เข้ารับการรักษาจิตเวทตั้งแต่ ป.3
แต่เนื่องจากไม่มีผู้ปกคลองพาไปรักษาต่อเนื่องเลยขสดการรักษา เป็นสะสมมาจนถึงตอนโต
กลับไปรักษาอีกครั้งตอนที่อายุ22 ที่โรงพยาบาลมนารมณ์
ลืมเรื่องในอดีตไปหมดจนตำแทบไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ตอนนี้อาการที่เคยหายในตอนนั้นกลับมาหมด
-เป็นแพนิค กลัวทุกอย่างจนควบคุมตัวเองไม่ได้
-กลัวคน ไม่อยากจะพูดคุยกับใครที่ไม่รู้จัก ระแวงผวาทุกคืนกลัวจะมีใครมาทำร้าย
-บางครั้ง เป็นหนักจนรู้สึกเหมือนคนจะตาย
ลมหายใจเริ่มเบาลง
เพราะทุกสิ่งที่กลับมาเป็นอีก เพราะฉันโดนกลั่นแกล้ง
ฉันไม่รู้จะระบายกับใครเลยจริงๆ เพราะคนรอบข้างฉันมองว่าฉันเป็นบ้าหมดแล้ว
ฉันถูกเพื่อนแฟนแก้แค้น เพราะแฟนฉันไปจี้จับเขาเรื่องคดียาเสพติด
ฉันกลายเป็นคนที่รับเคราะห์ ทุกทาง
ทางบ้านแฟน หลอกใช้ฉันทำงานธุรกิจร้านอาหารร่วมหลายปี ยืมเงินที่บ้านให้เขาลงทุนแต่พวกเขาก็เข้ามายึดกิจการคุมทุกอย่างแล้ว บีบให้ฉันทนไม่ได้ไปเอง ด้วยคำพูดที่เหยียดหยาม ด้วยการที่เขาไม่ให้แม้แต่คำพูดดีๆ
ฉันทนเพราะมีลูกด้วยกัน สุดท้ายทนไม่ได้ฉันเลยต้องเอาลูกกลับบ้านไปให้แม่ฉันเลี้ยงแล้วออกไปทำงานหาเงินจ่ายค่านมลูกค่าของใช้
ฉันให้อภัยพวกเขามาตลอด หลายรอบหลายครั้ง
แต่พวกเขากลับหลอกให้ฉันเอาลูกไปไว้บ้านแม่แฟนที่ชัยนาท แล้ววางแผนจะยกลูกสาวฉันให้ป้าของเขา (ป้าเขามีเงิน)
พวกเขาก็มาหาประโยชน์กับฉันทุกรอบเหมือนฉันไม่ได้เป็นคน กลับมาหลอกทำดีกับฉันเพราะแค่ต้องการที่จะยืดเวลาคุมประพฤติ
ฉันทำงานเป็นหมอนวด แต่เรื่องนี้ฉันปิดไม่เคยบอกครอบครัวเขาเพราะ พวกเขาดูถูกฉันว่าไม่มีการศึกษา เป็นคนบ้านนอก ไม่มีหัวนอนปลายเท้า
แล้วทุกคนค่ะ.. ฉันคิดว่านี้มันคือทางรอดเดียวทีาจะทำให้มีทางหากินสุจริต ลูกจะได้มีครอบครัวที่อบอุ่น
แต่สิ่งที่พยายามอดทนกัดก้อนเกลือกินตลอด2ปี พวกเขาทำลายความหวังของฉันหมด ทำลายแม้แต่ความหวังนั้นมันเป็นสิ่งสุดท้าย
ย้ายบ้านย้ายคอนโดหนี
เขาบอกว่าฉันไปทำร้ายชีวิตลูกเขาแต่ความจริง มีแตาลูกเขาทำร้ายฉัน
ตบตีตั้งแต่ท้องยันใกล้คลอด เอาผู้หญิงมานอนในคอนโด ทั้งที่ฉันท้องแก่ใกล้คลอดไม่สนใจแม้แต่มอไซน้ำมันหมด ก็ต้องเข็นเอง
ไม่เคยช่วยค่าใช้จ่ายลูกฉันเลย คิดจะให้ก็ให้ ให้มากสุดเดือนละ3, 000
พวกเขาทำกับฉันเหมือนว่าเป็นคนน่ารังเกียจทั้งๆที่ ฉันเป็นขี้ข้าให้พวกเขามาตลอด
จนสุดท้ายฉันต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ พอกลับมาก็มาขอโทษ ฉันให้โอกาสตลอด
