เคยสงสัยหรือเคยถามตัวเองกันบ้างไหม ทำไมเราจึงกล้าพูดเรื่องส่วนตัวบางเรื่องกับคนแปลกหน้าหรือคนไม่คุ้นเคย ในขณะที่เราไม่อยากพูดเรื่องเดียวกันนั้นกับคนในครอบครัวที่แทบจะกลายเป็นคนแปลกหน้ากันไปจริงๆ แล้ว  
 


อาจเป็นความปรารถนาดีที่ไม่ได้รับการตอบสนอง อาจเป็นความคาดหวังที่ไม่บรรลุผล อาจเป็นมาตรฐานชีวิตที่คิดเอาเองว่าดี ทั้งจากตัวเราและจากคนในครอบครัว แต่ที่จริงแล้วมันอาจไม่พอดีกับวิถีของอีกคน จากที่ควรจะเป็นความอบอุ่นในครอบครัวแสนสุข กลายเป็นความหมางเมินเหินห่าง สุข-ทุกข์ที่ควรแบ่งปันกลายเป็นสิ่งที่ต้องเก็บงำ รวมทั้งความลับที่อยากจะปกปิดไว้ตลอดกาล  เมื่อวันที่คนในครอบครัวเหมือนเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเรา และคนนอกบ้านกลับกลายเป็นคนที่พร้อมจะเข้าใจทุกอย่างที่เป็นตัวเรา 



อึนจู, อึนฮี และจีอู ได้รับข้อความจากแม่ถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับพ่อ เมื่อทั้งสามคนมาถึงโรงพยาบาลและพบว่าในความรับรู้ของพ่อที่ตื่นขึ้นมา คือชายหนุ่มในวัย 22 ปี คนที่เพิ่งขอแต่งงานกับแม่ และความรักของพ่อยังแจ่มชัดสดใสสวยงาม  พ่อวัยใกล้เกษียณ คนที่อารมณ์ฉุนเฉียวและร้อนรุ่มใส่แม่อยู่เสมอหายไป กลายเป็นพ่อที่สดใสยิ้มง่าย ช่างเย้าแหย่และแสนจะโรแมนติกอย่างไม่เกรงใจลูกเลยสักนิด ความลำบากใจกลับมาตกอยู่ที่แม่ กับความสัมพันธ์ของพ่อและแม่ที่ง่อนแง่นโงนเงนมาตลอดหลายสิบปี พร้อมจะปิดฉากในไม่กี่วันก่อนหน้าที่อะไรทุกอย่างจะพลิกผันมาถึงจุดนี้   


 
ในความสัมพันธ์ที่มีรอยร้าวของพ่อแม่และความบาดหมางระหว่างลูก สิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อในวันนี้ แต่มาช่วยกระชับความห่างเหินของอึนฮีและอึนจู ให้ขยับกลับมาอยู่ในที่ทางที่ควรจะเป็นในความเป็นพี่สาว-น้องสาว

เรื่องราวที่ถูกเก็บงำซ่อนเร้นไว้ ความลับ ความอึดอัด ความอดทน ความทุกข์ ในนามของคำว่าครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสามี-ภรรยา, พ่อ-แม่-ลูก, พี่-น้อง 



ยังมีชีวิตรักของสองสาวพี่น้อง ที่ดำเนินไปบนความซับซ้อน ขนานไปกับเรื่องราวที่ข้นคลั่กของพ่อแม่ ทั้งหมดทั้งมวล คือการเปิดพรมเพื่อกวาดฝุ่นผงที่ถูกทับอยู่ใต้พรม จุดเริ่มต้นของการชำระล้าง



การเล่าเรื่องที่ไม่หวือหวา เล่าไปเรียบๆ เรื่อยๆ แต่คนดูไม่กล้าเท หรือจะพูดให้ชัดไปกว่านั้นก็คือไม่คิดจะทิ้ง  เริ่มต้นด้วยความไม่รู้อะไรเลย แต่ละอีพีผ่านไปโดยไม่มีอะไรที่เราจะได้รู้ล่วงหน้าก่อนตัวละครเหล่านั้น เหมือนกำลังปอกหัวหอมออกทีละชั้น ทีละชั้น พร้อมๆ กับน้ำตาที่ไหลออกมา  



