สุดยอดซีรี่ย์อหังการสัญชาติเยอรมัน เรื่องนี้ยกระดับทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงเยอรมันก้าวกระโดดแถวมาหน้ามาประชัน กับ ซีรี่ย์อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่นและ เกาหลี
ช่างเป็นตอนจบที่กดดันและทำให้ต้องหลั่งน้ำตา อย่างไม่รู้ตัว
สำหรับ "DARK" ที่เป็นซีรี่ย์Hardcore Sci-fi ต้องยกให้ 30ปีมีครั้ง
ผมดูแล้วคิดถึงหนัง สเปซ โอดิสซี่ 2001 จอมจักรวาลหรือIinterstellarเลย
เนื้อหาอาจจะทำให้คนเคี้ยวไม่ค่อยลง ไม่ค่อยย่อย แต่ถ้าใครไม่ชอบก็คือไม่ดูต่อไปเลย แต่ถ้าคนลองชิมสักครั้ง จะทำให้อยากดูแบบนอนสต๊อปแบบฟูลคอร์สเลย
แต่จุดแข็งของซีรี่ย์ คือเอาเรื่องความรัก ปัญหาครอบครัว สังคม มาผสมผสานอยู่ในความไซไฟอย่างลงตัว
และมีการสอดแทรก ทฤษฎีวิทยาศาสตร์และเนื้อหาศาสนาเข้าไปอย่างเป็นระยะ ๆ ให้เราตีความไม่รู้จบ
และด้านซาวน์ เอฟเฟค แสง การถ่ายทำ บอกเลย โปรดัคชั่นของกองถ่ายนี้ เก็บทุกเม็ดจริง ๆ เรียกว่าภาพทุกช๊อตที่ถ่ายออกมา ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้ลึกมาก ๆ
ว่าง ๆ เลยมานั่งไล่ดู ไทม์ไลน์แบบคร่าว ๆ นะครับ ใครผิดแก้ได้เลยนะครับ ผมเองก็อาจจะทำตกหล่นไปเหมือนกัน และชื่อภาษาไทยอาจจะสะกดไม่แม่นนักนะครับ ขออภัยด้วย เครดิทตามนี้ครับ
https://www.tvguide.com/news/features/dark-timeline-explained-netflix-season-3/
แต่เอาจริง ๆ เว็บหลักดูง่ายกว่านะ
https://darknetflix.io/en/event-timeline/martha-nielsen-b
ผมหายงง เพราะเว็บหลักนี่ล่ะ
ราว ๆ ก่อนปี ค.ศ.1888 พ่อของ Gustav Tannhaus (ชายตาบอด)ที่มีชื่อว่าไฮน์ริช ก่อตั้งองค์กร Sic Mundus เป็นแนวคิดการย้อนเวลาไปปกป้องและช่วยเหลือคนที่เรารัก เพราะภรรยาของเขา ชาร์ล๊อตเทอร์ตายลงไป
ปี ค.ศ. 1888
วันที่ 27 มิถุนายน โยนาส(ผู้ใหญ่)หรืออดัมในอนาคต บาร์โทสซ์(วัยรุ่น-โลก1) แม็กนุส(วัยรุ่น-โลก1) และฟรานซิสก้า(วัยรุ่น-โลก1) มาจากปี2020 ที่หนีการระเบิดมา แต่กลับติดแหง็กอยู่ที่นี่และกำลังทดลองสร้างไทม์แมชชีน ที่โรงงานของTannhaus
21 กันยายน 1888
-มาร์ธา(วัยรุ่น-โลก2) พบกับพวก โยนาส(ผู้ใหญ่)จากปี2019
22 กันยายน 1888
กุตตาฟ(แก่-โลก1) มาเยี่ยมพวก โยนาส(ผู้ใหญ่) และบาร์โทสซ์(วัยรุ่น-โลก1) เล่าเรื่อง ซิกมันดัสกับ มาร์ธา(วัยรุ่น-โลก2) ฟัง
23 กันยายน 1888