สุดท้ายแฟนติดคุก แม่แฟนไล่,ฉันออกจากคอนโด แล้วพูดแค่ว่า ลูกเขาไม่อยู่แล้วก็ไม่มีอะไรที่ต้องเกี่ยวดองกันอีก
ฉันเดินออกมาสมัครงาน พริตตี้สปา
พอเริ่มตั้งตัวได้บ้าง เพื่อนแฟนก็เข้ามาตีสนิทด้วย
เขามาขอความช่วยเหลือเราบอกเราว่า โดนรุ่นน้องไล่มาไม่ให้อยู่ห้อง เราสงสารในความเป็นมนุษย์ไม่มีใครสมควรที่จะโดนพูดจาไล่แบบนี้
เราเลยอนุญาตให้พวกเขามานอนที่ห้องเรา
มาถึงไม่มีข้าวกินเราก็หาให้ เราดูแลทุกอย่างโดยที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า
เขาตั้งใจรวมหัวกันหลอกเรา
เขามีเรื่องเดือดร้อนเรื่องเงินตลอด เราช่วยตลอดเพราะด้วยความที่เราคบกันด้วย เราเลยไม่ระวังว่าคนที่ทำร้ายเราจะเป็นคนที่เราไว้ใจ
เขาช่วยเราจ่ายค่าห้องในช่วง2เดือนแรกแต่สัดท้ายก็กลายเป็นเราติดหนี้เขา
แล้วเขามาขายยาเสพติดในห้องของเรา เพราัเราทำงาน เที่ยง-เที่ยงคืน
กลับห้องก็นอนแล้ว
โดนขูดเลือดขูดเนื้อมาร่วมปี ทั้งที่บ้านทั้งคนรอบข้าง
แม่เราขอเงินเราที2-3วัน 4,000-5,000
เราก็จะตายแล้ว นี่ต้องโดนเอาความสงสารไปหลอกเล่นอีก จนวันที่เกิดโควิดขึ้น
เราไม่มีตังเลยนะสักบาท แล้วเขาก็ทำหน้าที่แฟนจริงๆ แต่เขาทำแล้วทำร้ายฉันด้วย
เขาทำร้ายฉันด้วยคำพูดไม่พอ เหมือนว่าฉันโดนปล้นทุกๆอย่าง ไม่มีเหลือแม้แต่ของสักชิ้นที่จะติดตัว ถึงจะได้เงินมาก็ต้องโดนรีดไถเอาไปหมด
จนเราทนไม่ไหวเราก็เลยบอกว่าจะแจ้งตำรวจ
แล้วเขาก็ทำพูดดีกับเรา จนเราตายใจ
สุดท้ายแล้ว
... นี่คือสิ่งที่เราโดนกระทำ...
เขาเอาทหารเอาตำรวจที่เป็นเพื่อน เข้ามานั่งในห้องเราเหมือนว่ามานั่งเล่น
เราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเราไม่ได้ทำใครเราเลยไม่คิดว่าใครจะทำเรา หลังจากนั้น
เราเห็นงูสีดำกลางที่นอนในคืนที่เราเปิดห้องรายวันนอนแต่ต้องใช้เงินเขา ทุกครั้งเขาไม่เคยอยู่เลย
โทรหาไม่รับสายไลน์ก็ติดต่อไม่ได้ เป็นแบบนี้มานานร่วมเดือน
ที่มันแปลกคือเราบ้ายไปเปิดรายวันที่อื่นนอน เราก็ยังเห็นอยู่ งูตัวเป็นๆเรารอดตายได้ทุกครั้ง
เพราะ บทสวดมนต์
นีาคือเรื่องจริง เราไม่เคยเชื่อในศาสนาแต่ตอนนั้นนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นฉันก็โดนแกล้งเอาปลิงมาใส่หัวบ้าง โดนสารพัดจะโดนเลยจนตอนนี้ฉันผวา กลัวคน
ไปทำงานไม่ได้
ฉันเครียดจนจะผูกคอตาย แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากคนพวกนี้คือเสียงหัวเราะเยาะ
ตอนนี้สภาพจิตใจไม่มีวี่แววจะดีขึ้นเลย
ฉันขอแค่นี้แค่ที่ให้ฉันไม่พูดบ้าง ไม่ใช่ศาลเตี้ย
เขาตัดแม้แต่เสื้อผ้าของฉัน ขโมยของฉันไปบ้าง
จนไม่เหลืออะไรเลย..
