ช่วงที่อยู่ กทม ผมทำงานเป็น ผจกแห่งนึง ซึ่งผมถูกโกงซ้ำซ้อนหนะครับ (หมดตัว )เลยรู้สึกว่าไม่อยากอยู่ กทม อยากจะไปพักใจเปลี่ยนการใช้ชีวิต ตจว ดูบ้างเผื่ออะไรจะดีขึ้น เราก็ตกลงกับแฟน แฟนก็โอเคครับ เพราะตัวเค้าอยากมาอยู่กับที่บ้านเค้าเป็นทุนเดิมอยุ่แล้ว
แรกๆเหมือนจะดีครับ เดือนแรกก็พยายามหางานทำ
เราทำอะไรก็ได้ครับไม่เลือกงาน เอาที่พอ มีกินเท่านั้นไปก่อนครับ เงินเดือนน้อยเราก็ยอมทำครับ ( จากที่เคยได้สูงมากๆ) ตจว ฐานเงินเดือนค่อนข้างน้อย มีอะไรทำไป วิ่งหางานตลอด เอาเป็นว่าเรื่องงานผมสู้มาก
ปกติบ้านแฟนจะอยู่นอกเมืองนะครับ
แต่พอได้งาน เรามาเช่าบ้านในเมือง เพราะจะได้เดินทางไกล้ๆ
ปัญหาเริ่มมาทีละน้อยนะครับ
เราเช่าบ้าน ด้วยความเป็นคนกรุง ก็ไม่ค่อยไว้ใจคนรอบข้างเท่าไหร่ เลยอยากได้หมาไหญ่มาเฝ้าบ้านซักตัว ( ปกติมีอยู่แล้ว 2 ตัวนะครับ แต่พันเล็ก )
ผมก็แอบเอามาเหมือนจะทำไห้ตกใจนิดหน่อย กะเอาปลื้มต้องชอบแน่ๆ ลึกๆแฟนผมก็ชอบนะครับ
แต่ว่า แม่ยายหนะสิครับ พอเห็นเท่านั้นแหละ หน้าบูด แล้วก็บ่นๆๆๆ บอกแฟนเรา เลี้ยงหมา 3 ตัวมันไม่ดีอย่างนุ้นอย่างนี้ ( แฟนผมเค้าเป็นคนที่ฟังแม่เค้ามาก )
งานงอกสิครับ พอแฟนได้ยิน ก็พูดตามนั้นเลยครับ ตามที่แม่ยายพูดแด้ะ เราก็เริ่มไม่โอเคละ จะทำไงดี ปล่อยก็ไม่ได้สงสาร เราก็เดินคิดๆอยุ่ ได้ยินแม่ยายพูดว่า ตัวเองมันยังเอาไม่รอดเลย ยังจะเอามาเพิ่มอีก ... ปรี้ดสิครับ จุดเริ่มต้นมาละครับ( คืองานที่ผมได้ คืองานร้านอาหาร แล้วผมคิดไว้แล้วว่าจะเอาอาหารที่ร้านมาเลี้ยงเค้า )
ตัวปัญหาไหญ่ กำลังมาครับ ( น้องชายต่างพ่อกับแฟน )
แม่ยายเห็นว่าน้องเรียน อยากไห้มาอยู่กับเรา เพื่อที่จะได้ประหยัดค่าหอที่ต้องไปเรียน เราก็โอเคนะตอนนั้น
แต่พออยู่ไปซักพัก เราเริ่มไม่โอเคละครับ
งานบ้านไม่ช่วยกันทำ กินข้าวเสร้จยังไง จานก็วางอยู่แบบนั้น บ้านนี้อย่างสกปรก คือเรา กลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ ต้องมาเห็นสภาพนั้นคือ มันยิ่งเหนื่อยเค้าไปอีก บ้านไม่ต้องถูไม่ต้องล้างก็ได้ แต่แค่เก็บจานที่ตัวเองกินข้าวเนี่ยพอ คือบางทีเราจะดูว่าทำมั้ย ปล่อยเป็นอาทิตย์จานวางสภาพไหน ก็อย่างนั้นเลยครับ คือจนเราทนไม่ไหวต้องมาทำเองตลอด ( บอกแบบไม่โกหกเลยนะครับ อยู่ กทม เรื่องพวกนี้ผมแทบไม่ได้แตะเลยครับ แม่เลี้ยงผมทำไห้ทุกอย่าง บ้านผมเชื้อสายเวียดนามครับ เรื่องพวกนี้ผู้ชายไม่ค่อยทำกันครับ )
