พอดีเราขับรถเก๋งไปทำธุระ แล้วอยู่ดีๆ ก็โดนรถเก๋งคันที่อยู่ด้านหลังชนท้าย โดยฝั่งคู่กรณีอ้างว่าเบรคแล้วแต่เบรคไม่อยู่
เลยมาชนเรา แต่เราดูความแรง และแผลของเราแล้วเหมือนไม่ได้เบครเลยมากกว่า เพราะชนจนเราคอโยกตามแรงเลย
ส่วนรถเราด้านท้ายก็เสียหายหนัก ไม่รู้ว่าต้องซ่อมหนักแค่ไหน ถ้าซ่อมแล้วตัวถังจะเหมือนเดิมไหม สมรรถภาพรถจะเหมือนเดิมไหม ก็ไม่รู้
แต่จากที่เราดูคร่าวๆ ก็คือฝากระโปรงหลัง กันชนหลัง บุบ เข้าไปเยอะมาก และ คิดว่า น่าจะโดนไปถึงแผงท้าย และ แผงเก็บอะไหล่ล้อสำรอง
เราเสียใจมากๆ เพราะรถคันนี้ใช้มาตั้งนานไม่เคยโดนชนหนักเลย เรารักษารถอย่างดีมากๆ แต่อยู่ดีๆ ก็มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ในเหตุการณ์ พอเราโดนชนปุ๊บ ฝั่งคู่กรณีก็ออกมาจากรถแล้วก็ขอโทษเรา จริงๆเราก็โกรธเค้านะว่าทำไมถึงชนแรงแบบนี้
รถเราเสียหายหมดเลย แต่เราก็ทำอะไรเค้าไม่ได้ หรือจะไปต่อว่าเค้าก็ไม่มีประโยชน์ ได้แต่บอกให้ต่างฝ่ายต่างเรียกประกันมา
โดยประกันของคู่กรณีเป็นประกันชั้น 1 ส่วนของรถเราเป็นประกัน 2+ จากนั้นประกันของทั้ง 2 ฝ่าย
ก็มาดูสภาพแผลรถ และก็ได้ออกใบเคลมให้เรา แล้วเราก็ขับรถไปอู่เลยหลังจากแยกกัน เพราะเป็นห่วงรถ อยากรู้ว่า รถเป็นอะไรมากรึป่าว
ด้วยความที่เราไปถึงอู่ก็ใกล้ปิดแล้ว ทำให้เค้ายังไม่สามารถตรวจสอบแผลที่อยู่ด้านในได้โดยละเอียด ทำให้เราต้องทิ้งรถไว้ก่อน
เพราะเราก็ไม่อยากจะขับไปในสภาพแบบนี้ด้วย กลัวชิ้นส่วนหลุดออกระหว่างขับ เพราะสภาพมันยับจริงๆ
และเราก็ได้ถามทางอู่ว่า ถ้าซ่อมต้องใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ อู่ก็บอกว่า ต้องรอประกันอนุมัติ โดยระยะเวลาก็ประมาณ 1 สัปดาห์หลังจาก
ที่ส่งใบเสนอราคาไป จากนั้นถึงจะมีการสั่งซื้ออะไหล่ เนื่องจากรถเราเป็นรถรุ่นเก่า อะไหล่แท้จะไม่มีขายแล้ว ต้องยอมใช้อะไหล่เซียงกง
กว่าจะหาอะไหล่มาได้ ก็ต้องใช้เวลาอีก 2-3 สัปดาห์ กว่าจะได้รับคิวซ่อมอีก ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะช้าเร็วแค่ไหน แล้วกว่าจะซ่อมเสร็จอีก
ก็น่าจะประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะเป็นการซ่อมหนัก รวมๆแล้วกว่ารถจะซ่อมเสร็จก็ต้องรออย่างน้อยเดือนนึงเป็นอย่างต่ำ
เราอยากถามว่าเราสามารถเรียกร้องอะไร จากประกันของคู่กรณีได้บาง จากการที่เราได้รับความเดือนร้อนอย่างนี้
นอกจาก ค่าซ่อม และ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ?