อินฟินิตี้สังหาร กุตตาฟ(แก่-โลก1)เพราะเขาจะเปิดเผยเรื่องไทม์แมชชีน ให้ทั่วโลกรู้ และเอานาฬิกาสีเหลืองที่มีคำว่าชาร์ล๊อตเทอร์จากกุสตาฟไปให้อีฟ
-มาร์ธา(วัยรุ่น-โลก2) ทิ้งสสารมืดและโยนาส(ผู้ใหญ่) กลายเป็นอนุภาคพระเจ้า และหนีไปในปี 2053 โลก1
ค.ศ. 1890 ซิลจามาเจอกับบาร์โทสซ์(วัยรุ่น-โลก1) และโยนาส(ผู้ใหญ่) เริ่มตัวไหม้เพราะทดลองเครื่องไทม์แมชชีน
ค.ศ. 1904 ซิลจากำเนิด โนอาห์ (โลก1)
ค.ศ. 1905 ซิลจากำเนิดแอกเนส (โลก1) และก็สิ้นใจตาย
ค.ศ.1911 ฮันน่าห์ (ผู้ใหญ่-โลก1) ที่คลอดลูกมา พาซิลจาวัยเด็กมา เจอโยนาสผู้ใหญ่ที่กลายเป็นอดัมแล้วฆ่าและส่งตัวน้องสาวตัวเองไปยังโลกหลังวันสิ้นโลกแทน
ค.ศ.1920 โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1) มาจากปี 2041 พบกับโนอาห์(วัยหนุ่ม-โลก1) เขามาและเจอ โยนาส(อดัม)
หลอกใช้ให้ทำภารกิจด้วยหน้ากระดาษที่หายไปของสมุดโน๊ต Triquetra เพื่อตามลูกของเขา (ลูกสาวเขาถูกลักพาตัวไปในปี 2041)เขาเดินทางไปในปี1986และหลอกใช้(เฮลเกอผู้ใหญ่-โลก1)
ค.ศ.1921
วันที่ 8 มกราคม 1921 โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1)ถ่ายรูปกับกลุ่ม Sic Mundus
วันที่ 21 มิถุนายน 1921 ปีนี้เริ่มขุดถ้ำDark และโนอาห์(หนุ่มโลก1) ฆ่าพ่อตัวเองคือบาร์โทสซ์ (แก่แล้ว โลก1) นั่นเอง ตามคำสั่งและความเชื่อของตนเองต่อ โยนาส(อดัม)
และ โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1)เป็นคนคอยปลอบ โนอาห์(หนุ่ม-โลก1)ให้สงบจิตสงบใจหลังจากฆ่าพ่อตนเองไปว่าที่ทำไปน่ะ ถูกแล้ว
และโนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1)มารายการงานภารกิจต่อ โยนาส(อดัม) และโยนาส(อดัม)ย้ำว่าจะต้องหาหน้าที่ขาดหายไปของสมุดโน๊ต Triquetra อีก2-3หน้าให้เจอ
และ
วันที่ 23 มิถุนายน 1921
ปีนี้เอง โยนาส (พระเอกเสื้อเหลือง)ทะลุมาจากปี 2053 นอนโรงแรม ป้าเออร์น่า ที่โรงแรมนั้น แอกเนส(โลก 1) วัยเด็กอยู่ด้วย โยนาส (พระเอกเสื้อเหลือง)นอนฝันร้ายและครวญครางและมีแววตาเศร้าสร้อยจนทำให้ โนอาห์(วัยหนุ่ม-โลก1) จำเขาได้แม้ว่าจะผ่านไปนานเท่าใดและเล่าให้ เฮลเกอ(ผู้ใหญ่-โลก1)ในวันที่12พ.ย. ในปี 1986ฟัง
วันที่ 24 มิถุนายน 1921
โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1)โกหกเรื่องคลาวเดียร่างแก่ต่อ โยนาส(อดัม) ว่าไม่พบร่องรอยอะไร ในศพเคลาดเดีย (แก่-โลก1)ต่อไปขอเรียกอดัมแล้วกันเพราะร่างเยินหมดแล้ว