น้องแฟน เรื่องสร้างปันหาก็ที่สุด กินเหล้า มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลอย่างบ่อย หนักสุด โดนจับปืนเถือน โดนค่าประกันไปเกือบแสน คดี ยังไม่จบ มาดูดยาบ้า เตอตรวจเยี่ยวอีก
แฟนผมก็บ่น ห่วงแม่อย่างงั้น อย่างงี้ ต้องช่วยน้องกลัวแม่ความดันขึ้น เอ้า เราก็ไม่ซีนะ เรื่องที่ถูกจับปืน ผมเป็นคนวิ่งไปดู คุยกับตำรวจ เอาข้าวไปเยี่ยมอย่างดี
แต่ รอบตรวจเยี่ยวผมว่าไม่ใช่ละ (ปันหาใหญ่เกิดจากตรงนี้ครับ) ผมแนะนำแฟนว่า ต้องจ่ายไห้ ต. ไปเท่านั้นเท่านี้ อะเรื่องเงินเคลียครับ ผ่าน ท่าน ต. เค้าโอเค ผมก็แนะนำแฟนไปอีกว่า ไห้ ท่าน ต. หนะขังไว้ซักคืนก่อน มันจะได้สำนึก ( เหมือนแฟนจะไม่โอเคกลัวแม่ความดันขึ้น )
เท่านั้นแหละครับ ผมก็มีปันหากันมาตลอด
เริ่มแรงขึ้นๆทุกวัน
ล่าสุดไปเอาหมามาเพิ่มที่บ้านแม่ยายนอกเมือง ( น้องชายสุดที่รักเค้าเอามา ) เพิ่มครับ เดิมมีอยุ่แล้ว 5 ตัว
คนเหนือเค้าถือเรื่องเลี้ยงหมา อย่าไห้มีเลขขี่ นะครับ
เอามาอีก 2 เป็น 7 ( ไม่มีไครว่าซักคำ )
( ลืมบอกครับ พ่อตาผม เค้าไม่คุยกับลุกชายคนนี้เลยนะครับ เพราะเอือมระอา ) แต่แม่เค้าจะรักมากกก เอาใจทุกอย่าง
งานการไม่ทำ สร้างแต่ปันหาไปวันๆ
ครั้งนึงผมกลับมาจากทำงาน แล้วแฟนผมก็สวนออกไปข้างนอกพอดี ผมนั่งเล่นกับหมาอยู่ มีเสียงตะโกนแหกปาก ออกมาดังๆว่า โว้ย หิวข้าวโว้ยนน แล้วเรียกชื่อแฟนผม อยุ่อย่างนั้น 2-3 รอบ แล้วเดินออกมาเจอผม มันคิดว่าแฟนผมอยุ่ แล้วคิดว่าผมยังไม่มา ผมเลยถามกลับไป ว่า เป็นอะไร ( เงียบกริ้บ )
ต่อมาก็เรื่องกินเหล้าครับ ผมยอมรับเลยครับ อยู่ กทม ผมกินแทบทุกวัน แต่มาอยู่ที่นี้ เฉลี่ย อาทิดละ2วันครับ
คือเราพยายามที่จะลด ลดมาตลอด ( ด้วยการเงินที่ไม่ดีด้วย และเพื่อนก็ไม่ค่อยมี ) วันไหนเค้าไปบ้านแม่ยายผมก็จะกิน แต่ถ้าวันไหนเค้าไม่ไปบ้านแม่ยาย แล้วเจอผมกินนี้เค้าจะไม่พูดด้วยเลย ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ ก็ไม่ได้กินบ่อยขนาดนั้น เหล้าที่กิน ก็เหล้าเถื่อน เฉลี่ย คนละ 50 บาท เต็มที่ 100 บาท ( อยุ่ กทม กินทีไม่ต่ำกว่า 500 )
