อย่างที่หลาย ๆ ความเห็นบอกครับ บทเรื่องนี้ไม่น่าจะ "ซับซ้อน" อย่างที่จขกท.คิด แต่น่าจะมาจากการทำงานที่ขาด "ความละเอียด" และ "ความพิถีพิถัน" ของทีมงานมากกว่าครับ...

เราลองมาไล่ไปทีละ scene ดูนะครับ...

คือตอน ep1 ช่วงแรกที่รองผ.อ.แนะนำแอพ ขึ้นว่าแตมอยู่ปี 5 >> ผมว่า อันนี้ถูกต้อง เป็นวันสอบปลายภาคตอนที่ทุกคนยังอยู่ม.5

ช่วงทำข้อสอบที่เป็นการสอบปลายภาค แพงเขียนว่าอยู่ชั้นม.6 >> พลาด(1) เพราะในกระดาษข้อสอบควรเป็นม.5

ตอนโดนรองผ.อ.เรียกพบ ในแอพแพงอยู่ปี 4 รองผ.อ.บอกว่าปีการศึกษาหน้าจะโดนลดไปอยู่ห้อง F >> พลาด(2) เพราะใน app ควรเป็น Year 5 หรือ ม.5 เพราะในตอนที่แพงไปอยู่ห้อง F ใน app จะเห็นว่า Year 6 หรือ ม.6...

แต่หากจขกท.บอกว่า scene นี้ "เป็นช่วงเลื่อนชั้นปีจาก ม.4 ไป ม.5" เราก็ต้องมานั่งตอบคำถามต่อว่า "มีความเป็นไปได้แค่ไหนที่คะแนนของแพงที่โดนหักตอนม.4 จะเท่ากันเป๊ะ ๆ กับคะแนนตอนเปิดเทอมม.6" ลองดูคะแนนด้านล่างครับ...

ตอนพบรองผอ. Class A | Rank 6 | Year 4 | Score 11,038
ตอนโดนหักคะแนน Class F | Rank 142 | Year 4 | Score 3,038
ตอนเปิดเทอมที่ห้อง F Class F | Rank 124 | Year 6 | Score 3,038

จากคิดตามที่จขกท.บอก เท่ากับช่วง ม.5 > ม.6 แพงต้องทำคะแนนได้ถึง 8,000 คะแนน และ เรียนอยู่ห้องอื่นต่อ (ไม่ใช่ห้อง F เพราะ จขกท.บอกไว้ว่า "แต่โดนทำโทษแค่ตอนขึ้นม.6" ดังนั้น จึงมีคำถามต่อว่า "ในเมื่อรองผอ.บอกว่าการทุจริตในการสอบถือว่าร้ายแรงมาก มีเหตุผลอะไรที่รองผอ.ไม่ลงโทษให้แพงไปอยู่ห้อง F ตอนม.5 ทั้ง ๆ ที่ตัดคะแนนไปแล้ว"

และถามต่อว่า "เพราะดูเหมือนแพงจะโกงข้อสอบทุกปีเลย" ซึ่งจากที่พูดมาด้านบน เท่ากับว่า "โกงตอนม.4 ก็โดนจับได้" (ตัด 8,000 คะแนน แต่ไม่ได้โดนทำโทษให้ไปอยู่ห้อง F) และ  "โกงตอนม.5 ก็โดนจับได้" (โดนลงโทษให้ไปอยู่ห้อง F) แบบนี้มันดูย้อนแย้งมาก ๆ ที่รองผอ.ยังให้แพงเรียนต่อ ทั้ง ๆ ที่โกงข้อสอบจนโดนจับได้ถึง 2 ครั้ง...

ดังนั้น คิดว่าจุดสังเกตที่จขกท.ยกมา ไม่น่าจะมีอะไรมากกว่า "ความผิดพลาด" ที่เกิดขึ้นของทีมงานครับ...