และโยนาส (พระเอกเสื้อเหลือง) ต้องยอมแพ้เพราะขุดหลุมที่ปิดอยู่ไม่ได้ เพราะกว่าอุโมงค์Dark จะขุดเสร็จอีก32ปี
โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1)จึงพาโยนาส (พระเอกเสื้อเหลือง)ไปพับกับอดัมและเฉลยว่า อดัมคือโยนาส
วันที่ 25 มิถุนายน 1921
อดัมเปิดเผยว่า มีเครื่องไทม์แมชีนแบบสนามพลังขนาดใหญ่ ที่ทำลายวัฎจักร 33ปีลงได้ โดยการเลือกวันเวลาได้อย่างแน่นอนในการเดินไป ส่งให้โยนาส (พระเอกเสื้อเหลือง)ไปปี 2019 เพื่อหยุดยั้ง มิคาเอล/มิเคล(ผู้ใหญ่-โลก1) พ่อตนเองไม่ให้ฆ่าตัวตายแต่ไม่เป็นผล กลายเป็นว่าส่งไปตามลูปเดิม
วันที่ 27 มิถุนายน 1921
โนอาห์(วัยรุ่น-โลก1) ก็ไปยังปี 2020 เพื่อเข้าไปอยู่ในหลุมหลบภัยวันสิ้นโลก1 ในปี2020
โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1) ตามหาหน้าจนพบและและรู้ตัวว่าเจอหลอกใช้ จึงพยายามจะฆ่าอดัม แต่แอกเนส(ผู้ใหญ่-โลก1)สังหารเขาก่อน ก่อนพวกเขาจะไปยังปี 2020
ค.ศ.1953ปีแห่งชะตากรรม หลักที่สาม
-เริ่มแผนการสร้างโรงงานไฟฟ้านีวเคลียร์
วันที่ 5 พ.ย. 1953
ศพของเอริค (เด็ก-โลก1) ถูกส่งมา
วันที่ 9 พ.ย. 1953
ศพของยาซิน (เด็ก-โลก1) ถูกส่งมาด้วยการขนศพของเฮลเกอร์(ผู้ใหญ่-โลก1)ในปี1986
วันที่ 10 พ.ย. 1953
ศพเด็กหายสองคนคือเอริค(เด็กที่มีใบประกาศคนแรกตอน1ss1 ตอนต้นเรื่องและศพยาซิน (แฟนเอลิซาเบ็ธ (เด็ก-โลก1)เด็กที่หายต่อจากมิคเคล กลับถูกส่งมาในปีนี้แทน จากปี 1986 ด้วยฝีมือของเฮลเกอ(ผู้ใหญ่-โลก1)และโนอาห์ (วัยฉกรรจ์-โลก1 )ถูกพบที่ไซต์งาน และศพทั้งสองห้อยเหรียญเฟนนิคปี1986ไว้
เอกอน ทีเดอร์มานด์(ผู้ใหญ่-โลก1) ถูกเรียกตัวมาทำคดีนี้
เฮลเกอ (เด็ก-โลก1)อาศัยอยู่กับแม่จอมเข้มงวดและพ่อของเขา bernd doppler(ผู้ใหญ่-โลก1)ที่เดินขากระเพลก เฮลเกอ (เด็ก-โลก1)รู้ว่ามีการพบศพที่ไซต์งานที่อนาคตจะมีการก่อสร้างโรงานไฟฟ้านีวเคลียร์และ ในเวลานั้นเขาก็มีกระท่อมและบังเกอร์แล้ว
เฮลเกอ (เด็ก-โลก1) เจอเด็กโตรังแกอย่างหนัก แต่บังเอิญที่อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1) เดินทางมาจากปี 2019 และพบเข้าพอดี อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1)กำลังตามล่า เฮลเกอ (แก่-โลก1)อยู่ แต่เขาไม่มีทางเจอเพราะไปกันคนละยุค