แล้วที่เราใจไม่ดีเลยก็คือว่า เราถามประกันว่า ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ จะคิดให้กี่วัน เค้าบอกว่า จากวันที่เข้าซ่อมจริงจนถึงวันรับมอบ
โดยที่วันส่งรถกับวันรับรถไม่นับ และจะให้วันละ 500 บาท เรานี่เครียดเลย เพราะ เราคิดว่า แล้วเวลาที่เราต้องรออะไหล่ ต้องรอประกันอนุมัติอีกล่ะ
เราจะสามารถใช้รถในสภาพแบบนี้ได้อย่างไร ก็คือใช้ไม่ได้อยู่ดีนั้นแหละจริงไหม ต้องจอดไว้เฉยๆ
ใครจะไปขับรถในสภาพบุบหนักขนาดนี้ไปทำงานได้ล่ะ เรื่องความปลอดภัยด้วย เท่ากับที่เราโดนมานี่ ไม่คุ้มเลย ไหนอะไหล่ต้องมาใช้ของมือสอง
ไหนจะขาดโอกาสการใช้รถ และเสียค่า Taxi อีกหลายวัน ไม่มีรถเดือนร้อนพอสมควรเหมือนกัน
รู้สึกเศร้ามาก เพราะมีแต่เสียกับเสีย ที่เราได้รับ ก็มีเพียงคำขอโทษจากคู่กรณี และการซ่อมที่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะกลับมาเหมือนเดิมไหม
และ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ (แค่ช่วงเวลาที่ทิ้งรถซ่อมเท่านั้น) ช่วงระหว่างรออะไหล่ รอประกันอนุมัติ ต้องจ่ายค่าเดินทางเอง
เราพอมีอะไรจะเรียกร้องได้มากกว่านี้บ้างไหม เราขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ
หากเรามีข้อผิดพลาดประการใดเราขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ขับรถแล้วโดนชนท้าย กรณีที่เราเป็นฝ่ายถูก เราสามารถเรียกร้องค่าเสียหายอะไรได้บ้างจากคู่กรณี ??
เลยมาชนเรา แต่เราดูความแรง และแผลของเราแล้วเหมือนไม่ได้เบครเลยมากกว่า เพราะชนจนเราคอโยกตามแรงเลย
ส่วนรถเราด้านท้ายก็เสียหายหนัก ไม่รู้ว่าต้องซ่อมหนักแค่ไหน ถ้าซ่อมแล้วตัวถังจะเหมือนเดิมไหม สมรรถภาพรถจะเหมือนเดิมไหม ก็ไม่รู้
แต่จากที่เราดูคร่าวๆ ก็คือฝากระโปรงหลัง กันชนหลัง บุบ เข้าไปเยอะมาก และ คิดว่า น่าจะโดนไปถึงแผงท้าย และ แผงเก็บอะไหล่ล้อสำรอง
เราเสียใจมากๆ เพราะรถคันนี้ใช้มาตั้งนานไม่เคยโดนชนหนักเลย เรารักษารถอย่างดีมากๆ แต่อยู่ดีๆ ก็มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ในเหตุการณ์ พอเราโดนชนปุ๊บ ฝั่งคู่กรณีก็ออกมาจากรถแล้วก็ขอโทษเรา จริงๆเราก็โกรธเค้านะว่าทำไมถึงชนแรงแบบนี้
รถเราเสียหายหมดเลย แต่เราก็ทำอะไรเค้าไม่ได้ หรือจะไปต่อว่าเค้าก็ไม่มีประโยชน์ ได้แต่บอกให้ต่างฝ่ายต่างเรียกประกันมา
โดยประกันของคู่กรณีเป็นประกันชั้น 1 ส่วนของรถเราเป็นประกัน 2+ จากนั้นประกันของทั้ง 2 ฝ่าย
ก็มาดูสภาพแผลรถ และก็ได้ออกใบเคลมให้เรา แล้วเราก็ขับรถไปอู่เลยหลังจากแยกกัน เพราะเป็นห่วงรถ อยากรู้ว่า รถเป็นอะไรมากรึป่าว
