สุรินทร์ – หลังจากมีเรื่องราวสุดสยองชวนหลอนกับทีมงานที่วัดขยอง ชาวบ้านเชื่อวิญญาณเฮี้ยน ออกมาหลอกทีมงานจนขวัญผวากลางดึกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ขึ้น 15 ค่ำเดือน 8
วันที่ 7 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดเทพไชยมงคลหรือวัดบ้านขยอง หรือวัดผีเรือล่ม ตามที่ชาวบ้านเรียกขานกัน ตามที่มีเรื่องราวสุดแปลกประหลาดขึ้นที่นี่ระหว่างที่ทีมงานได้ไปทำบุญเวียนเทียนร่วมกับชาวบ้านในคืนวันอาสาฬบูชา โดยเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ชาวบ้านขยองประมาณ 20 คน ได้มีกิจกรรมเวียนเทียนและฟังธรรมจากพระอาจารย์ลาน เจ้าอาวาสวัดบ้านขยอง หลังจากชาวบ้านเสร็จกิจกรรมเวียนเทียนเสร็จต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านกัน เหลือเพียงทีมงานผู้สื่อข่าวที่ยังได้พูดคุยอยู่กับท่านเจ้าอาวาส ถึงเรื่องราวของวิญญาณผีเรือล่ม ที่ได้เสียชีวิตจากโศกนาฎกรรมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และระหว่างที่ได้ขอตัวกลับและลงมานั่งอยู่ตรงต้นขนุนหน้าศาลที่วางเรือมรณะ จู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดเมื่อกล้องมือถือของทางทีมงานกลับทำงานเองโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีใครได้แตะต้องมือดังกล่าว
เมื่อทางทีมงานเดินทางไปถึงวัดได้พบกับกลุ่มชาวบ้านประมาณ 20 คนได้นำเครื่องเซ่นไหว้มาทำบุญ เรือมรณะและอุทิศบุญส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณทั้ง 5 โดยพบว่าชาวบ้านบางคนได้เดินทางมาไกลจาก อ.สนม จ.สุรินทร์ โดยมีความเชื่อและศรัทธาในวัดและตำนานของผีเรือล่มที่ได้ให้โชคลาภแกผู้ที่เดินทางมาไหว้บูชา ด้านคุณยายวัยเกือบ 70 ปี ได้เลให้กับทีมงานฟังว่า ตนเองได้เดินทางมาที่วัดแห่งนี้ 3 ครั้งแล้วนับจากวันที่พบเรือดังกล่าว โดยทุครั้งที่ตนเดินทางมาไหว้บูชาซากเรือมรณะนี้ ก็จะมีโชคลาภทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกันหลังจากทราบข่างทางทีวีเมื่อเช้าตนก็ได้ให้ลูกหลานพามาเพื่อมาทำบุญร่วมกับวัดและขอโชคลาภกับดวงวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในเรือแห่งนี้ ถ้าตนโชคดีได้โชคก้อนใหญ่จะทำบุญให้เพื่อให้ดวงวิญญาณจะได้ไปผุดไปเกิด จะได้ไม่วนเวียนอยู่ในบริเวณนี้