ไม่รู้ควรจะทำไงให้ดีขึ้นเลยคะ ฉันไม่เคยตอบโต้ใครเลยสักคน
กลับมาเป็นโรคซึมเศร้า เริ่มกลัวการเข้าสังคม กลัวคน .. แต่ไม่สะดวกไปรักษาควรทำไงดี
แต่เนื่องจากไม่มีผู้ปกคลองพาไปรักษาต่อเนื่องเลยขสดการรักษา เป็นสะสมมาจนถึงตอนโต
กลับไปรักษาอีกครั้งตอนที่อายุ22 ที่โรงพยาบาลมนารมณ์
ลืมเรื่องในอดีตไปหมดจนตำแทบไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ตอนนี้อาการที่เคยหายในตอนนั้นกลับมาหมด
-เป็นแพนิค กลัวทุกอย่างจนควบคุมตัวเองไม่ได้
-กลัวคน ไม่อยากจะพูดคุยกับใครที่ไม่รู้จัก ระแวงผวาทุกคืนกลัวจะมีใครมาทำร้าย
-บางครั้ง เป็นหนักจนรู้สึกเหมือนคนจะตาย
ลมหายใจเริ่มเบาลง
เพราะทุกสิ่งที่กลับมาเป็นอีก เพราะฉันโดนกลั่นแกล้ง
ฉันไม่รู้จะระบายกับใครเลยจริงๆ เพราะคนรอบข้างฉันมองว่าฉันเป็นบ้าหมดแล้ว
ฉันถูกเพื่อนแฟนแก้แค้น เพราะแฟนฉันไปจี้จับเขาเรื่องคดียาเสพติด
ฉันกลายเป็นคนที่รับเคราะห์ ทุกทาง
ทางบ้านแฟน หลอกใช้ฉันทำงานธุรกิจร้านอาหารร่วมหลายปี ยืมเงินที่บ้านให้เขาลงทุนแต่พวกเขาก็เข้ามายึดกิจการคุมทุกอย่างแล้ว บีบให้ฉันทนไม่ได้ไปเอง ด้วยคำพูดที่เหยียดหยาม ด้วยการที่เขาไม่ให้แม้แต่คำพูดดีๆ
ฉันทนเพราะมีลูกด้วยกัน สุดท้ายทนไม่ได้ฉันเลยต้องเอาลูกกลับบ้านไปให้แม่ฉันเลี้ยงแล้วออกไปทำงานหาเงินจ่ายค่านมลูกค่าของใช้
ฉันให้อภัยพวกเขามาตลอด หลายรอบหลายครั้ง
แต่พวกเขากลับหลอกให้ฉันเอาลูกไปไว้บ้านแม่แฟนที่ชัยนาท แล้ววางแผนจะยกลูกสาวฉันให้ป้าของเขา (ป้าเขามีเงิน)
พวกเขาก็มาหาประโยชน์กับฉันทุกรอบเหมือนฉันไม่ได้เป็นคน กลับมาหลอกทำดีกับฉันเพราะแค่ต้องการที่จะยืดเวลาคุมประพฤติ
ฉันทำงานเป็นหมอนวด แต่เรื่องนี้ฉันปิดไม่เคยบอกครอบครัวเขาเพราะ พวกเขาดูถูกฉันว่าไม่มีการศึกษา เป็นคนบ้านนอก ไม่มีหัวนอนปลายเท้า
แล้วทุกคนค่ะ.. ฉันคิดว่านี้มันคือทางรอดเดียวทีาจะทำให้มีทางหากินสุจริต ลูกจะได้มีครอบครัวที่อบอุ่น
แต่สิ่งที่พยายามอดทนกัดก้อนเกลือกินตลอด2ปี พวกเขาทำลายความหวังของฉันหมด ทำลายแม้แต่ความหวังนั้นมันเป็นสิ่งสุดท้าย
ย้ายบ้านย้ายคอนโดหนี
เขาบอกว่าฉันไปทำร้ายชีวิตลูกเขาแต่ความจริง มีแตาลูกเขาทำร้ายฉัน
ตบตีตั้งแต่ท้องยันใกล้คลอด เอาผู้หญิงมานอนในคอนโด ทั้งที่ฉันท้องแก่ใกล้คลอดไม่สนใจแม้แต่มอไซน้ำมันหมด ก็ต้องเข็นเอง
ไม่เคยช่วยค่าใช้จ่ายลูกฉันเลย คิดจะให้ก็ให้ ให้มากสุดเดือนละ3, 000
พวกเขาทำกับฉันเหมือนว่าเป็นคนน่ารังเกียจทั้งๆที่ ฉันเป็นขี้ข้าให้พวกเขามาตลอด
จนสุดท้ายฉันต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ พอกลับมาก็มาขอโทษ ฉันให้โอกาสตลอด
