ผมว่าการเอาแต่ใจอยากเอาชนะเขาจนตัวสั่น แต่ตัวเองไม่มีคุณภาพพอ บางที...มันก็น่าเวทนานะ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าปลายทางของสิ่งที่ทำมันส่งผลถึงผู้รับ และสำคัญกว่านั้นไปอีกคือ มันสะท้อนกลับมาที่ตัวคนทำเอง
ทีแรกว่าจะหลับหูหลับตาข้ามๆ ไปอยู่เหมือนกัน แต่รู้สึกหมั่นไส้กองเชียร์ เลยเอามาสับสักนิดพอหอมปากหอมคอ
จากรูปเห็นตัวเลขไหมครับ จ่ายค่าน้ำไป 52349 จากเงินก้อน 200000 บาท ที่โอนให้ตัวแทนไปดำเนินการ ตัวเลขมันค่อนข้างฟ้องนะ ว่าจ่ายค่าน้ำตามใบเสร็จ บางคนก็อาจจะบอกว่า จ่ายตามใบเสร็จก็ถูกต้องแล้วนี่ จะได้ไม่ถูกหาว่าโกง ครับ...ในส่วนนี้ผมไม่ได้จะมาพูดเรื่องโกงครับ ผมมาพูดเรื่องวิธีคิดวิธีการทำงาน จะบอกไงดีละ...การช่วยแบบนี้ มันไม่ยุติธรรมครับ และมีโอกาสจะช่วยได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ยกตัวอย่างนะ บ้านหลังแรกมีบิลล์ค่าน้ำ 558 บาท หลังที่สอง 427 บาท หลังที่สาม 131 บาท ถ้าช่วยตามค่าบิลล์ใครได้เยอะสุด...คำตอบคือหลังแรก บางคนอาจจะมีคำถามว่า ผมรู้ได้ไงว่าช่วยตามบิลล์ ตัวเลขนี่ไงครับ 52349 บาท จาก 167 ครอบครัว ตัวเลขไม่ลงตัวแบบนี้เป็นไปได้น้อยมากที่คุณจะจ่ายครอบครัวละเท่าๆ กัน...ถูกไหม มันจึงชัดเจนว่าเขาจ่ายตามบิลล์
ทีนี้พอมีคนได้เยอะได้น้อย ความช่วยเหลือมันมีโอกาสจะไม่ทั่วถึง หรือช่วยได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ยกตัวอย่างนะ สมมติผมมีเงินอยู่ 1000 บาท ถ้าผมแจกเด็กๆ คนละ 10 บาท ผมแจกได้ 100 คน แต่ถ้าผมแจกเด็กคนแรก 500 บาท คนที่สอง 300 บาท คนที่สาม 200 บาท เงินหมดแล้ว ผมแจกได้แค่ 3 คนเอง
ผมเลยสงสัยว่าคณะส้มทำไมไม่แจกเป็นหลังๆ เท่าๆ กันไปเลย หลังละ 300 บาทก็หลังละ 300 บาท ไป มันจะได้ทั่วถึงและยุติธรรม และมีโอกาสช่วยได้เยอะจำนวนกว่าด้วย
มันเหมือนสักแต่อยากทำ แต่พอได้ทำก็สะเปะสะปะ มั่วซั่ว ไม่รู้เรื่องรู้ราว เหมือนไม่เคยทำการทำงาน อ่อนหัดแบบนี้จะไว้ใจให้บริหารประเทศได้เหรอ...ถามจริง
ปล. สาวกไม่ต้องมาแยกเขี้ยวใส่ผมหรอก วิธีการทำงานมันสะท้อนหาตัวพวกเขาเอง ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรด้วย ประชาชนเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือ เขาก็ไม่รู้สึกว่าคณะส้มช่วยพวกเขาก็แค่นั้น ไม่มีอะไรซับซ้อน และอาจมีบางส่วนมองว่าทำงานไม่เป็น ไม่รู้สมัยหน้าจะเลือกเข้าไปทำไม...อะไรทำนองนี้