และทางสามแยกก่อนจะมีโรงงานไฟฟ้า อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1) พบกับ แอกเนส(ผู้ใหญ่-โลก1) เข้าพอดี เธอกำลังย้ายมาอยู่ที่วินเดนพร้อมกับลูกของเธอ ทรอนเทอ(เด็ก-โลก1) สร้างความตกตะลึงให้แก่อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1)
อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1) เตลิดเปิดเปิงไปพับกับ H.G. Tannhausและทำให้เกิดสิ่งของ Time paradox สองอย่างคือหนังสือท่องกาลเวลาและมือถือที่ลืมเอาไว้ สองอย่างนี้ ยังไม่เคยเกิดในยุคปี1953
ระหว่างนั้น อิเนส(เด็ก-โลก1)และยาน่า(เด็ก-โลก1)มาพอดีและกล่าวถึงว่าพบศพเด็กสองคนที่กองทราย อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1) รีบวิ่งไปดูทันที และไปอาละวาดที่โรงพักและได้พบกับเจ้ากรรมนายเวรของตนคือเอกอน(ผู้ใหญ่-โลก1) เพราะการพบเจอครั้งนี้ ทำให้เอกอนเวลาเจออุลริคที่ภพไหน ชาติไหน ยุคไหนก็จ้องจองเวรจองผลาญกันต่อ ๆ ไป
อูลริค (ผู้ใหญ่-โลก1) พยายามฆ่าเฮลเกอ(เด็ก-โลก1)และทิ้งไว้ในบังเกอร์ และต่อมาเจอเอกอน ทีเดอร์มานด์(โลก1) จับเข้าคุก (คือนกที่เฮลเกอ(เด็ก-โลก1)เก็บมันตกหล่นมาตายจริง ๆ เพราะมีการเดินทางข้ามเวลา แต่ทำให้อูลริคมองว่า เฮลเกอเป็นคนใจบาปตั้งแต่เด็กเลยหมายจะเอาชีวิตซะ ความจริงเจอทุบขนาดนั้นไม่น่าจะรอดแต่ก็รอดมาได้ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะกฎTime Paradox ที่ss3 เคยกล่าวไว้ว่ามันจะปกป้องทำให้ไม่สามารถตายได้ถ้าไม่ถึงเวลาของมัน)
เฮลเกอ(เด็ก-โลก1)ได้สร้อยเฟนนิคปี1986 จาก อูลริค (ผู้ใหญ่-โลก1)
-เคลาเดีย(เด็ก-โลก1)และโดริส พบกับแอกเนส(ผู้ใหญ่-โลก1)และทรอนเทอ(เด็ก-โลก1)โดย สองแม่ลูกมาขอเช่าบ้านอยู่
-หมาของเคลาเดีย (เด็ก-โลก1) ตอนเป็นเด็กหายตัวไป โผล่ในปี1986 น้องหมามีชื่อว่าเกรทเช่น
- bernd doppler(ผู้ใหญ่-โลก1) ทะเลาะกับพวกโรงงานถ่านหิน เขามีความเห็นว่าที่ใบอนุญาตก่อสร้างไม่สำเร็จเพราะเจอล็อบบี้จากพวกคนที่ไม่ยอมรับโรงงานไฟฟ้าพลังนีวเคลียร์
-โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1) มาเป็นบาทหลวงและให้คำปรึกษาแม่ของ เฮลเกอ(เด็ก-โลก1)
วันที่ 11 พ.ย. 1953
-อูลริค (ผู้ใหญ่-โลก1)ถูกสงสัยว่าฆ่าเด็กชายทั้งสองคน ,เฮลเกอ(เด็ก-โลก1)ฟื้นขึ้นมา
-เคลาเดีย (แก่-โลก1)ทิ้งแบบแปลนไทม์แมชชีนไว้ให้ H.G. Tannhaus
-การหายตัวไปของ เฮลเกอ(เด็ก-โลก1) พ่อของอิเนส คาห์นวัลด์(เด็ก-โลก1) หรือดาเนียล คาห์นวัลด์ ก็เป็นผู้ดูแล สน.นี้มอบหน้าที่ให้เอกอน(ผู้ใหญ่-1) จัดการ