ด้วยความที่เราไปถึงอู่ก็ใกล้ปิดแล้ว ทำให้เค้ายังไม่สามารถตรวจสอบแผลที่อยู่ด้านในได้โดยละเอียด ทำให้เราต้องทิ้งรถไว้ก่อน
เพราะเราก็ไม่อยากจะขับไปในสภาพแบบนี้ด้วย กลัวชิ้นส่วนหลุดออกระหว่างขับ เพราะสภาพมันยับจริงๆ
และเราก็ได้ถามทางอู่ว่า ถ้าซ่อมต้องใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ อู่ก็บอกว่า ต้องรอประกันอนุมัติ โดยระยะเวลาก็ประมาณ 1 สัปดาห์หลังจาก
ที่ส่งใบเสนอราคาไป จากนั้นถึงจะมีการสั่งซื้ออะไหล่ เนื่องจากรถเราเป็นรถรุ่นเก่า อะไหล่แท้จะไม่มีขายแล้ว ต้องยอมใช้อะไหล่เซียงกง
กว่าจะหาอะไหล่มาได้ ก็ต้องใช้เวลาอีก 2-3 สัปดาห์ กว่าจะได้รับคิวซ่อมอีก ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะช้าเร็วแค่ไหน แล้วกว่าจะซ่อมเสร็จอีก
ก็น่าจะประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะเป็นการซ่อมหนัก รวมๆแล้วกว่ารถจะซ่อมเสร็จก็ต้องรออย่างน้อยเดือนนึงเป็นอย่างต่ำ
เราอยากถามว่าเราสามารถเรียกร้องอะไร จากประกันของคู่กรณีได้บาง จากการที่เราได้รับความเดือนร้อนอย่างนี้
นอกจาก ค่าซ่อม และ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ?
แล้วที่เราใจไม่ดีเลยก็คือว่า เราถามประกันว่า ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ จะคิดให้กี่วัน เค้าบอกว่า จากวันที่เข้าซ่อมจริงจนถึงวันรับมอบ
โดยที่วันส่งรถกับวันรับรถไม่นับ และจะให้วันละ 500 บาท เรานี่เครียดเลย เพราะ เราคิดว่า แล้วเวลาที่เราต้องรออะไหล่ ต้องรอประกันอนุมัติอีกล่ะ
เราจะสามารถใช้รถในสภาพแบบนี้ได้อย่างไร ก็คือใช้ไม่ได้อยู่ดีนั้นแหละจริงไหม ต้องจอดไว้เฉยๆ
ใครจะไปขับรถในสภาพบุบหนักขนาดนี้ไปทำงานได้ล่ะ เรื่องความปลอดภัยด้วย เท่ากับที่เราโดนมานี่ ไม่คุ้มเลย ไหนอะไหล่ต้องมาใช้ของมือสอง
ไหนจะขาดโอกาสการใช้รถ และเสียค่า Taxi อีกหลายวัน ไม่มีรถเดือนร้อนพอสมควรเหมือนกัน
รู้สึกเศร้ามาก เพราะมีแต่เสียกับเสีย ที่เราได้รับ ก็มีเพียงคำขอโทษจากคู่กรณี และการซ่อมที่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะกลับมาเหมือนเดิมไหม
และ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ (แค่ช่วงเวลาที่ทิ้งรถซ่อมเท่านั้น) ช่วงระหว่างรออะไหล่ รอประกันอนุมัติ ต้องจ่ายค่าเดินทางเอง
เราพอมีอะไรจะเรียกร้องได้มากกว่านี้บ้างไหม เราขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ
หากเรามีข้อผิดพลาดประการใดเราขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