เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปลายปี62 มีเพื่อนร่วมรุ่นทักมาถามบอกเดือดร้อนให้ช่วยขายพระเครืองที่มารดาให้มา ซึ่งสอบถามเเล้วว่าของเเม่ให้มาจริงๆใช่มั้ย
ก็ยืนยัน ถึงเวลาขายก็ให้เจ้าตัวเป็นคนตัดสินใจเองเรื่องราคา ว่าตกลงพอใจกับราคานี้มั้ย ซึ่งผมเองไม่มีส่วนได้จากราคาพระที่ขายไปเนื่องจากคิดว่าเพื่อนเดือดร้อนมาคงจำเป็นต้องใช้เงิน
เวลาผ่านไปเกือบปีภรรยาของเพื่อนคนนั้นทักมาว่าเป็นเจ้าของพระ สามีขโมยมา ถามว่ารับจำจำพระไว้ถ้าไม่คืน จะเเจ้งความรับของโจร ซึ่งสามีไปโกหกว่าเอามาจำนำซึ่งผมได้บอกภรรยาเพื่อนไปว่าผมไม่ได้รับจำนำนะ พอคุยกันจะให้ผมเพิ่มเงินให้ โดยมีคำอ้างว่าสามีขโมยของภรรยา สามีเขาไม่ผิด ขณะนี้ยังตกลงกันไม่ได้ซื่งผมได้คุยกับเพื่อนให้รับผิดชอบส่วนที่ภรรยาของเขาต้องการ ครั้งเเรกก็ตกลงจะรับผิดชอบเอง พอภรรยาด่าจึงมาอ้างกับผมว่าภรรยาต้องการจะเอาเงินที่ผม
กรณีเช่นนี้ ผมต้องทำอย่างไรครับมีทางสู้คดีมั้ยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
[code]ใส่โค้ด
[/code]
ขออนุญาตสอบถามขอตำเเนะนำครับ
ก็ยืนยัน ถึงเวลาขายก็ให้เจ้าตัวเป็นคนตัดสินใจเองเรื่องราคา ว่าตกลงพอใจกับราคานี้มั้ย ซึ่งผมเองไม่มีส่วนได้จากราคาพระที่ขายไปเนื่องจากคิดว่าเพื่อนเดือดร้อนมาคงจำเป็นต้องใช้เงิน
เวลาผ่านไปเกือบปีภรรยาของเพื่อนคนนั้นทักมาว่าเป็นเจ้าของพระ สามีขโมยมา ถามว่ารับจำจำพระไว้ถ้าไม่คืน จะเเจ้งความรับของโจร ซึ่งสามีไปโกหกว่าเอามาจำนำซึ่งผมได้บอกภรรยาเพื่อนไปว่าผมไม่ได้รับจำนำนะ พอคุยกันจะให้ผมเพิ่มเงินให้ โดยมีคำอ้างว่าสามีขโมยของภรรยา สามีเขาไม่ผิด ขณะนี้ยังตกลงกันไม่ได้ซื่งผมได้คุยกับเพื่อนให้รับผิดชอบส่วนที่ภรรยาของเขาต้องการ ครั้งเเรกก็ตกลงจะรับผิดชอบเอง พอภรรยาด่าจึงมาอ้างกับผมว่าภรรยาต้องการจะเอาเงินที่ผม