💜💜/มาลาริน/4 ก.ค.พบป่วยโควิด 5 รายมาจากตปท. โพลเผยปชช.มองรัฐแก้โควิดได้ดีค่อนข้างมาก-ดีเยี่ยม สวดมนต์ให้กำลังใจลุงตู่

ศบค. เผย พบป่วยโควิดรายใหม่ 5 คน จากคูเวต 1 คน สหราชอาณาจักร 1 คน และซูดาน 3 คน สะสม 3,185 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 3,066 คน

4 กรกฎาคม 2020 



(ศบค.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยอยู่อันดับที่ 97 ของโลก  ซึ่งวันนี้ไทยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 5 คน ยอดรวมยังคงที่ 3,185 คน และไม่มีผู้เสียชีวิต จึงมียอดผู้เสียชีวิตคงที่ 58 คน หายป่วยคงที่ 3,066 คน และรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 61 คน ทำให้ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศติดต่อกันเป็นระยะเวลา 40 วัน
 
สำหรับผู้ป่วย 5 คนที่ติดเชื้อ เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ คนแรกเป็นชายไทย อายุ 24 ปี พนักงานนวดที่เดินทางมาจากประเทศคูเวต อีกคนเป็นหญิง อายุ 41 ปี มาจากสหราชอาณาจักร และอีก 3 คน เป็นนักศึกษาชาย กลับมาจากประเทศซูดาน ซึ่งทั้ง 5 คน ตรวจพบเชื้อโควิดในสถานที่กักตัว ที่รัฐจัดไว้ให้

 
https://www.innnews.co.th/social/news_714928/
 


ซูเปอร์โพล 4 ก.ค..- SUPER POLLเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ทำบุญสวดมนต์ให้กำลังใจบิ๊กตู่  พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 54.5 ระบุรัฐบาลแก้ปัญหาได้ดีค่อนข้างมาก ถึง ดีเยี่ยม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ทำบุญสวดมนต์ให้กำลังใจบิ๊กตู่ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินการเก็บข้อมูลแบบผสมผสาน (Mixed Method) ทั้งการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การลงพื้นที่และการเก็บข้อมูลในโลกโซเชียลทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,332 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 1 – 4 ก.ค. ที่ผ่านมา 

เมื่อถามถึง เหตุปัจจัยของวิกฤตเศรษฐกิจประเทศและเงินในกระเป๋าของประชาชนที่ไม่พอใช้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.4 ระบุโรคโควิด-19 เกิดทั่วโลก ในขณะที่ร้อยละ 17.6 ระบุ ปัจจัยอื่น ๆ เช่น นักการเมืองมัวแต่ทะเลาะกัน การแก้ปัญหาของรัฐบาลและประชาชนทำตัวเอง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ผลประเมินภาพรวมการแก้ปัญหาผลกระทบของโควิด-19 โดยรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 54.5 ระบุรัฐบาลแก้ปัญหาได้ดีค่อนข้างมาก ถึง ดีเยี่ยม ในขณะที่ร้อยละ 45.5 ระบุค่อนข้างน้อย ถึง ไม่ดีเลย

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.1 ตั้งใจจะทำบุญสวดมนต์ให้กำลังใจบิ๊กตู่ ในวันอาสาฬหบูชานี้ให้สามารถแก้ปัญหาวิกฤตต่าง ๆ ของประเทศผ่านพ้นไปได้อย่างดี ในขณะที่ร้อยละ 42.9 ระบุไม่ทำ อย่างไรก็ตาม เสียงของประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.9 ระบุ นายกรัฐมนตรีควรรักษาคนดีไว้ข้างกายทำงานต่อเนื่อง ในขณะที่ร้อยละ 26.1 ระบุ ปล่อยให้มันเป็นไป

ที่น่าพิจารณาคือ เสียงของประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.9 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ นายกรัฐมนตรีควรใช้โอกาสนี้ ขจัด นักการเมืองที่จ่ายเงินซื้อเสียงเข้ามาหมดเนื้อหมดตัวไปเลย อย่าให้โอกาสพวกเขาถอนทุนคืน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ข้อมูลกระแสเสียงของประชาชนกำลังเริ่มดีขึ้นต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลโดยรวมเมื่อประชาชนเห็นชัดเจนว่า ความสามารถของ 3 ป. ผู้ทรงอิทธิพลในการจัดการความวุ่นวายภายในพรรคพลังประชารัฐได้ลงตัวและแยกส่วนการปรับ ครม. เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่มีโควต้าของนายกรัฐมนตรีในทีมรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและกระทรวงหลักสำคัญ “ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า” สมบัติชาติที่ภาคประชาสังคมต้องช่วยกันเฝ้ารักษาอย่าให้ใครเข้ามากอบโกยเอาไปได้