ด้านนายเงิน เอกลาภ ผญบ.ขยอง ม.5 กล่าวกับทีมงานว่า ตนเองพอทราบว่าทางทีมงานโดยผีหลอกในคืนวันพระใหญ่ ตนในฐานะที่เป็นคนในชุมชนเชื่อว่าดวงวิญญาณของคนตายยังอยู่ในบริเวณนี้ แม้ว่าทางชุมชนได้ทำบุญครบรอบ 1 ปีที่พบเรือไปเมื่อต้นปีแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังอยู่กัน ทางตนและชุมชนยังมีความเชื่อว่าที่เขาอยู่เพราะเป็นห่วงวัดที่ยังก่อสร้างพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสาริกธาตุ ที่ได้ก่อสร้างจากงบประมาณที่มีผู้ใจบุญได้บริจาคจากการได้โชคลาภจากเรือมรณะเมื่อครั้งที่พบใหม่ๆ โดยที่ฮือฮาในคราวนั้นก็เพราะเรือเฮี้ยนหนักมีคนพบดวงวิญญาณบ่อยมากและที่สำคัญ เรือแห่งนี้ให้โชคแม่นๆติดต่อกันหลายงวดจนได้มีผู้ใจบริจาคเงินช่วยสร้างเจดีย์ จนชาวบ้านได้ขนาดนามวัดแห่งนี้ว่า วัดผีเรือล่มและผีสร้างวัด จนเป็นที่กล่าวขานกันมาจนถึงปัจจุบัน ด้านท่านผู้ใหญ่เงินกล่าว ในหลายเดือนที่ผ่านมาคนมาทำบุญน้อยมากเนื่องจากพิษโรคระบาดโควิด-19 ทำให้เงินใช้สำหรับสร้างวัดไม่มี ดวงวิญญาณผีเรือล่มจึงลุกมาเฮี้ยนทีมงาน โดยวิญญาณดวงนั้นน่าจะเป็นวิญญาณเด็กน้อยซึ่งเป็นลุกชายของคนตายชื่อนายแสร (เป็นน้องชายเจ้าอาวาส)ซึ่งจมน้ำตายพร้อมกับภรรยาที่ยังท้องอยู่ในคณะนั้น เพื่อให้ทางทีมงานช่วยสร้างวัดอีกครั้ง นั้นเอง อันนี้ทางผู้ใหญ่เงินกล่าวตามที่แกได้สัมผัสกับวัดแห่งนี้ ในฐานะคณะกรรมการของวัดนั้นเอง
ด้านนางส้ม พิศโฉม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.5 บ้านขยอง หรือป้าจันทร์ อีกหนึ่งชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นได้นำทีมงานไปชี้จุดที่ปรากฏอยู่ในคลิป ซึ่งก็คือต้นแข่ง โดยป้าจันทร์เองเชื่อว่าดวงวิญญาณที่มาปากฎให้ทีมงานเห็นนั้นเป็นกุมารทองชื่อสมชาย โดยตนเองนั้นได้เจอกับกุมารทองชื่อสมชายในวันเดียวกันที่ทางทีมงานเจอโดยกุมารสมชายได้ไปหาที่บ้าน ไปพูดคุยเล่นกับตนที่บ้านจริง โดยทางกุมารทองสมชายได้สิงสถิตย์อยู่ในต้นเข่งนี้มานานแล้ว มาอยู่ก่อนที่จะพบซากเรือมรณะเสียอีก โดยตนเชื่อมาตลอดว่ากุมารทองตัวนี้ให้โชคแก่ผู้มาบูชาเรือมรณะและให้โชคตนมาตลอด ซึ่งป้าจันทร์ก็ได้นำทีมงานเดินสำรวจรอบๆต้นแข่ง ซึ่งได้สร้างพระพุทธรูปไว้ขนาดสูง 1.5 เมตร และมีกระถางธูป ดอกไม้ วางไว้หน้าพระพุทธรูป และมีร่องรอยการเซ่นไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับในคลิปที่ปากฎมีแสงไฟสว่างธูปเทียนบูชาองค์พระนี้เลย ป้าจันทร์บอกว่า เป็นทางนางกำนัลที่อยู่บริเวณนี้เช่นกันที่ออกมาอารักขา พระพุทธรูปนี้ โดยการออกมาเล่นเทียน หมายถึงการส่งญาณว่าในทุกๆปี ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาก็จะมีการสมโภชน์กองเทียนพรรษาให้ชุมชนได้มีการรื่นเริงแต่ในปีนี้ทางวัดไม่มีการจัดงานดังกล่าวเนื่องจากพิษโควิด-19 นั้นเอง ทางนางกำนัลจึงออกมาปรากฎกายให้ทางทีมงานได้เห็น เพื่อเป็นการสื่อถึงว่าทุกๆปีจะมีการจัดงานสมโภชน์กองเทียนพรรษาแต่ปีนี้ทำไมไม่มีการจัดงาน "ป้าจันทร์กล่าวทิ้งท้ายได้อย่างน่าสนใจ"
