ประสบการณ์ผ่อนรถแบบ บอลลูน เบาลมจนใหญ่(ดอกเบี้ย)แล้วระเบิดเป็นโกโกครั้นภายหลัง

ขออนุญาติปิดกระทู้ครับ เนื่องจากกระทู้ไปไกลเกินควร กลัวกระทบหน้าที่การงาน ยังไงขอบคุณทุกความเห็นครับ ไว้มีโอกาสจะมาตั้งกระทู้ อุทาหรณ์สอนใจ กับมุมมองความรู้การลงทุนให้พี่ๆนะครับ เผื่อเป็นประโยชน์ต่อไป ด้วยรักครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าคิดว่าต้องมีรถใช้
1 ยอมผ่อนต่อ
2 เอารถขาย พอได้เงินมาก็ปิด แล้วซื้อคันใหม่อาจจะเป็นรุ่นที่ถูกกว่านี้ แล้วผ่อนเป็นแบบปกติ (ไม่ใช่บอลลูน) ลองคิดดูว่าอันไหนคุ้มกว่ากัน

ถ้าไม่จำเป็นก็ขายทิ้ง แล้วจบเรื่องหนี้

แต่สำหรับผม ผมเลือกมีรถ แม้ปัจจุบันผมจะใช้แค่วัน ส. อา. เป็นส่วนใหญ่ แต่มันก็สะดวกสบาย เกิดวันนึงคุณจำเป็นต้องใช้รถจริงๆ มันจะเสียดายนะครับ

ปล. อะไรที่พลาดไปแล้ว เอาเป็นบทเรียน แก้ไขใหม่ได้ครับ เป็นกำลังใจให้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ผ่อนทั้งปี ผ่อนทั้งชาติ

ไฟแน๊นซ์รวยเอ๊ารวยเอา

คนผ่อนรถไม่รวยซักที

เพียงเพื่อแค่ได้รถสวยดูหรูมาขับ


ตกหลุมพลางของสังคมที่คนบางกลุ่มสร้างกับดักเอาไว้
ความคิดเห็นที่ 4
โดนกับดักดอกเบี้ย เข้าไปอีกรอบ

ลองมองแบบนี้อีกครั้งนะครับ

1. รถสำคัญจำเป็นต้องใช้งานจริงหรือไม่
2. (ถ้าไม่) ก็ขายรถ เอายอดมาปิด ยอดบอลลูน ที่เหลือเก็บเงินไว้ กลับมาใช้ชีวิตปกติ ประหยัดอดออม รอออกรถเมื่อพร้อมเท่านั้น

3.(ถ้าจำเป็น) ตอนนี้มีเงินดาวน์เท่าไหร่ แล้วครับ ถึง 30-50% ของราคารถหรือเปล่า เพราะเห็น จขกท.ไม่มีเงินปิดบอลลูน (แสดงว่าขาดการวางแผนที่ดี—ไม่อยากให้วางแผนการเงินพลาดอีก)

4 ถ้าไม่ถึง ก็ลดราคารถลง เช่น ลดรุ่น, ลดสเปค ให้เงินดาวน์ไม่น้อยกว่า 30-50% และเงื่อนไขการผ่อนไม่เกิน 48 เดือน

5.กลับกัน ถ้าสถานะการเงินพร้อม ด้วยเงินดาวน์ 30-50% ผ่อนไม่เกิน 48 เดือน — อันนี้ถือว่าพร้อมสำหรับการออกรถคันใหม่แล้วครับ

ปล.ตรวจสอบสถานะเงินเก็บ+ความมั่นคงของอาชีพ ตอนนี้ด้วยนะครับ — สำหรับผมรถคันเก่าก็ขับได้ ขอให้มีเงินในกระเป๋าดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 3
มันก็จะไม่ได้มีรถเป็นของตัวเองซักกะทีนี่แหละ
เวลาผ่อนหมดนี่สบายใจดีนะ จะใช้ไปอีก 5 ปี 10 ปี ก็เป็นรถของเรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่