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ในห้วงเวลานี้ นายกรัฐมนตรีต้องอาศัยพลังบุญและคุณธรรมอย่างแรงของทุกฝ่ายทั้งประเทศช่วยกัน “ทำบุญสวดมนต์ให้กำลังใจบิ๊กตู่” ผู้นำของประเทศให้สามารถแก้วิกฤตเศรษฐกิจและความวุ่นวายทางการเมืองทุกมิติได้สำเร็จเพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำงาน “การเมืองใหม่” ที่ต้องผ่านการเล่นเกมที่แยบยลแนบเนียน เหมือนจะยอมแต่ไม่ยอมไปกับ “ภาวะตัณหา” ความอยากมี อยากเป็น และอยากเปลี่ยนให้ทันใจของทุกฝ่ายเพื่อตนเองและพวกพ้องของพวกเขา แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับพลังหนุนของภาคประชาชนว่า ประชาชนทั้งประเทศมองเห็นเหมือนกับที่นายกรัฐมนตรีเห็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

https://www.mcot.net/viewtna/5efff4a7e3f8e40af9462ecc



วันหยุดสบายๆ ทำให้เราสบายใจไปกับข่าวดีๆนะคะ

คือป่วยในประเทศยังไม่มีมา 40 วันแล้วค่ะ  

แต่เราต้องรอไปอีก 10 วันเพื่อให้พ้นระยะฟักตัวโควิด รับเปิดเทอมใหม่และผ่อนปรน เฟส 5

โพลวันนี้ประชาชนบอกว่ารัฐแก้ปัญหาโควิดได้ค่อนข้างดี-ดีเยี่ยม   วันพระใหญ่ไปทำบุญประชาชนก็สวดมนต์ให้กำลังใจลุงตู่ทำเพื่อชาติให้สำเร็จและนำคนดีๆเข้ามาช่วยทำงานให้บ้านเมือง

ในที่สุดประชาชนก็เห็นแล้วว่า...คนจริงคือใครกันที่ช่วยชาติช่วยประชาชน  ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักนายกฯลุงตู่  และมีคนรักนายกฯมากขึ้นกว่าเดิม  

ความรักชาติบ้านเมืองไม่ต้องใช้เงินเลยค่ะ ใช้ความรัก ความเสียสละ ความจริงใจ ความมั่นคง ความศรัทธาเท่านั้นก็นำพาให้ประสบความสำเร็จได้

ลุงตู่ไม่ใช่นายทุนมาเล่นการเมือง  มีแต่สองมือ สองเท้าก้าวมาสะสางปัญหาต่างๆ  ใช้ใจแลกใจประชาชน

เช่นเดียวกับกองหนุนลุงตู่ค่ะ กองหนุนลุงตู่ก็มาด้วยใจเพราะศรัทธาและเชื่อมั่นใจตัวลุงตู่  บวกกับความไม่ชอบการทุจริตใช้เงินมาทำประชานิยมเล่นการเมือง  จึงต้องมาเชียร์ลุงค่ะ



คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7




รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19  ณ วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม 2563

ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,185 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 5 ราย)
   -ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 40
   -และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 5 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 3,066 ราย (96.26%) (ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น)

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State quarantine โดยมีรายละเอียดดังนี้
- มาจากประเทศซูดาน 3 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี
- มาจากสหราชอาณาจักร 1 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี
- มาจากประเทศคูเวต 1 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร

สถานการณ์โลกในวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกยังคงอยู่ในหลักสองแสนราย ทำให้ยอดสะสมมีมากกว่า 11 ล้านรายแล้ว
เม็กซิโกขยับลำดับยอดผู้ติดเชื้อแซงหน้าอิตาลีขึ้นมาเป็นลำดับที่ 9 ของโลก

สำหรับสถานการณ์ในอาเซียน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของอินโดนีเซียมากกว่า 6 หมื่นรายแล้วในวันนี้ ในขณะที่ฟิลิปปินส์ทำสถิติรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุดนับจากที่เคยรายงานมาอยู่ที่ 1,531 ราย ทำให้ยอดสะสมของฟิลิปปินส์อยู่ที่ 40,336 รายแล้ว