แต่พอ น้องชายลูกเทวดาของแม่กิน ไม่มีไครว่าไม่พอ
ต้อนรับดิบดี พาเพื่อนมาถล่มบ้านกัน แฟนผมไม่ว่าเลย งง แถมเงินก็ขอแม่ บางทีก็แอบขอแฟนผม แฟนผมก็แอบไห้ครับ ( คิดว่าผมไม่รุ้ แต่น้องเค้าหลุดปากหลายครั้งละ ) นี้เป็นครั้งแรกที่ทำไห้ผมรู้ว่าแฟนเริ่มโกหกเราละ เวลาเราบ่นเหมือนแตะต้องไม่ได้อะครับ จะปกป้องกันสุดขีด
ประมานนี้แหละครับ ก็มีปันหาเรื่องน้องเค้าเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนมันถึงขีดจำกัดของความอดทนแล้วครับ พอมีปันหากัน อย่างแฟนทำอะไรไม่โอเควันนี้ ก็จะเอาเรื่องที่ผมทำผิดในอดีด เมื่อตอนอยู่ กทม มากลบเกลื่อน ตลอด เหตุผลเริ่มแย่ เริ่มคุยกันคนละทาง เราพูดเรื่อง เค้าก็จะเอาแต่เรื่องเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมาพูด เหมือนจะกลบเกลื่อน หนะครับ
ล่าสุด 3 วันที่ผ่านมา ผมไม่ได้กินเหล้าเลยตั้งแต่เข้าพรรษา นับได้ประมาน 10 วันได้
แล้วก็ขอแฟนว่าวันนี้จะกินนะ แต่แฟนก็ไม่อยากไห้กิน
เราก้นัดเพื่อนไว้แล้วด้วย แถมเพื่อนเปิดร้านอาหารวันแรกอีก เมาสิครับ กลับเที่ยงคืน
แฟนก็โกดผมมาก ผมก็รู้ตัวแหละว่าผิด
แต่มันก็มีคำถามว่า นานกินทีจะอะไรนักหน้า
มาอยุ่ ตจว จะครบปีละ เมานอนบ้านเพื่อนแค่ ครั้งเดียว ( ตอนนั้นก็มีปันหากัน เลยต้องนอนบ้านเพื่อน )
ปกติมาอยู่นี้ไม่เคยนอนไหนเลย เมากลับบ้านตลอด
คือเอาง่ายๆ ผมคิดว่าตัวผมเอง ก็เบาเรื่องเหล้าลงมาก เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เรื่องเที่ยวนี้ไม่มีเลยครับ
ผับ บาร์ ก็ไม่เคยไป พี่ชายผมยังบอกเลยว่า ดีขึ้นจนนึกว่าไม่ใช่อะ แต่ปันหาสะสมเนี่ย บางทีผมก็ไม่รุ้ว่ามาจากอะไรแน่
บอกตรงๆ น้อยใจครับ เหมือนมาอาศัยเค้าอยู่ ผมก็ทำใจอะนะครับ
เพื่อนๆพี่ๆ คิดไงกับเรื่องนี้บ้างครับ
เดี่ยวสิ้นเดือนนี้ ผมก็เก็บข้าวของกลับ กทม แล้วครับ
6 ปีครับที่อยู่ด้วยกันมา รักก็รักนะครับ
แต่เค้าเอาคนที่บ้านเขามากกว่าเรา อีกหน่อยมีลูก คงลำบาก ผมเลยตัดใจเดินออกมาดีกว่าครับ
ยาวไปนิสนะครับ แสดงความเห็นหน่อยครับ ถ้าผมผิดด่าได้เลยครับ ผมยอมรับ
ต้องจากกันเพราะ?