ชาวบ้านเชื่อ! ว่าวิญญาณผีเรือโผล่ให้โชค
วันที่ 7 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดเทพไชยมงคลหรือวัดบ้านขยอง หรือวัดผีเรือล่ม ตามที่ชาวบ้านเรียกขานกัน ตามที่มีเรื่องราวสุดแปลกประหลาดขึ้นที่นี่ระหว่างที่ทีมงานได้ไปทำบุญเวียนเทียนร่วมกับชาวบ้านในคืนวันอาสาฬบูชา โดยเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ชาวบ้านขยองประมาณ 20 คน ได้มีกิจกรรมเวียนเทียนและฟังธรรมจากพระอาจารย์ลาน เจ้าอาวาสวัดบ้านขยอง หลังจากชาวบ้านเสร็จกิจกรรมเวียนเทียนเสร็จต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านกัน เหลือเพียงทีมงานผู้สื่อข่าวที่ยังได้พูดคุยอยู่กับท่านเจ้าอาวาส ถึงเรื่องราวของวิญญาณผีเรือล่ม ที่ได้เสียชีวิตจากโศกนาฎกรรมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และระหว่างที่ได้ขอตัวกลับและลงมานั่งอยู่ตรงต้นขนุนหน้าศาลที่วางเรือมรณะ จู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดเมื่อกล้องมือถือของทางทีมงานกลับทำงานเองโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีใครได้แตะต้องมือดังกล่าว
เมื่อทางทีมงานเดินทางไปถึงวัดได้พบกับกลุ่มชาวบ้านประมาณ 20 คนได้นำเครื่องเซ่นไหว้มาทำบุญ เรือมรณะและอุทิศบุญส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณทั้ง 5 โดยพบว่าชาวบ้านบางคนได้เดินทางมาไกลจาก อ.สนม จ.สุรินทร์ โดยมีความเชื่อและศรัทธาในวัดและตำนานของผีเรือล่มที่ได้ให้โชคลาภแกผู้ที่เดินทางมาไหว้บูชา ด้านคุณยายวัยเกือบ 70 ปี ได้เลให้กับทีมงานฟังว่า ตนเองได้เดินทางมาที่วัดแห่งนี้ 3 ครั้งแล้วนับจากวันที่พบเรือดังกล่าว โดยทุครั้งที่ตนเดินทางมาไหว้บูชาซากเรือมรณะนี้ ก็จะมีโชคลาภทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกันหลังจากทราบข่างทางทีวีเมื่อเช้าตนก็ได้ให้ลูกหลานพามาเพื่อมาทำบุญร่วมกับวัดและขอโชคลาภกับดวงวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในเรือแห่งนี้ ถ้าตนโชคดีได้โชคก้อนใหญ่จะทำบุญให้เพื่อให้ดวงวิญญาณจะได้ไปผุดไปเกิด จะได้ไม่วนเวียนอยู่ในบริเวณนี้
ด้านนายเงิน เอกลาภ ผญบ.