[CR] รีวิว : "Our 30 Minute Sessions เทปลับ สลับร่างมารัก" : แด่ความทรงจำ คามสุข และเสียงเพลง ที่ไมาจางหายไปกับกาลเวลา

Our 30 Minute Sessions : เทปลับ สลับร่างมารัก
(Kentarô Hagiwara)
9/10
...
"แด่...ความรัก ความสุข ความทรงจำ เพื่อน และเสียงเพลงที่ไม่มีวันจางหายไปกับกาลเวลา"

สำหรับผม Our 30 Minute Sessions คือหนังรัก ที่ดูเผินๆ เหมือนจะธรรมดา แต่ในความเป็นจริง มันไม่ธรรมดาเลย ...ด้วยพล็อตที่ว่าด้วยนักร้อง นักดนตรีหนุ่มที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่เหมือนวิญญาณหรือเศษเสี้ยงแห่งความทรงจำยังอยู่ เลยไปสิงร่างเด็กหนุ่มที่ขาดความมั่นใจในตัวเองผ่านเทปคาสเซ็ทเป็นเวลา 30 นาที (ตามความยาวของเนื้อเทปในแต่ละหน้า) เพื่อทำความรัก ความฝัน และสานต่อภารกิจวงดนตรีให้สำเร็จ แค่นี้ก็ดูไม่ธรรมดาแล้ว...ดูจบแล้วถึงกับอุทาน ...ญี่ปุ่น คิดหนังแบบนี้ได้ยังไง แล้วสิ่งที่คิดมานั้น มันสะท้อนถึงวัฒนธรรม ความเป็นญี่ปุ่นที่ชัดเจนมากๆ

หนังว่าด้วยเรื่องราวของอากิ (แมคเคนยู) นักร้อง นักดนตรีหนุ่ม ที่มีความรัก ความฝันอยากเป็นนักดนตรี และตัวของอากินี่แหละที่ผลักดันกลุ่มเพื่อนที่มีความฝันอยากทำวงดนตรีขึ้นโชว์ในงานเทศกาลดนตรีสักครัง แทนที่จะเป็นแค่ผู้ชมที่อยู่ด้านล่าง รวมถึงเรื่องราวความรักของเขากับแฟนสาวคานะ (ซายุ คุโบตะ) ที่เธอมีส่วนสำคัญในชีวิตของเขาไม่ใช่แค่คนรัก แต่เธอยังเป็นส่วนหนึ่งของวงดนตรีที่เขาและเพื่อนๆ สร้างขึ้น ...วันหนึ่งเมื่ออากิประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ...เรื่องราวของความฝัน เสียงเพลง วงดนตรีได้จบลงด้วยความเจ็บปวด ไม่มีใครสานต่อ คานะแฟนสาวก็จมกับความเศร้า ขาดแรงบันดาลใจที่จะเล่นดนตรีและใช้ชีวิตไปวันๆ เธอไม่สามารถ move on ไปจากความทรงจำเก่าๆ ได้ ...จนวันหนึ่ง การมาของโซตะ (ทาคุมิ คิตะมุระ) เด็กหนุ่มทีแสนขึ้อายและขาดความมั่นใจในตัวเอง เด็กหนุ่มที่เก็บคาสเซ็ทเทปในเครื่องเล่นซาวด์อะเบาท์ ของอากิได้ และนั่นทำให้วิญญาณของอากิ สิงร่างโซตะ เพื่อทำหน้าที่สานฝันเก่าๆ ขึ้นมาอีกครั้ง รวมถึงสานสัมพันธ์ สานพลังของความรักับคานะ เพื่อให้เธอสามารถใช้ชีวิตก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ...และเหนือสิ่งอื่นใด คือการเปิดประตูบานใหม่ให้กับโซตะ เพื่อก้าวออกจาก Comfort Zone มาใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและก้าวไปอย่างที่ใจฝัน