ทำเป็นกับอยากทำ บางที...ผลลัพธ์มันก็แตกต่างกันนะ : ดาวดำผู้มีประสบการณ์การทำงาน
ทีแรกว่าจะหลับหูหลับตาข้ามๆ ไปอยู่เหมือนกัน แต่รู้สึกหมั่นไส้กองเชียร์ เลยเอามาสับสักนิดพอหอมปากหอมคอ
จากรูปเห็นตัวเลขไหมครับ จ่ายค่าน้ำไป 52349 จากเงินก้อน 200000 บาท ที่โอนให้ตัวแทนไปดำเนินการ ตัวเลขมันค่อนข้างฟ้องนะ ว่าจ่ายค่าน้ำตามใบเสร็จ บางคนก็อาจจะบอกว่า จ่ายตามใบเสร็จก็ถูกต้องแล้วนี่ จะได้ไม่ถูกหาว่าโกง ครับ...ในส่วนนี้ผมไม่ได้จะมาพูดเรื่องโกงครับ ผมมาพูดเรื่องวิธีคิดวิธีการทำงาน จะบอกไงดีละ...การช่วยแบบนี้ มันไม่ยุติธรรมครับ และมีโอกาสจะช่วยได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ยกตัวอย่างนะ บ้านหลังแรกมีบิลล์ค่าน้ำ 558 บาท หลังที่สอง 427 บาท หลังที่สาม 131 บาท ถ้าช่วยตามค่าบิลล์ใครได้เยอะสุด...คำตอบคือหลังแรก บางคนอาจจะมีคำถามว่า ผมรู้ได้ไงว่าช่วยตามบิลล์ ตัวเลขนี่ไงครับ 52349 บาท จาก 167 ครอบครัว ตัวเลขไม่ลงตัวแบบนี้เป็นไปได้น้อยมากที่คุณจะจ่ายครอบครัวละเท่าๆ กัน...ถูกไหม มันจึงชัดเจนว่าเขาจ่ายตามบิลล์
ทีนี้พอมีคนได้เยอะได้น้อย ความช่วยเหลือมันมีโอกาสจะไม่ทั่วถึง หรือช่วยได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ยกตัวอย่างนะ สมมติผมมีเงินอยู่ 1000 บาท ถ้าผมแจกเด็กๆ คนละ 10 บาท ผมแจกได้ 100 คน แต่ถ้าผมแจกเด็กคนแรก 500 บาท คนที่สอง 300 บาท คนที่สาม 200 บาท เงินหมดแล้ว ผมแจกได้แค่ 3 คนเอง
ผมเลยสงสัยว่าคณะส้มทำไมไม่แจกเป็นหลังๆ เท่าๆ กันไปเลย หลังละ 300 บาทก็หลังละ 300 บาท ไป มันจะได้ทั่วถึงและยุติธรรม และมีโอกาสช่วยได้เยอะจำนวนกว่าด้วย
มันเหมือนสักแต่อยากทำ แต่พอได้ทำก็สะเปะสะปะ มั่วซั่ว ไม่รู้เรื่องรู้ราว เหมือนไม่เคยทำการทำงาน อ่อนหัดแบบนี้จะไว้ใจให้บริหารประเทศได้เหรอ...ถามจริง
ปล. สาวกไม่ต้องมาแยกเขี้ยวใส่ผมหรอก วิธีการทำงานมันสะท้อนหาตัวพวกเขาเอง ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรด้วย ประชาชนเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือ เขาก็ไม่รู้สึกว่าคณะส้มช่วยพวกเขาก็แค่นั้น ไม่มีอะไรซับซ้อน และอาจมีบางส่วนมองว่าทำงานไม่เป็น ไม่รู้สมัยหน้าจะเลือกเข้าไปทำไม...อะไรทำนองนี้