ช่วงที่อยู่ กทม ผมทำงานเป็น ผจกแห่งนึง ซึ่งผมถูกโกงซ้ำซ้อนหนะครับ (หมดตัว )เลยรู้สึกว่าไม่อยากอยู่ กทม อยากจะไปพักใจเปลี่ยนการใช้ชีวิต ตจว ดูบ้างเผื่ออะไรจะดีขึ้น เราก็ตกลงกับแฟน แฟนก็โอเคครับ เพราะตัวเค้าอยากมาอยู่กับที่บ้านเค้าเป็นทุนเดิมอยุ่แล้ว
แรกๆเหมือนจะดีครับ เดือนแรกก็พยายามหางานทำ
เราทำอะไรก็ได้ครับไม่เลือกงาน เอาที่พอ มีกินเท่านั้นไปก่อนครับ เงินเดือนน้อยเราก็ยอมทำครับ ( จากที่เคยได้สูงมากๆ) ตจว ฐานเงินเดือนค่อนข้างน้อย มีอะไรทำไป วิ่งหางานตลอด เอาเป็นว่าเรื่องงานผมสู้มาก
ปกติบ้านแฟนจะอยู่นอกเมืองนะครับ
แต่พอได้งาน เรามาเช่าบ้านในเมือง เพราะจะได้เดินทางไกล้ๆ
ปัญหาเริ่มมาทีละน้อยนะครับ
เราเช่าบ้าน ด้วยความเป็นคนกรุง ก็ไม่ค่อยไว้ใจคนรอบข้างเท่าไหร่ เลยอยากได้หมาไหญ่มาเฝ้าบ้านซักตัว ( ปกติมีอยู่แล้ว 2 ตัวนะครับ แต่พันเล็ก )
ผมก็แอบเอามาเหมือนจะทำไห้ตกใจนิดหน่อย กะเอาปลื้มต้องชอบแน่ๆ ลึกๆแฟนผมก็ชอบนะครับ
แต่ว่า แม่ยายหนะสิครับ พอเห็นเท่านั้นแหละ หน้าบูด แล้วก็บ่นๆๆๆ บอกแฟนเรา เลี้ยงหมา 3 ตัวมันไม่ดีอย่างนุ้นอย่างนี้ ( แฟนผมเค้าเป็นคนที่ฟังแม่เค้ามาก )
งานงอกสิครับ พอแฟนได้ยิน ก็พูดตามนั้นเลยครับ ตามที่แม่ยายพูดแด้ะ เราก็เริ่มไม่โอเคละ จะทำไงดี ปล่อยก็ไม่ได้สงสาร เราก็เดินคิดๆอยุ่ ได้ยินแม่ยายพูดว่า ตัวเองมันยังเอาไม่รอดเลย ยังจะเอามาเพิ่มอีก ... ปรี้ดสิครับ จุดเริ่มต้นมาละครับ( คืองานที่ผมได้ คืองานร้านอาหาร แล้วผมคิดไว้แล้วว่าจะเอาอาหารที่ร้านมาเลี้ยงเค้า )
ตัวปัญหาไหญ่ กำลังมาครับ ( น้องชายต่างพ่อกับแฟน )
แม่ยายเห็นว่าน้องเรียน อยากไห้มาอยู่กับเรา เพื่อที่จะได้ประหยัดค่าหอที่ต้องไปเรียน เราก็โอเคนะตอนนั้น
แต่พออยู่ไปซักพัก เราเริ่มไม่โอเคละครับ
งานบ้านไม่ช่วยกันทำ กินข้าวเสร้จยังไง จานก็วางอยู่แบบนั้น บ้านนี้อย่างสกปรก คือเรา กลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ ต้องมาเห็นสภาพนั้นคือ มันยิ่งเหนื่อยเค้าไปอีก บ้านไม่ต้องถูไม่ต้องล้างก็ได้ แต่แค่เก็บจานที่ตัวเองกินข้าวเนี่ยพอ คือบางทีเราจะดูว่าทำมั้ย ปล่อยเป็นอาทิตย์จานวางสภาพไหน ก็อย่างนั้นเลยครับ คือจนเราทนไม่ไหวต้องมาทำเองตลอด ( บอกแบบไม่โกหกเลยนะครับ อยู่ กทม เรื่องพวกนี้ผมแทบไม่ได้แตะเลยครับ แม่เลี้ยงผมทำไห้ทุกอย่าง บ้านผมเชื้อสายเวียดนามครับ เรื่องพวกนี้ผู้ชายไม่ค่อยทำกันครับ )
