เที่ยวจีนฤดูใบไม้ร่วง 14 วัน ตอนที่ 3: อวตารจางเจียเจี้ยและลำธารแส้ม้าทอง


Day 4 

สำหรับใครที่มาเที่ยวจีนเอง 
ได้ตื่นตอนเช้า ออกไปเดินหาของกิน 
นับเป็นโอกาสที่ได้เห็นวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอย่างดีเลย



พวกเราออกไปหาซื้ออาหารเช้าและเสบียงสำหรับมื้อเที่ยงกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า
แม้ร้านค้าส่วนใหญ่จะยังไม่เปิด แต่ร้านอาหารก็เปิดกันแล้ว



การได้พาตัวเองออกเดินทาง ออกมาจากชีวิตประจำวันที่ยุ่งเหยิงนั้น 
ช่วยให้เราได้ผ่อนคลาย พักสงบจิตใจ ทบทวนความรู้สึก
ค่อยๆ ผ่อนน้ำหนักของสิ่งต่างๆ ที่เราแบกอยู่

ลืมตาช้าๆ แล้วทอดสายตา 

มองออกไปให้ไกล-ให้รอบ
'เบาเสียงความคิด เพื่อฟังเสียงของความสงบเงียบ’








เช้าวันนี้มีนักท่องเที่ยวมากกว่าเมื่อวาน
แต่เพราะเราได้ซื้อตั๋วเข้าวนอุทยานฯ ไว้แล้ว จึงไม่ต้องเข้าคิวยาวเพื่อรอซื้อตั๋วอีก
(ตั๋วเข้าอุทยาน 228 หยวน/ คน สามารถเข้าชมได้ 3 วัน)

ความตั้งใจของพวกเราในวันนี้คือการขึ้นลิฟท์แก้วไป่หลง 
ที่มีความสูงถึง 326 เมตร 
ราคาตั๋วสำหรับขาขึ้น คือ 65 หยวน/ คน
มาถึงที่นี่แล้ว ก็ต้องยอมจ่ายค่าตั๋วขึ้นไปหละ
__________________________________________________________

ตอนที่ 1: ฉางซา กับบันทึก 34,000 ก้าวเดิน  https://ppantip.com/topic/39743783

ตอนที่ 2: มุ่งหน้าสู่อู่หลิงหยวน จางเจียเจี้ย  https://ppantip.com/topic/39768811
__________________________________________________________

ยินดีพูดคุยกันต่อได้ที่ https://www.facebook.com/thecrosscutting/

ติดตามชมรูปแบบวีดีโอตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

ตอนที่ 1: ฉางซา กับบันทึก 34,000 ก้าวเดิน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ตอนที่ 2: มุ่งหน้าสู่อู่หลิงหยวน จางเจียเจี้ย 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ตอนที่  3:  อวตารจางเจียเจี้ย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ตอนที่ 4:  ลำธารแส้ม้าทอง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




หากจะเล่าถึงประวัติความเป็นมาของจางเจียเจี้ย
คงต้องย้อนกลับไปในยุคหิน 
เพราะมีการค้นพบร่องรอยมนุษย์คนแรกในพื้นที่นี้ 
ซึ่งได้รับการจดบันทึกว่า
อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 100,000 ปีที่แล้ว  
แต่ในส่วนของการฟอร์มตัวของภูเขาหิน 
ประเมินว่าใช้เวลาสะสมมากกว่าล้านปี .. 




จางเจียเจี้ย เป็นดั่งดินแดนลึกลับที่ถูกลืม 
จากยุคโบราณ มีเพียงชาวบ้านท้องถิ่นเท่านั้น
ที่รู้จักวิวทิวทัศน์ในที่แห่งนี้ ... 

ช่วงปลายยุค 1970 จิตรกรเอกชาวจีนชื่อ อู่ กวางจง ได้เดินทางมาสถานที่นี้ 
ด้วยความหลงไหลในทิวทัศน์ที่สุดแปลกตา 
เขาจึงสร้างสรรค์ภาพวาดที่งดงามของจางเจียเจี้ย 
และภาพวาดของเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ 
เป็นที่รู้จักในวงกว้าง 








ในปี 1982 รัฐบาลกลางได้สร้างวนอุทยานแห่งชาติแห่งแรกขึ้นที่นี่
และตั้งชื่อเป็นวนอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย  
แทนชื่อเมืองเดิม คือเมืองต้าหยง ในปี 1994

โดยจางเจียเจี้ยได้รับสิทธิ์จดทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยยูเนสโกในปี 1992
จางเจียเจี้ย จึงกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีนและชาวโลกมากมาย
จนเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบฉากของภาพยนตร์เรื่อง Avatar อันโด่งดัง










สะพานซึ่งทอดผ่านภูเขาสองลูก 
เป็นฝีมือสร้างของธรรมชาติ 
แต่เดิมภูเขาทั้งสองเป็นภูเขาลูกหนึ่ง  
แต่ฐานของเสาหินส่วนหนึ่งทรุดตัวลง 
แต่ยังคงด้านบนไว้เหมือนเดิม 
ทำให้มีลักษณะเหมือนสะพาน
 
ผู้เดินทางมาเยี่ยมชมจีงสามารถข้าม
ไปอีกด้านหนึ่งได้
โดยตามทางเดินก็เรียงรายไปด้วยผ้าแดง 
และกุญแจที่คู่รักชาวจีนเอามาคล้องเอาไว้..






ชมวิวความงดงาม จนอิ่มใจกันแล้ว 
ก็ถึงเวลาเดินลงเขา กลับเข้าเมือง 







โซนภูเขาเทียนจื่อ นอกจากทางเดินขึ้นลงเขา ภาพวาดสิบลี้แล้ว
ยังมีอีกเส้นทางนึงซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง 
และมีวิวสวยงาม ชื่อว่า sansuo 
ซึ่งพวกเราใช้เป็นทางลงเขาไปขึ้นรถบัส เพื่อกลับเข้าเมือง ในช่วงเย็นนี้





เป็นเส้นทางเดินลงเขาที่สวยงาม เพลิดเพลิน
และมีคนน้อย ส่วนนึงอาจเป็นเพราะว่า
เส้นทางเดินนี้ อาจยังไม่เป็นที่รู้จักก็เป็นได้




การเดินลงเขาในเส้นนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 3 ชั่วโมง
แม้จะเป็นการเดินลงจากเขา แต่ก็เหนื่อยเอาการอยู่
คืนนี้พวกเราคงจะหลับเป็นตาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่