ขยอง ม.5 กล่าวกับทีมงานว่า ตนเองพอทราบว่าทางทีมงานโดยผีหลอกในคืนวันพระใหญ่ ตนในฐานะที่เป็นคนในชุมชนเชื่อว่าดวงวิญญาณของคนตายยังอยู่ในบริเวณนี้ แม้ว่าทางชุมชนได้ทำบุญครบรอบ 1 ปีที่พบเรือไปเมื่อต้นปีแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังอยู่กัน ทางตนและชุมชนยังมีความเชื่อว่าที่เขาอยู่เพราะเป็นห่วงวัดที่ยังก่อสร้างพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสาริกธาตุ ที่ได้ก่อสร้างจากงบประมาณที่มีผู้ใจบุญได้บริจาคจากการได้โชคลาภจากเรือมรณะเมื่อครั้งที่พบใหม่ๆ โดยที่ฮือฮาในคราวนั้นก็เพราะเรือเฮี้ยนหนักมีคนพบดวงวิญญาณบ่อยมากและที่สำคัญ เรือแห่งนี้ให้โชคแม่นๆติดต่อกันหลายงวดจนได้มีผู้ใจบริจาคเงินช่วยสร้างเจดีย์ จนชาวบ้านได้ขนาดนามวัดแห่งนี้ว่า วัดผีเรือล่มและผีสร้างวัด จนเป็นที่กล่าวขานกันมาจนถึงปัจจุบัน ด้านท่านผู้ใหญ่เงินกล่าว ในหลายเดือนที่ผ่านมาคนมาทำบุญน้อยมากเนื่องจากพิษโรคระบาดโควิด-19 ทำให้เงินใช้สำหรับสร้างวัดไม่มี ดวงวิญญาณผีเรือล่มจึงลุกมาเฮี้ยนทีมงาน โดยวิญญาณดวงนั้นน่าจะเป็นวิญญาณเด็กน้อยซึ่งเป็นลุกชายของคนตายชื่อนายแสร (เป็นน้องชายเจ้าอาวาส)ซึ่งจมน้ำตายพร้อมกับภรรยาที่ยังท้องอยู่ในคณะนั้น เพื่อให้ทางทีมงานช่วยสร้างวัดอีกครั้ง นั้นเอง อันนี้ทางผู้ใหญ่เงินกล่าวตามที่แกได้สัมผัสกับวัดแห่งนี้ ในฐานะคณะกรรมการของวัดนั้นเอง
ด้านนางส้ม พิศโฉม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.5 บ้านขยอง หรือป้าจันทร์ อีกหนึ่งชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นได้นำทีมงานไปชี้จุดที่ปรากฏอยู่ในคลิป ซึ่งก็คือต้นแข่ง โดยป้าจันทร์เองเชื่อว่าดวงวิญญาณที่มาปากฎให้ทีมงานเห็นนั้นเป็นกุมารทองชื่อสมชาย โดยตนเองนั้นได้เจอกับกุมารทองชื่อสมชายในวันเดียวกันที่ทางทีมงานเจอโดยกุมารสมชายได้ไปหาที่บ้าน ไปพูดคุยเล่นกับตนที่บ้านจริง โดยทางกุมารทองสมชายได้สิงสถิตย์อยู่ในต้นเข่งนี้มานานแล้ว มาอยู่ก่อนที่จะพบซากเรือมรณะเสียอีก โดยตนเชื่อมาตลอดว่ากุมารทองตัวนี้ให้โชคแก่ผู้มาบูชาเรือมรณะและให้โชคตนมาตลอด ซึ่งป้าจันทร์ก็ได้นำทีมงานเดินสำรวจรอบๆต้นแข่ง ซึ่งได้สร้างพระพุทธรูปไว้ขนาดสูง 1.5 เมตร และมีกระถางธูป ดอกไม้ วางไว้หน้าพระพุทธรูป และมีร่องรอยการเซ่นไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับในคลิปที่ปากฎมีแสงไฟสว่างธูปเทียนบูชาองค์พระนี้เลย ป้าจันทร์บอกว่า เป็นทางนางกำนัลที่อยู่บริเวณนี้เช่นกันที่ออกมาอารักขา พระพุทธรูปนี้ โดยการออกมาเล่นเทียน หมายถึงการส่งญาณว่าในทุกๆปี ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาก็จะมีการสมโภชน์กองเทียนพรรษาให้ชุมชนได้มีการรื่นเริงแต่ในปีนี้ทางวัดไม่มีการจัดงานดังกล่าวเนื่องจากพิษโควิด-19 นั้นเอง ทางนางกำนัลจึงออกมาปรากฎกายให้ทางทีมงานได้เห็น เพื่อเป็นการสื่อถึงว่าทุกๆปีจะมีการจัดงานสมโภชน์กองเทียนพรรษาแต่ปีนี้ทำไมไม่มีการจัดงาน "ป้าจันทร์กล่าวทิ้งท้ายได้อย่างน่าสนใจ"