น้องแฟน เรื่องสร้างปันหาก็ที่สุด กินเหล้า มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลอย่างบ่อย หนักสุด โดนจับปืนเถือน โดนค่าประกันไปเกือบแสน คดี ยังไม่จบ มาดูดยาบ้า เตอตรวจเยี่ยวอีก
แฟนผมก็บ่น ห่วงแม่อย่างงั้น อย่างงี้ ต้องช่วยน้องกลัวแม่ความดันขึ้น เอ้า เราก็ไม่ซีนะ เรื่องที่ถูกจับปืน ผมเป็นคนวิ่งไปดู คุยกับตำรวจ เอาข้าวไปเยี่ยมอย่างดี
แต่ รอบตรวจเยี่ยวผมว่าไม่ใช่ละ (ปันหาใหญ่เกิดจากตรงนี้ครับ) ผมแนะนำแฟนว่า ต้องจ่ายไห้ ต. ไปเท่านั้นเท่านี้ อะเรื่องเงินเคลียครับ ผ่าน ท่าน ต. เค้าโอเค ผมก็แนะนำแฟนไปอีกว่า ไห้ ท่าน ต. หนะขังไว้ซักคืนก่อน มันจะได้สำนึก ( เหมือนแฟนจะไม่โอเคกลัวแม่ความดันขึ้น )
เท่านั้นแหละครับ ผมก็มีปันหากันมาตลอด
เริ่มแรงขึ้นๆทุกวัน
ล่าสุดไปเอาหมามาเพิ่มที่บ้านแม่ยายนอกเมือง ( น้องชายสุดที่รักเค้าเอามา ) เพิ่มครับ เดิมมีอยุ่แล้ว 5 ตัว
คนเหนือเค้าถือเรื่องเลี้ยงหมา อย่าไห้มีเลขขี่ นะครับ
เอามาอีก 2 เป็น 7 ( ไม่มีไครว่าซักคำ )
( ลืมบอกครับ พ่อตาผม เค้าไม่คุยกับลุกชายคนนี้เลยนะครับ เพราะเอือมระอา ) แต่แม่เค้าจะรักมากกก เอาใจทุกอย่าง
งานการไม่ทำ สร้างแต่ปันหาไปวันๆ
ครั้งนึงผมกลับมาจากทำงาน แล้วแฟนผมก็สวนออกไปข้างนอกพอดี ผมนั่งเล่นกับหมาอยู่ มีเสียงตะโกนแหกปาก ออกมาดังๆว่า โว้ย หิวข้าวโว้ยนน แล้วเรียกชื่อแฟนผม อยุ่อย่างนั้น 2-3 รอบ แล้วเดินออกมาเจอผม มันคิดว่าแฟนผมอยุ่ แล้วคิดว่าผมยังไม่มา ผมเลยถามกลับไป ว่า เป็นอะไร ( เงียบกริ้บ )
ต่อมาก็เรื่องกินเหล้าครับ ผมยอมรับเลยครับ อยู่ กทม ผมกินแทบทุกวัน แต่มาอยู่ที่นี้ เฉลี่ย อาทิดละ2วันครับ
คือเราพยายามที่จะลด ลดมาตลอด ( ด้วยการเงินที่ไม่ดีด้วย และเพื่อนก็ไม่ค่อยมี ) วันไหนเค้าไปบ้านแม่ยายผมก็จะกิน แต่ถ้าวันไหนเค้าไม่ไปบ้านแม่ยาย แล้วเจอผมกินนี้เค้าจะไม่พูดด้วยเลย ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ ก็ไม่ได้กินบ่อยขนาดนั้น เหล้าที่กิน ก็เหล้าเถื่อน เฉลี่ย คนละ 50 บาท เต็มที่ 100 บาท ( อยุ่ กทม กินทีไม่ต่ำกว่า 500 )
