ใครจะช่วยสนับสนุนให้คู่รักที่พลัดพรากจากกันเพราะโควิดได้กลับมาพบกันบ้างคะ

สวัสดีค่ะ
เราเป็นคนหนึ่งที่มีแฟนเป็นต่างชาติและมีความสัมพันธ์แบบ Long distance relationship แต่ก่อนหน้านี้เราอยู่กับแฟนมาปีกว่า และต้องกลับไทย ก็เลยอยู่ห่างกันมาเกือบสองปีแล้ว ในปึหนึ่งๆ เราจะหาทางเจอกันประมาณ 3-4 เดือน/ครั้ง พอมาเจอเหตุการณ์โควิด ทำให้พรมแดนปิด น่านฟ้าปิด เราจึงวางแผนพบกันไม่ได้เหมือนแต่ก่อน แน่นอนค่ะว่าต้องมีคอมเมนต์ให้เราต้องมีความอดทน พิสูจน์ความรัก ฯลฯ เราเข้าใจค่ะว่าความรักเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ และยิ่งเพราะเรามี long distance relationship แล้ว เรายิ่งต้องมีความอดทนที่ทวีคูณค่ะ ขอย้ำนะคะว่า ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาไม่ใช่เรื่องของ long distance relationship กับแฟนต่างชาติค่ะ  ปกติเราก็จะเจอกันนานๆ ครั้ง ซึ่งตรงนี้คนที่มีความสัมพันธ์แบบนี้ย่อมต้องรับให้ได้ค่ะ
 
แต่การอดทนรอในสถานการณ์ตอนนี้ เราไม่ได้เป็นคนควบคุมสถานการณ์ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกันมันทำให้เกิดความเครียด และความท้อใจ ในขณะเดียวกัน คนบางกลุ่มได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ/ออกนอกประเทศได้ เช่น คนที่จดทะเบียนสมรสแล้ว (เราเห็นด้วยที่คนกลุ่มนี้ก็ต้องได้รับอนุญาต) และพวกนักธุรกิจที่ได้รับสถานะว่าจำเป็นต้องเดินทางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (เราก็ไม่เถียงค่ะเพราะนั่นก็ถูกต้อง) 
เราในฐานะที่มีคนรักต่างชาติและอยู่คนละประเทศ ความสัมพันธ์ของเราเทียบเท่าได้กับคนรักที่แต่งงานกันแล้วและจดทะเบียน เราวางแผนมีลูก เรามีแผนจะย้ายตาม เราวางแผนชีวิตคู่ด้วยกัน แต่คนกลุ่มนี้กลับถูกมองว่า การเดินทางมาพบกันในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องไม่จำเป็น เพียงเพราะทุกอย่างถูกตัดสินด้วยกระดาษแผ่นเดียวคือทะเบียนสมรส และตัดสินจากตรงนั้นว่าคุณได้รับอนุญาตเข้าประเทศ.... ****พวกเราไม่ได้จะเดินทางไปเจอกันเพราะเหตุผลด้านการท่องเที่ยวค่ะ*****พวกเราเดินทางมาพบกันเพราะพวกเราคือคนรัก พวกเราคือครอบครัว ก็เหมือนกับที่หลายๆคนเดินทางกลับบ้าน กลับต่างจังหวัดเพื่อไปเจอคนรัก เจอสามี เจอภรรยา เจอลูก เจอญาติพี่น้อง โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ ความรู้สึกเดียวกันเลยค่ะ 
ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมา เราไม่มีความอดทนอดกลั้นรอให้สถานการณ์ดีขึ้นนะคะ พวกเรารอค่ะ รอมาตั้งแต่เกิดการระบาด และรอว่าเมื่อไหร่สถานการณ์จะคลี่คลายและมีการเปิดพรมแดน ตอนนี้พรมแดนเริ่มเปิดค่ะ แต่ปิดกั้นสำหรับคนกลุ่มนี้ค่ะ 
ตอนนี้มีกลุ่มของคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนสมรส (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคู่รักระหว่างคนในอียูและนอกอียู) ทีนี้พอปิดพรมแดน คนเหล่านี้ก็ไปมาหาสู่กันไม่ได้ บางคนมีแพลนจะแต่งงาน บางคนมีลูกด้วยกัน บางคนกำลังตั้งครรภ์ บางคนถึงกำหนดคลอดแล้วแต่สามียังบินมาหาไม่ได้ บางคนป่วยแต่มาดูแลกันไม่ได้ เพราะไม่ได้รับอนุญาต คนที่เจอกันได้ คือคนที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกันแล้วเท่านั้น ตอนนี้คู่รักเหล่านี้รวมตัวกัน ตั้งเป็นกลุ่ม LoveIsnotTourism ต่อสู้เพื่อสิทธิที่ตนจะได้เจอคนรัก เพราะเค้าเห็นว่า การกลับมาพบกัน โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ เป็น essential travel (การเดินทางที่จำเป็น) ค่ะ
ลองดูนะคะว่าคนเหล่านี้เค้าสู้กันขนาดไหน แล้วแต่ละคนมีเรื่องราวอย่างไร ลองเปิดใจและดูว่า ความสัมพันธ์ระยะไกลที่จริงจังเท่ากับคู่รักที่จดทะเบียนสมรสแล้วมันมีค่ามากแค่ไหน  ตอนนี้ก็เริ่มมีแคมเปญรณรงค์เรียกร้องให้เปิดพรมแดนของไทยให้คู่รักพบกันได้ (และมีอีกหลายๆประเทศทำอยู่ด้วยจุดประสงค์เดียวกัน) แน่นอนค่ะ *****การได้รับอนุญาตเข้าประเทศจะต้องถูกกักตัวอย่างไม่มีข้อยกเว้น****
  
ลองดูนะคะ/ช่วยสนับสนุนด้วยค่ะ 🙏🙏ใน  
https://www.loveisnottourism.org   
https://www.change.org/p/thai-government-open-the-thai-borders-loveisnottourism 
https://www.facebook.com/groups/306374960756974/ 
twitter / IG ภายใต้ชื่อกลุ่ม  #loveIsnotTourism #loveisessential ได้นะคะ
แล้วคุณจะรู้ว่ารักของคนเหล่านี้มีพลังแค่ไหนและขอเป็นกำลังใจให้กับคู่รักทุกคู่ที่อยากจะกลับมาพบกัน ขอให้ได้เจอกันให้ได้เร็วที่สุดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่