เฮลเกอ (เด็ก-โลก1)ถูกส่งผ่านประตูกาลเวลาไป ปี1986
-แอกเนส (ผู้ใหญ่-โลก1) เริ่มกุ๊กกิ๊กกับโดริส
สรุปTimelineเรื่อง Dark seriesแบบไฟนอลคัท
ช่างเป็นตอนจบที่กดดันและทำให้ต้องหลั่งน้ำตา อย่างไม่รู้ตัว
สำหรับ "DARK" ที่เป็นซีรี่ย์Hardcore Sci-fi ต้องยกให้ 30ปีมีครั้ง
ผมดูแล้วคิดถึงหนัง สเปซ โอดิสซี่ 2001 จอมจักรวาลหรือIinterstellarเลย
เนื้อหาอาจจะทำให้คนเคี้ยวไม่ค่อยลง ไม่ค่อยย่อย แต่ถ้าใครไม่ชอบก็คือไม่ดูต่อไปเลย แต่ถ้าคนลองชิมสักครั้ง จะทำให้อยากดูแบบนอนสต๊อปแบบฟูลคอร์สเลย
แต่จุดแข็งของซีรี่ย์ คือเอาเรื่องความรัก ปัญหาครอบครัว สังคม มาผสมผสานอยู่ในความไซไฟอย่างลงตัว
และมีการสอดแทรก ทฤษฎีวิทยาศาสตร์และเนื้อหาศาสนาเข้าไปอย่างเป็นระยะ ๆ ให้เราตีความไม่รู้จบ
และด้านซาวน์ เอฟเฟค แสง การถ่ายทำ บอกเลย โปรดัคชั่นของกองถ่ายนี้ เก็บทุกเม็ดจริง ๆ เรียกว่าภาพทุกช๊อตที่ถ่ายออกมา ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้ลึกมาก ๆ
ว่าง ๆ เลยมานั่งไล่ดู ไทม์ไลน์แบบคร่าว ๆ นะครับ ใครผิดแก้ได้เลยนะครับ ผมเองก็อาจจะทำตกหล่นไปเหมือนกัน และชื่อภาษาไทยอาจจะสะกดไม่แม่นนักนะครับ ขออภัยด้วย เครดิทตามนี้ครับ
https://www.tvguide.com/news/features/dark-timeline-explained-netflix-season-3/
แต่เอาจริง ๆ เว็บหลักดูง่ายกว่านะ
https://darknetflix.io/en/event-timeline/martha-nielsen-b
ผมหายงง เพราะเว็บหลักนี่ล่ะ
ราว ๆ ก่อนปี ค.ศ.1888 พ่อของ Gustav Tannhaus (ชายตาบอด)ที่มีชื่อว่าไฮน์ริช ก่อตั้งองค์กร Sic Mundus เป็นแนวคิดการย้อนเวลาไปปกป้องและช่วยเหลือคนที่เรารัก เพราะภรรยาของเขา ชาร์ล๊อตเทอร์ตายลงไป
ปี ค.ศ. 1888
วันที่ 27 มิถุนายน โยนาส(ผู้ใหญ่)หรืออดัมในอนาคต บาร์โทสซ์(วัยรุ่น-โลก1) แม็กนุส(วัยรุ่น-โลก1) และฟรานซิสก้า(วัยรุ่น-โลก1) มาจากปี2020 ที่หนีการระเบิดมา แต่กลับติดแหง็กอยู่ที่นี่และกำลังทดลองสร้างไทม์แมชชีน ที่โรงงานของTannhaus
21 กันยายน 1888
-มาร์ธา(วัยรุ่น-โลก2) พบกับพวก โยนาส(ผู้ใหญ่)จากปี2019
22 กันยายน 1888
กุตตาฟ(แก่-โลก1) มาเยี่ยมพวก โยนาส(ผู้ใหญ่) และบาร์โทสซ์(วัยรุ่น-โลก1) เล่าเรื่อง ซิกมันดัสกับ มาร์ธา(วัยรุ่น-โลก2) ฟัง
23 กันยายน 1888
อินฟินิตี้สังหาร กุตตาฟ(แก่-โลก1)เพราะเขาจะเปิดเผยเรื่องไทม์แมชชีน ให้ทั่วโลกรู้ และเอานาฬิกาสีเหลืองที่มีคำว่าชาร์ล๊อตเทอร์จากกุสตาฟไปให้อีฟ