แต่พอ น้องชายลูกเทวดาของแม่กิน ไม่มีไครว่าไม่พอ
ต้อนรับดิบดี พาเพื่อนมาถล่มบ้านกัน แฟนผมไม่ว่าเลย งง แถมเงินก็ขอแม่ บางทีก็แอบขอแฟนผม แฟนผมก็แอบไห้ครับ ( คิดว่าผมไม่รุ้ แต่น้องเค้าหลุดปากหลายครั้งละ ) นี้เป็นครั้งแรกที่ทำไห้ผมรู้ว่าแฟนเริ่มโกหกเราละ เวลาเราบ่นเหมือนแตะต้องไม่ได้อะครับ จะปกป้องกันสุดขีด
ประมานนี้แหละครับ ก็มีปันหาเรื่องน้องเค้าเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนมันถึงขีดจำกัดของความอดทนแล้วครับ พอมีปันหากัน อย่างแฟนทำอะไรไม่โอเควันนี้ ก็จะเอาเรื่องที่ผมทำผิดในอดีด เมื่อตอนอยู่ กทม มากลบเกลื่อน ตลอด เหตุผลเริ่มแย่ เริ่มคุยกันคนละทาง เราพูดเรื่อง เค้าก็จะเอาแต่เรื่องเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมาพูด เหมือนจะกลบเกลื่อน หนะครับ
ล่าสุด 3 วันที่ผ่านมา ผมไม่ได้กินเหล้าเลยตั้งแต่เข้าพรรษา นับได้ประมาน 10 วันได้
แล้วก็ขอแฟนว่าวันนี้จะกินนะ แต่แฟนก็ไม่อยากไห้กิน
เราก้นัดเพื่อนไว้แล้วด้วย แถมเพื่อนเปิดร้านอาหารวันแรกอีก เมาสิครับ กลับเที่ยงคืน
แฟนก็โกดผมมาก ผมก็รู้ตัวแหละว่าผิด
แต่มันก็มีคำถามว่า นานกินทีจะอะไรนักหน้า
มาอยุ่ ตจว จะครบปีละ เมานอนบ้านเพื่อนแค่ ครั้งเดียว ( ตอนนั้นก็มีปันหากัน เลยต้องนอนบ้านเพื่อน )
ปกติมาอยู่นี้ไม่เคยนอนไหนเลย เมากลับบ้านตลอด
คือเอาง่ายๆ ผมคิดว่าตัวผมเอง ก็เบาเรื่องเหล้าลงมาก เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เรื่องเที่ยวนี้ไม่มีเลยครับ
ผับ บาร์ ก็ไม่เคยไป พี่ชายผมยังบอกเลยว่า ดีขึ้นจนนึกว่าไม่ใช่อะ แต่ปันหาสะสมเนี่ย บางทีผมก็ไม่รุ้ว่ามาจากอะไรแน่
บอกตรงๆ น้อยใจครับ เหมือนมาอาศัยเค้าอยู่ ผมก็ทำใจอะนะครับ
เพื่อนๆพี่ๆ คิดไงกับเรื่องนี้บ้างครับ
เดี่ยวสิ้นเดือนนี้ ผมก็เก็บข้าวของกลับ กทม แล้วครับ
6 ปีครับที่อยู่ด้วยกันมา รักก็รักนะครับ
แต่เค้าเอาคนที่บ้านเขามากกว่าเรา อีกหน่อยมีลูก คงลำบาก ผมเลยตัดใจเดินออกมาดีกว่าครับ
ยาวไปนิสนะครับ แสดงความเห็นหน่อยครับ ถ้าผมผิดด่าได้เลยครับ ผมยอมรับ