สิ่งที่ชอบมากในหนังเรื่องนี้ คือความครีเอทีฟ ที่มันสะท้อนวิถีของความเป็นญี่ปุ่นที่ชัดเจนมากๆ ..ตัวหนังเองก็มาแบบสไตลืหนังญี่ปุ่นนี่แหละ ที่ค่อยๆ เล่าเรื่องอย่างละเมียดละไม ค่อยเป็นค่อยไป (ซึ่งอาจไม่ทันใจคนชอบอะไรหวือหวา) ผ่านเรื่องราวของความรัก ความสัมพันธ์ เสียงเพลง (เพลงในหนังเพราะมากๆ ทุกเพลง) ..เพลง ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญในหนังนะสำหรับผม ...มันไม่ใช่ใส่มาแค่ให้เพราะ แต่มันมีคีย์เวิร์ดหลายๆ อย่างในเนื้อเพลง ที่มันเล่าเรื่อง สะท้อนความคิด ความรู้สึกของตัวละครในช่วงเวลานั้นๆ และสุดท้ายเพลงในช่วงแสดงดนตรี มันสะท้อนถึงพลัง สะท้อนถึงการก้าวต่อไปในชีวิต การ Move On ไปสู่สิ่งใหม่ๆ ของตัวละคร ...มันเหมือนจะบอกกับผู้ชมว่า เราสามารถเก็บความสุข ความทรงจำที่แสนดีทั้งกับคนรักเก่าๆ เพื่อนเก่าๆ ที่เราสนิทไว้ได้กับตัวเรา แต่อย่าให้ความทรงจำนั้นมากักขังชีวิตไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า ...ความทรงจำมันจะอยู่กับเราไม่จางหายไปไหน แต่ชีวิตเราต้องก้าวเดินไปต่ออย่างดีงามและมั่นคง

ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่น หลงรักความเป็นญี่ปุ่น ลองสังเกตดีๆ ประเทศที่ขึ้นชือว่าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ก้าวหน้าไปสู่ดิจิทัลไลฟ์ที่สมบูรณ์แบบ ...กลับมีมุมหนึ่งที่ไม่ลืมความเป็น แอนะล็อก ไม่ลืมวิถีชีวิตแบบเก่าๆ ดั้งเดิม ...ใครจะเชื่อว่าญี่ปุ่นยังมีร้านขายเทปคาสเซ็ท (ที่เด็กสมัยนี้หลายคนอาจไม่รู้จักแล้ว) และ ร้านขายซีดี อยู่ทั่วทุกแห่ง อย่างน้อยๆ ใจกลางชิบูยะ ร้านซึทาย่า เราสามารถเดินไปซื้อเทปคาสเซ็ทและซีดีได้เลยและขายดีด้วยนะ ... ซึ่งต่างจากบ้านเราและหลายๆ ที่ ที่วัฒนธรรมการฟังเพลงจะผ่านทาง streaming เทปคาสเซ็ท ซีดี ได้ตายไปจากกาลเวลาแล้ว ...ลึกๆ ก็แอบเสียดายนะ ที่เสน่ห์แบบเก่าๆ ที่เราไปซื้อคาสเซทเทป หรือ ซีดีของศิลปินที่เราชื่นชอบ มาจับต้อง มาแกะห่อ หยิบปกขึ้นมาอ่านเครดิตผู้สร้างสรรค์ มาอ่านเนื้อเพลง ร้องตามเพลงที่เปิดทีละท่อน มันไม่มีอีกแล้วในโลกยุคปัจจุบัน

การที่หนังเอาเสน่ห์ของคาสเซ็ทเทปที่ใช้อัดเสียงได้ (ถ้าคนรุ่นเก่าหน่อยจะชินที่เราซื้อเทปคาสเซ็ทเปล่า มาอัดเสียง ส่วนใหญ่จะอัดเพลงโปรดที่ชอบแล้วส่งไปให้คนที่เรารัก คนที่เราแอบชอบ) มาเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่อง ...มันทำให้หนังดูมีเสน่ห์มากๆ และการเปรียบเทียบสิ่งที่อัดลงไปในเทปคาสเซ็ท ที่มันสามารถอัดทับลงไปได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับความทรงจำดีๆ ที่เกิดขึ้นที่มันถูกอัดซ้อนทับอยู่ในห้วงเวลาที่เปลี่ยนไป ...มันทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ธรรมดา มันมีเสน่ห์ มีคุณค่าในตัว และมันทรงพลังมากๆ ในซีนจบที่เทศกาลดนตรี

Our 30 Minute Sessions ...คืออีกหนึ่งหนังดี ที่ไม่อยากให้พลาดจริงๆ แค่ได้ไปรับรู้เรื่องราว ไปฟังเพลงในหนังก็คุ้มค่าแล้วล่ะ ...ที่เหลือ คือการเก็บเกี่ยวกำไรล้วนๆ ..อย่างน้อยๆ การดูหนังเรื่องนี้ คือการบันทึกความทรงจำดีๆ ที่มีคุณค่ามากๆ ในช่วงเวลาในปี 2020 ...และหนังจะถูกหยิบมาดูซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าในปีต่อๆไป ได้อย่างน่าประทับใจ

FB : https://www.facebook.com/eattravelmoviecritic/

ชื่อสินค้า:   Our 30 Minute Sessions
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่