ความรู้สึกของคนดูก็ไม่ต่างกับตัวละครสำคัญทุกคนในเรื่องนี้ ในทุกขณะที่ความจริง ความลับ ของใครบางคนถูกเปิดเผย และคนดูอย่างเราทำได้แค่ร้อง เฮ้ย ! ในซีนสุดท้ายของอีพี ที่ไต่ระดับความพีคขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ อีพี 



แปลกที่แม้เนื้อหาเรื่องราวหนักหน่วงของปัญหาในครอบครัวจะเป็นเรื่องชวนน่าเบื่อ ในความเขม็งเกลียวของความไม่รู้ที่ยังไม่ถูกเปิดเผย เรากลับไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการติดตามชีวิตของพวกเขา 



ความหย่อนใจที่แสนเพลิดเพลินคือ ทีมงานห่านทองคำ นำทีมโดย พัคชานฮยอก ที่ปรึกษาส่วนตัวของลูกสาวคนรอง  ที่เกือบจะกลายเป็นที่ปรึกษาประจำครอบครัว ที่คนดูหลายคนอยากลุ้นให้ขยับฐานะขึ้นไปอีก . . พูดค้างไว้แค่นี้  อยากรู้มากกว่านี้ต้องไปหาคำตอบกันเอง




ฮันเยริ รับบท คิมอึนฮี ลูกสาวคนรอง 
เด็กวันพุธของบ้าน  ผู้หญิงอ่อนไหว ช่างคิด มโนเก่ง เป็นห่วงทุกคน เหมือนจะรู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องของตัวเอง  

ในความบาดหมางระหว่างเธอกับพี่ใหญ่ อาจเกิดสุญญากาศในครอบครัวอยู่บ้าง ถึงอย่างนั้นอึนฮียังคงเป็นตัวเชื่อมระหว่างทุกคน และอย่างน้อยเธอยังเรียกรอยยิ้มจากแม่ได้เสมอ  



ในตำแหน่งบก.ของสนพ. ผู้เข็ดขยาดกับความรัก 9 ปีที่ล่มไม่เป็นท่า และชีวิตโสดที่ผ่านมาหลายปีกำลังถูกสั่นคลอน ใครคือผู้ปิดฉากชีวิตโสดยาวนานของเธอ จะเป็นรองผอ.หนุ่มคนใหม่ หรือ ที่ปรึกษาคนนั้น  



แฟนซีรีส์ส่วนใหญ่รู้จักเยริในบทนักฆ่าจากซีรีส์ซากึกที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อน ทั้งๆที่เธอเริ่มต้นมาจากภาพยนตร์ เธอยังคงมีผลงานภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง หลายเรื่องเป็นหนังอาร์ต บ่งบอกการเลือกงานอย่างมีสไตล์เฉพาะตัวของเธอ แม้ไม่ใช่โปรดักชั่นใหญ่โต แต่ถ้าบทตรงใจ เธอก็ยินดีร่วมงาน พูดง่ายๆ คือ มีความอาร์ตพอตัว 



เป็นผู้หญิงที่อยู่ระหว่างความเท่และความอ่อนหวานที่ไม่ใช่ความหวานเลี่ยน เธอไม่ใช่คนสวยคมสวยหวาน แต่เป็นผู้หญิงหน้าตาเก๋ บุคลิกดีมีสไตล์ และเสน่ห์ในการแสดงคือสิ่งที่ทำให้ . . เธอสวย


 
ชูจาฮยอน ในบท คิมอึนจู ลูกสาวคนโต 
ในฐานะพี่ใหญ่ของน้องๆ อีกสองคน  เธอคือคนที่รับบทหนัก และแบกรับความรับผิดชอบในครอบครัวรองจากพ่อ  ภายใต้แรงกดดัน ความเหนื่อยหน่ายกับความรับผิดชอบ เธอคือลูกที่รักและห่วงใยพ่อมากที่สุดคนหนึ่ง  



ในสถานะปัจจุบัน อาจมองได้ว่าเธอประสบความสำเร็จกับชีวิตครอบครัว แต่ความสัมพันธ์ที่ชืดชาของชีวิตคู่ บุคลิกนิ่งๆ ดูเย็นเยือกและเหมือนจะรับมือได้กับทุกเรื่อง เราจะสัมผัสได้ว่าภายในคุกรุ่นรอวันที่จะปะทุและระเบิดออกมา  