สุดท้ายแฟนติดคุก แม่แฟนไล่,ฉันออกจากคอนโด แล้วพูดแค่ว่า ลูกเขาไม่อยู่แล้วก็ไม่มีอะไรที่ต้องเกี่ยวดองกันอีก
ฉันเดินออกมาสมัครงาน พริตตี้สปา
พอเริ่มตั้งตัวได้บ้าง เพื่อนแฟนก็เข้ามาตีสนิทด้วย
เขามาขอความช่วยเหลือเราบอกเราว่า โดนรุ่นน้องไล่มาไม่ให้อยู่ห้อง เราสงสารในความเป็นมนุษย์ไม่มีใครสมควรที่จะโดนพูดจาไล่แบบนี้
เราเลยอนุญาตให้พวกเขามานอนที่ห้องเรา
มาถึงไม่มีข้าวกินเราก็หาให้ เราดูแลทุกอย่างโดยที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า
เขาตั้งใจรวมหัวกันหลอกเรา
เขามีเรื่องเดือดร้อนเรื่องเงินตลอด เราช่วยตลอดเพราะด้วยความที่เราคบกันด้วย เราเลยไม่ระวังว่าคนที่ทำร้ายเราจะเป็นคนที่เราไว้ใจ
เขาช่วยเราจ่ายค่าห้องในช่วง2เดือนแรกแต่สัดท้ายก็กลายเป็นเราติดหนี้เขา
แล้วเขามาขายยาเสพติดในห้องของเรา เพราัเราทำงาน เที่ยง-เที่ยงคืน
กลับห้องก็นอนแล้ว
โดนขูดเลือดขูดเนื้อมาร่วมปี ทั้งที่บ้านทั้งคนรอบข้าง
แม่เราขอเงินเราที2-3วัน 4,000-5,000
เราก็จะตายแล้ว นี่ต้องโดนเอาความสงสารไปหลอกเล่นอีก จนวันที่เกิดโควิดขึ้น
เราไม่มีตังเลยนะสักบาท แล้วเขาก็ทำหน้าที่แฟนจริงๆ แต่เขาทำแล้วทำร้ายฉันด้วย
เขาทำร้ายฉันด้วยคำพูดไม่พอ เหมือนว่าฉันโดนปล้นทุกๆอย่าง ไม่มีเหลือแม้แต่ของสักชิ้นที่จะติดตัว ถึงจะได้เงินมาก็ต้องโดนรีดไถเอาไปหมด
จนเราทนไม่ไหวเราก็เลยบอกว่าจะแจ้งตำรวจ
แล้วเขาก็ทำพูดดีกับเรา จนเราตายใจ
สุดท้ายแล้ว
... นี่คือสิ่งที่เราโดนกระทำ...
เขาเอาทหารเอาตำรวจที่เป็นเพื่อน เข้ามานั่งในห้องเราเหมือนว่ามานั่งเล่น
เราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเราไม่ได้ทำใครเราเลยไม่คิดว่าใครจะทำเรา หลังจากนั้น
เราเห็นงูสีดำกลางที่นอนในคืนที่เราเปิดห้องรายวันนอนแต่ต้องใช้เงินเขา ทุกครั้งเขาไม่เคยอยู่เลย
โทรหาไม่รับสายไลน์ก็ติดต่อไม่ได้ เป็นแบบนี้มานานร่วมเดือน
ที่มันแปลกคือเราบ้ายไปเปิดรายวันที่อื่นนอน เราก็ยังเห็นอยู่ งูตัวเป็นๆเรารอดตายได้ทุกครั้ง
เพราะ บทสวดมนต์
นีาคือเรื่องจริง เราไม่เคยเชื่อในศาสนาแต่ตอนนั้นนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นฉันก็โดนแกล้งเอาปลิงมาใส่หัวบ้าง โดนสารพัดจะโดนเลยจนตอนนี้ฉันผวา กลัวคน
ไปทำงานไม่ได้
ฉันเครียดจนจะผูกคอตาย แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากคนพวกนี้คือเสียงหัวเราะเยาะ
ตอนนี้สภาพจิตใจไม่มีวี่แววจะดีขึ้นเลย
ฉันขอแค่นี้แค่ที่ให้ฉันไม่พูดบ้าง ไม่ใช่ศาลเตี้ย
เขาตัดแม้แต่เสื้อผ้าของฉัน ขโมยของฉันไปบ้าง
จนไม่เหลืออะไรเลย..
ไม่รู้ควรจะทำไงให้ดีขึ้นเลยคะ ฉันไม่เคยตอบโต้ใครเลยสักคน