-มาร์ธา(วัยรุ่น-โลก2) ทิ้งสสารมืดและโยนาส(ผู้ใหญ่) กลายเป็นอนุภาคพระเจ้า และหนีไปในปี 2053 โลก1
ค.ศ. 1890 ซิลจามาเจอกับบาร์โทสซ์(วัยรุ่น-โลก1) และโยนาส(ผู้ใหญ่) เริ่มตัวไหม้เพราะทดลองเครื่องไทม์แมชชีน
ค.ศ. 1904 ซิลจากำเนิด โนอาห์ (โลก1)
ค.ศ. 1905 ซิลจากำเนิดแอกเนส (โลก1) และก็สิ้นใจตาย
ค.ศ.1911 ฮันน่าห์ (ผู้ใหญ่-โลก1) ที่คลอดลูกมา พาซิลจาวัยเด็กมา เจอโยนาสผู้ใหญ่ที่กลายเป็นอดัมแล้วฆ่าและส่งตัวน้องสาวตัวเองไปยังโลกหลังวันสิ้นโลกแทน
ค.ศ.1920 โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1) มาจากปี 2041 พบกับโนอาห์(วัยหนุ่ม-โลก1) เขามาและเจอ โยนาส(อดัม)
หลอกใช้ให้ทำภารกิจด้วยหน้ากระดาษที่หายไปของสมุดโน๊ต Triquetra เพื่อตามลูกของเขา (ลูกสาวเขาถูกลักพาตัวไปในปี 2041)เขาเดินทางไปในปี1986และหลอกใช้(เฮลเกอผู้ใหญ่-โลก1)
ค.ศ.1921
วันที่ 8 มกราคม 1921 โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1)ถ่ายรูปกับกลุ่ม Sic Mundus
วันที่ 21 มิถุนายน 1921 ปีนี้เริ่มขุดถ้ำDark และโนอาห์(หนุ่มโลก1) ฆ่าพ่อตัวเองคือบาร์โทสซ์ (แก่แล้ว โลก1) นั่นเอง ตามคำสั่งและความเชื่อของตนเองต่อ โยนาส(อดัม)
และ โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1)เป็นคนคอยปลอบ โนอาห์(หนุ่ม-โลก1)ให้สงบจิตสงบใจหลังจากฆ่าพ่อตนเองไปว่าที่ทำไปน่ะ ถูกแล้ว
และโนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1)มารายการงานภารกิจต่อ โยนาส(อดัม) และโยนาส(อดัม)ย้ำว่าจะต้องหาหน้าที่ขาดหายไปของสมุดโน๊ต Triquetra อีก2-3หน้าให้เจอ
และ
วันที่ 23 มิถุนายน 1921
ปีนี้เอง โยนาส (พระเอกเสื้อเหลือง)ทะลุมาจากปี 2053 นอนโรงแรม ป้าเออร์น่า ที่โรงแรมนั้น แอกเนส(โลก 1) วัยเด็กอยู่ด้วย โยนาส (พระเอกเสื้อเหลือง)นอนฝันร้ายและครวญครางและมีแววตาเศร้าสร้อยจนทำให้ โนอาห์(วัยหนุ่ม-โลก1) จำเขาได้แม้ว่าจะผ่านไปนานเท่าใดและเล่าให้ เฮลเกอ(ผู้ใหญ่-โลก1)ในวันที่12พ.ย. ในปี 1986ฟัง
วันที่ 24 มิถุนายน 1921
โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1)โกหกเรื่องคลาวเดียร่างแก่ต่อ โยนาส(อดัม) ว่าไม่พบร่องรอยอะไร ในศพเคลาดเดีย (แก่-โลก1)ต่อไปขอเรียกอดัมแล้วกันเพราะร่างเยินหมดแล้ว
และโยนาส (พระเอกเสื้อเหลือง) ต้องยอมแพ้เพราะขุดหลุมที่ปิดอยู่ไม่ได้ เพราะกว่าอุโมงค์Dark จะขุดเสร็จอีก32ปี
โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1)จึงพาโยนาส (พระเอกเสื้อเหลือง)ไปพับกับอดัมและเฉลยว่า อดัมคือโยนาส
วันที่ 25 มิถุนายน 1921
อดัมเปิดเผยว่า มีเครื่องไทม์แมชีนแบบสนามพลังขนาดใหญ่ ที่ทำลายวัฎจักร 33ปีลงได้ โดยการเลือกวันเวลาได้อย่างแน่นอนในการเดินไป ส่งให้โยนาส (พระเอกเสื้อเหลือง)ไปปี 2019 เพื่อหยุดยั้ง มิคาเอล/มิเคล(ผู้ใหญ่-โลก1) พ่อตนเองไม่ให้ฆ่าตัวตายแต่ไม่เป็นผล กลายเป็นว่าส่งไปตามลูปเดิม
วันที่ 27 มิถุนายน 1921
โนอาห์(วัยรุ่น-โลก1) ก็ไปยังปี 2020 เพื่อเข้าไปอยู่ในหลุมหลบภัยวันสิ้นโลก1 ในปี2020
โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1) ตามหาหน้าจนพบและและรู้ตัวว่าเจอหลอกใช้ จึงพยายามจะฆ่าอดัม แต่แอกเนส(ผู้ใหญ่-โลก1)สังหารเขาก่อน ก่อนพวกเขาจะไปยังปี 2020
ค.ศ.1953ปีแห่งชะตากรรม หลักที่สาม
-เริ่มแผนการสร้างโรงงานไฟฟ้านีวเคลียร์
วันที่ 5 พ.ย. 1953
ศพของเอริค (เด็ก-โลก1) ถูกส่งมา
วันที่ 9 พ.ย. 1953
ศพของยาซิน (เด็ก-โลก1) ถูกส่งมาด้วยการขนศพของเฮลเกอร์(ผู้ใหญ่-โลก1)ในปี1986
วันที่ 10 พ.ย. 1953
ศพเด็กหายสองคนคือเอริค(เด็กที่มีใบประกาศคนแรกตอน1ss1 ตอนต้นเรื่องและศพยาซิน (แฟนเอลิซาเบ็ธ (เด็ก-โลก1)เด็กที่หายต่อจากมิคเคล กลับถูกส่งมาในปีนี้แทน จากปี 1986 ด้วยฝีมือของเฮลเกอ(ผู้ใหญ่-โลก1)และโนอาห์ (วัยฉกรรจ์-โลก1 )ถูกพบที่ไซต์งาน และศพทั้งสองห้อยเหรียญเฟนนิคปี1986ไว้
เอกอน ทีเดอร์มานด์(ผู้ใหญ่-โลก1) ถูกเรียกตัวมาทำคดีนี้
เฮลเกอ (เด็ก-โลก1)อาศัยอยู่กับแม่จอมเข้มงวดและพ่อของเขา bernd doppler(ผู้ใหญ่-โลก1)ที่เดินขากระเพลก เฮลเกอ (เด็ก-โลก1)รู้ว่ามีการพบศพที่ไซต์งานที่อนาคตจะมีการก่อสร้างโรงานไฟฟ้านีวเคลียร์และ ในเวลานั้นเขาก็มีกระท่อมและบังเกอร์แล้ว
เฮลเกอ (เด็ก-โลก1) เจอเด็กโตรังแกอย่างหนัก แต่บังเอิญที่อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1) เดินทางมาจากปี 2019 และพบเข้าพอดี อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1)กำลังตามล่า เฮลเกอ (แก่-โลก1)อยู่ แต่เขาไม่มีทางเจอเพราะไปกันคนละยุค
และทางสามแยกก่อนจะมีโรงงานไฟฟ้า อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1) พบกับ แอกเนส(ผู้ใหญ่-โลก1) เข้าพอดี เธอกำลังย้ายมาอยู่ที่วินเดนพร้อมกับลูกของเธอ ทรอนเทอ(เด็ก-โลก1) สร้างความตกตะลึงให้แก่อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1)
อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1) เตลิดเปิดเปิงไปพับกับ H.G. Tannhausและทำให้เกิดสิ่งของ Time paradox สองอย่างคือหนังสือท่องกาลเวลาและมือถือที่ลืมเอาไว้ สองอย่างนี้ ยังไม่เคยเกิดในยุคปี1953
ระหว่างนั้น อิเนส(เด็ก-โลก1)และยาน่า(เด็ก-โลก1)มาพอดีและกล่าวถึงว่าพบศพเด็กสองคนที่กองทราย อุลริค (ผู้ใหญ่-โลก1) รีบวิ่งไปดูทันที และไปอาละวาดที่โรงพักและได้พบกับเจ้ากรรมนายเวรของตนคือเอกอน(ผู้ใหญ่-โลก1) เพราะการพบเจอครั้งนี้ ทำให้เอกอนเวลาเจออุลริคที่ภพไหน ชาติไหน ยุคไหนก็จ้องจองเวรจองผลาญกันต่อ ๆ ไป
อูลริค (ผู้ใหญ่-โลก1) พยายามฆ่าเฮลเกอ(เด็ก-โลก1)และทิ้งไว้ในบังเกอร์ และต่อมาเจอเอกอน ทีเดอร์มานด์(โลก1) จับเข้าคุก (คือนกที่เฮลเกอ(เด็ก-โลก1)เก็บมันตกหล่นมาตายจริง ๆ เพราะมีการเดินทางข้ามเวลา แต่ทำให้อูลริคมองว่า เฮลเกอเป็นคนใจบาปตั้งแต่เด็กเลยหมายจะเอาชีวิตซะ ความจริงเจอทุบขนาดนั้นไม่น่าจะรอดแต่ก็รอดมาได้ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะกฎTime Paradox ที่ss3 เคยกล่าวไว้ว่ามันจะปกป้องทำให้ไม่สามารถตายได้ถ้าไม่ถึงเวลาของมัน)
เฮลเกอ(เด็ก-โลก1)ได้สร้อยเฟนนิคปี1986 จาก อูลริค (ผู้ใหญ่-โลก1)
-เคลาเดีย(เด็ก-โลก1)และโดริส พบกับแอกเนส(ผู้ใหญ่-โลก1)และทรอนเทอ(เด็ก-โลก1)โดย สองแม่ลูกมาขอเช่าบ้านอยู่
-หมาของเคลาเดีย (เด็ก-โลก1) ตอนเป็นเด็กหายตัวไป โผล่ในปี1986 น้องหมามีชื่อว่าเกรทเช่น
- bernd doppler(ผู้ใหญ่-โลก1) ทะเลาะกับพวกโรงงานถ่านหิน เขามีความเห็นว่าที่ใบอนุญาตก่อสร้างไม่สำเร็จเพราะเจอล็อบบี้จากพวกคนที่ไม่ยอมรับโรงงานไฟฟ้าพลังนีวเคลียร์
-โนอาห์(วัยฉกรรจ์-โลก1) มาเป็นบาทหลวงและให้คำปรึกษาแม่ของ เฮลเกอ(เด็ก-โลก1)
วันที่ 11 พ.ย. 1953
-อูลริค (ผู้ใหญ่-โลก1)ถูกสงสัยว่าฆ่าเด็กชายทั้งสองคน ,เฮลเกอ(เด็ก-โลก1)ฟื้นขึ้นมา
-เคลาเดีย (แก่-โลก1)ทิ้งแบบแปลนไทม์แมชชีนไว้ให้ H.G. Tannhaus
-การหายตัวไปของ เฮลเกอ(เด็ก-โลก1) พ่อของอิเนส คาห์นวัลด์(เด็ก-โลก1) หรือดาเนียล คาห์นวัลด์ ก็เป็นผู้ดูแล สน.นี้มอบหน้าที่ให้เอกอน(ผู้ใหญ่-1) จัดการ
เฮลเกอ (เด็ก-โลก1)ถูกส่งผ่านประตูกาลเวลาไป ปี1986
-แอกเนส (ผู้ใหญ่-โลก1) เริ่มกุ๊กกิ๊กกับโดริส