การแสดงของชูจาฮยอนคือเสน่ห์ที่ดึงดูดคนดูยิ่งกว่าหน้าตาสวยๆ ของเธอ ความสง่างามแต่แฝงความเศร้า ดูเข้มแข็งแต่ก็คล้ายจะพังทลายได้ทุกเวลา น้ำเสียงเรียบๆ และไพเราะของเธอ เป็นได้ทั้งน้ำเย็นชื่นฉ่ำใจและพร้อมจะเปลี่ยนเป็นน้ำร้อนที่จะสามารถลวกหูลวกใจคนฟัง 


 
คิมจีซอก รับบท พัคชานฮยอก 
ประธานบ.มีเดียชื่อเก๋ไก๋ว่า ห่านทองคำ ที่มีลูกค้าจำนวนจุ๋มจิ๋ม และพนักงานในบ.รวมท่านประธานด้วยนับได้สี่คนถ้วน ในตำแหน่งประธานนั้น เขาเป็นทุกอย่างของลูกน้อง ทั้งเจ้านาย, เพื่อนร่วมงาน, พี่ชาย และที่ปรึกษานอกเวลางาน  



ในฐานะเพื่อนสนิทแสนยาวนานของอึนฮี เขาคือคนที่เธอไม่ต้องวางมาด keep look ใส่  ทุกอย่างที่เป็นความเปิ่น ความบ้า ความผิดพลาด แม้แต่ความลับในชีวิตเธอ มีเขาคนนี้เป็นพยานรับรู้  



ผู้ชายที่ดูไม่หวือหวา ไม่มีความตื่นเต้นตูมตามในหัวใจยามที่อยู่ใกล้ เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงจะรู้สึกปลอดภัย อุ่นใจ เมื่อมีเขาอยู่เคียงข้าง ชานฮยอกแทบจะรู้ทุกเรื่องของทุกคนที่แวดล้อมรอบตัวเขา แต่ถามว่าใครรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจ 



คิมจีซอก ผู้ครองตำแหน่ง พระรองตลอดกาล จนแทบจะเป็นภาพจำของเขาไปแล้ว แต่ในที่สุดก็ได้เลื่อนชั้น มารับบทพระเอกสองเรื่องติดกัน ในผลงานก่อนหน้านี้ สำหรับใครก็ตามที่ชื่นชอบการแสดงของเขา ฉันขอพูดเลยว่า กับบทบาทท่านประธานพัคชานฮยอกในเรื่องนี้  ซึ่งก็ยังไม่รู้หรอกว่าจะพระเอกหรือเพื่อนนางเอกตลอดกาล แต่ไม่ว่าจะลงเอยที่ตำแหน่งไหน พัคชานฮยอกคือตัวละครที่หนุนส่งคิมจีซอกที่สุดที่เคยดูการแสดงของเขามา



เป็นตัวละครที่น่ารัก ไม่เยอะเกิน ไม่น้อยไป มีเสน่ห์โดยไม่ต้องหวือหวาท่าเยอะใดๆ เลย และคิมจีซอกก็ทำหน้าที่ของเขาได้อย่างน่าเอ็นดูที่สุด ชานฮยอกคือคนที่มาปัดเป่าความหม่นมัวของทุกคน จีซอกคือความสดใสของเรื่องนี้ โดยเฉพาะแฟชั่น ทรงผม-เสื้อผ้า ของเขาในเรื่องนี้ คือ ถูกใจฉันมากถึงมากที่สุด ชอบทุกชุดค่ะ ไม่น่าเชื่อเลย แต่เป็นไปแล้ว มันคือความ ไม่มากเกิน ไม่น้อยไป เท่ๆ คูลๆ หล่อละมุนแบบเดินถนนได้จริง น่ารักใจบางมาก 



ขอชมสไตลิสต์ของซีรีส์เรื่องนี้ว่ามีรสนิยมดีถูกใจฉันเหลือเกิน ไม่ใช่เฉพาะจีซอก แต่ของเยริก็สวยกำลังพอดีๆ ว่าตามจริงคือ กับตัวละครหลักทุกคนคือ เสื้อผ้างานดีมากค่ะ เหมาะและตรงกับคาแรคเตอร์ของนักแสดงแต่ละคน สามารถใส่ได้จริงเดินถนนได้จริง 

.
.
.
.
.

ต่อในคอมเมนต์ค่ะ