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2904384823020404


ดัน “Thai Silk Online” รวมสินค้าหม่อนไหม สร้างรายได้สู้ภัยโควิด

#ไทยคู่ฟ้า เกษตรกร ผู้ทอผ้าไหมและผู้ประกอบการด้านหม่อนไหม และผู้ที่ชื่นชอบผ้าไหนฟังทางนี้ กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพิ่มทางเลือกจัดจำหน่ายสินค้าหม่อนไหมในระบบออนไลน์ ต้านภัยโควิด-19 ขึ้น โดยเปิดเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม “Thai Silk Online” เพื่อเป็นแหล่งรวมสินค้าหม่อนไหมทั่วประเทศ ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ผู้ทอผ้าไหมและผู้ประกอบการด้านหม่อนไหม  มีช่องทางการตลาดมากขึ้น ตอบสนองพฤติกรรมในการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในยุค New Normal และช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในช่วงโควิด-19

สำหรับช่องทางการจำหน่ายสินค้าหม่อนไหมในระบบออนไลน์ สามารถค้นหาและเลือกชมได้ที่ เว็บไซต์ www.thaisilkonline.com, เฟซบุ๊ก Thai Silk Online และ อินสตาแกรม thai.silk.online นอกจากนี้ ยังจำหน่ายด้วยวิธีการฝากขายผ่าน Marketplace ที่กำลังได้รับความนิยมคือ Lazada และ Shopee ซึ่งจะแสดงรายละเอียดสินค้าหม่อนไหม เช่น รูปภาพ ราคา จำนวน คุณลักษณะของสินค้าไว้อย่างละเอียด อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/32772
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/950220025443804


เริ่มแล้ว! สินเชื่อเสริมสภาพคล่องชาวประมง ยิงยาวถึง 25 พ.ค. 64

#ไทยคู่ฟ้า ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องสำหรับสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือพี่น้องภาคการเกษตร รอบนี้ถึงคิวของชาวประมงแล้วครับ...ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เปิดโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง สำหรับชาวประมงพื้นบ้านและพาณิชย์ที่ประสบปัญหาขาดแหล่งเงินทุน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 63 – 25 พ.ค. 64

สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องนี้เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ คิดอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 7 ต่อปี โดยรัฐจะชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3 ต่อปี และผู้ประกอบการประมงจ่ายสมทบเองอีกร้อยละ 4 ต่อปี มีกำหนดชำระคืนเงินกู้ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่วันที่กู้ รูปแบบสินเชื่อแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.สินเชื่อระยะสั้น เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ เช่น ค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงาน ค่าน้ำมัน ค่าน้ำแข็ง ฯลฯ
2.สินเชื่อระยะยาว เพื่อเป็นเงินทุนในการไปปรับปรุงเรือ ปรับเปลี่ยนเครื่องมือและอุปกรณ์ทำการประมง
โดยปล่อยกู้ผ่าน 2 ธนาคาร แยกตามขนาดของเรือประมง คือ ธ.ก.ส. ปล่อยกู้รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีเรือประมงขนาดต่ำกว่า 60 ตันกรอส และธนาคารออมสิน ปล่อยกู้รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีเรือประมงขนาดตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไป

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัด สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือกรมประมง โทร. 02 561 3353 ในวันและเวลาราชการ
Cr. : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/950057592126714


การประชุม ครม. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 63 อนุมัติจ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค. - ก.ค. 63 รวมเป็นเงิน 3,000 บาท โดยจะจ่ายเงินรวดเดียว 3 เดือน กำหนดวันโอนเงินไม่เกินวันที่ 20 ก.ค. 63 นี้

สำหรับกลุ่มเปราะบาง ทั้ง 3 กลุ่ม มีจำนวน 6,781,881 ราย ประกอบด้วย เด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 1,394,756 ราย ผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 4,056,596 ราย และคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 1,330,529 ราย

ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์หรือมีข้อสงสัย สามารถสอบถามที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทุกจังหวัด หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 บริการฟรี 24 ชั่วโมง

ที่มา : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/159541285664204


คกก.Medical Hub เตรียมความพร้อมรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หลังโควิด 19 คลี่คลาย

คณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) เตรียมความพร้อม 3 ด้าน รับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หากได้รับการผ่อนปรนหลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลาย

ภายหลังประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) ครั้งที่ 1/2563 พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเมื่อสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) คลี่คลาย

ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบในหลักการ 3 ด้าน ได้แก่ 1.จัดทำแนวทางการรักษาพยาบาลพร้อมเป็นสถานกักกันในโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ารับการรักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย ซึ่งรวมผู้ติดตาม โดยแบ่งเป็นสถานกักกันในโรงพยาบาล (Hospital Quarantine) กักกันตัวผู้ป่วยชาวไทยที่เดินทางกลับเข้ามาในไทย และสถานกักกันในโรงพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) สำหรับผู้ป่วยชาวต่างชาติและผู้ติดตาม ต้องมีการนัดหมายไว้ล่วงหน้า โดยรักษาและกักกันเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน ต้องมีผลการตรวจโควิด 19 ก่อนเข้าประเทศไม่เกิน 72 ชั่วโมง เมื่อเข้ามารักษาต้องมีการตรวจอีก 3 ครั้ง (ก่อนรักษา ระหว่างรักษา และหลังการรักษา) เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่นำเชื้อมาแพร่ระบาดในไทย โดยค่าใช้จ่ายในการรักษากรณี Hospital Quarantine หากเป็นคนไทยเป็นไปตามสิทธิการรักษา หากเกินสิทธิ์ต้องจ่ายเองโดยสมัครใจ กรณี Alternative Hospital Quarantine ผู้ป่วยต่างชาติและคนไทยที่สมัครใจต้องชำระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

2.เห็นชอบให้ “ประเทศไทยเป็นเมืองหลวงของโลกด้านการดูแลสุขภาพ” โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ Medical Hub ภายใต้แนวคิด “Healthcare Capital of the World” และกำหนดข้อความสำคัญในการสื่อสารว่า “Beyond Healthcare, Trust Thailand” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการกลับเข้ามาใช้บริการรักษาพยาบาลในประเทศไทย และ 3.มาตรการพัฒนาชุดเครื่องมือแพทย์รองรับการระบาดของโรคโควิด 19 เพื่อรับมือและลดโอกาสติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ และผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อวิด 19 โดยเน้นการผลิตในประเทศไทย แบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ เครื่องมือแพทย์สำหรับการคัดกรองและตรวจสอบโรค เครื่องมือแพทย์สำหรับการป้องกันและควบคุมโรค เครื่องมือแพทย์สำหรับการคัดแยกและการฆ่าเชื้อ และเครื่องมือแพทย์สำหรับการบำบัดรักษาโรค โดยเน้นการผลิตในประเทศไทย

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/159543775663955


กระทรวงกลาโหมและกองทัพเข้าใจดี ถึงข้อจำกัดด้านงบประมาณ
งบประมาณที่ใช้ ส่วนใหญ่ก็เรื่องของการซ่อมปรับปรุง
ส่วนการหายุทโธปกรณ์ใหม่นั้น ก็จัดหาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/309398160445513


รัฐบาล “ลุงตู่ 2” พัฒนารถไฟทางคู่

ปฏิรูประบบรางครั้งใหญ่ สร้างคุณภาพชีวิตด้านการคมนาคมที่ดี

รัฐบาลได้วางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมของประเทศเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชนได้มากขึ้น และรองรับการขนส่งสินค้าที่จะสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยในอนาคต โดยวางแผนพัฒนาระบบรางครั้งใหญ่ รถไฟทางคู่เฟส 1 ระยะทางกว่า 3,154 กิโลเมตร  จากเดิมที่ประเทศไทยมีรถไฟทางคู่เพียง 173 กิโลเมตร  
ปัจจุบันก่อสร้างเฟส 1 จำนวน 9 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,671 กม.

- ฉะเชิงเทรา – แก่งคอย 106 กม. เปิดให้บริการแล้ว

- ชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น 187 กม.เปิดให้บริการแล้ว

- มาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม.
ก่อสร้างคืบหน้า 41% เปิดให้บริการปี 2565

- ลพบุรี – ปากน้ำโพ ระยะทาง 148  กม.
ก่อสร้างคืบหน้า 40% เปิดให้บริการปี 2566

- นครปฐม – หัวหิน ระยะทาง 169 กม.
ก่อสร้างคืบหน้า 61% เปิดให้บริการปี 2565

- หัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม.  
ก่อสร้างคืบหน้า 62% เปิดให้บริการปี 65

- ประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร ระยะทาง 167 กม.  
ก่อสร้างคืบหน้า 53% เปิดให้บริการปี 2565

และอีก 2เส้นทาง คาดว่าเปิดประมูลปลายปี 63
- เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 323 กม.
- บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม 355 กม.

อีกทั้งยังเตรียมก่อสร้างเฟส 2 อีก 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,483 กม.
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/309173080468021
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่