นิทานที่ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง

 “แม่ครับ วันนี้แม่จะเล่าเรื่องสัตว์ต่อใช่ไหม”
เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กชายตัวจ้อย หัวทุย ฟันหลอ
ยิ้มแป้น ถามมารดาที่กำลังขะมักเขม้น ทำอาหารเช้าอยู่ในครัวให้ลูกชาย
เธอยิ้มรับเสียงใส โน้มตัวลงไป แกล้งถามหนุ่มน้อยว่า
“พี่พูล ทำงานที่แม่ ฝากให้ทำเมื่อวานเสร็จหรือยัง..” 
เด็กชายพูลภัทร อายุ 4 ขวบ ชื่อเล่น "พูล"
ออกเสียงตาม คำว่า พูลเหมือนชื่อเมือง ลิเวอร์พูล
และชื่อสโมสรฟุตบอล ที่พ่อและแม่ของเขาชื่นชอบ  
พ่อและแม่ของพูลแยกทางกัน หรือจะเรียกว่า ต่างเลือกจะสร้างครอบครัวของตัวเอง จะดีกว่า
ทั้งสองยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มีความรับผิดชอบร่วมกัน ที่จะเลี้ยงดู ลูกชายคนเดียว ให้ดี
ดีที่หมายถึง มีความสุขเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะมี
และมีความทุกข์อย่างที่มนุษย์คนหนึ่งต้องพบเจอ อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่ยอมแพ้กับมัน

ในวันหยุดสุดสัปดาห์ พ่อของเด็กชายจะเป็นสารถีดูแล ทำกิจกรรมร่วมกันตามประสา พ่อลูก
แต่ในวันปรกติธรรมดา ผู้เป็นแม่ที่ทำงานอยู่กับบ้าน จะรับหน้าที่พิชิตใจลูกชายเอง
เกือบ 3 เดือนแล้ว ที่โรงเรียนต้องปิด เหตุเพราะโรคระบาด 
การได้ใช้เวลากับลูกเป็นสิ่งที่แม่ทุกคนปรารถนา
และเป็นความท้าทายอย่างมาก ที่ต้องผันตัวเองเป็นครู เต็มเวลา
หากิจกรรมการเรียนรู้สนุกๆให้เขา อยู่ทุกวัน
บางวันฝึกงานบ้าน สอนให้เขาดูแลตัวเองอย่างง่ายๆ
เลือกชุดที่จะใส่เอง แยกสีเสื้อสำหรับแยกซัก
บางวันก็ฝึกคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ง่ายๆ
จากสิ่งของเครื่องใช้ ในครัว ห้องนอน
หรือคำศัพท์ชุด ผักและผลไม้ในตู้เย็น 
เนื้อหาที่พูลได้เรียนไปเมื่อวาน ทำให้เด็กน้อยสนุกมาก 
จนแม่ของเขา อยากต่อเสริมบทเรียนออกไปอีก
โดยให้ พูลเลือก วาดรูปสัตว์ อะไรก็ได้ ที่เขาอยากฟังนิทานเกี่ยวกับมัน
ภาพสัตว์ในหัวข้อที่แม่ของหนูน้อยเลือกสอนเมื่อวาน
มาจากตัวการ์ตูนที่มีอุปนิสัยผสมผสานระหว่างธรรมชาติของสัตว์นั้นๆ กับนิสัยของมนุษย์
จากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง ซูโทเปีย
โดยมีตัวละคร อย่าง กระต่ายสาวตำรวจ สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์หัวไว
ทีมตำรวจนักล่าหรรษา กระทิง เสือ แรด หมี
เสมียนสลอธจอมเชื่องช้า
และถึงอีกหลายตัวละครสัตว์
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ เด็กชายจึงเริ่มบทเรียนต่อจากเมื่อวาน
ลงมือ วาดภาพระบายสี ในชื่อว่า "ฉันชอบสัตว์ตัวนี้”
ระหว่างที่แม่ของเขากำลังทำงาน ก็ชำเลืองดูลูกชาย สลับไปมา
เด็กชายใช้เวลาครู่ใหญ่ “พูลทำเสร็จแล้ว ฮ่าๆๆ ” หนุ่มน้อยพูล ยิ้มร่า พร้อมชูภาพวาดฝีมือตัวเอง
แม้เขาจะยังไม่รู้จักคำว่าศิลปะ แต่ก็ฉลาดในการนำเสนอผลงานของตนเองซะแล้ว..
ในขณะที่ผู้เป็นแม่แกล้งขมวดคิ้ว และครุ่นคิด  
“แม่มองใกล้ๆ แบบนั้นจะมองไม่ออกนะ ต้องมองไกลๆ อีกหน่อย”หนูน้อยชี้แนะแม่ของเขา ดูช่างน่าเอ็นดู
ภาพระบายสีของพูล  หากเพ่งมองภาพวาด ระยะใกล้ๆ อาจคาดเดาไม่ถูก  
แต่เมื่อเธอ ก้าวถอยหลัง ออกมา 1 ก้าว และจ้องมองภาพนั้นอีกครั้ง จึงนึกขึ้นได้ว่า
ต้นแบบของภาพ มาจากอะไร

“พี่พลู...วาด...ตัวสลอธ!!! ใช่ไหมครับ”
ท่าทางของสัตว์ในภาพที่พูลวาด กับสีพื้นหลังที่ระบาย
คือภาพของ โฆษณาถุงยางอนามัย ยี่ห้อหนึ่ง
ถูกจัดเป็น 1 ในสินค้าที่ดีที่สุด
เพื่อกิจกรรมสัมผัสแนบชิดบนเตียงให้ต่อเนื่องยาวนาน
ดังคำโปรยสินค้า ที่บอกเอาไว้ว่า
-เพราะบางครั้งเราก็ควรไปอย่างช้าๆ และให้เวลากับมัน-

ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะผละจากงาน เพื่อมาเล่านิทาน และวิถีชีวิตของ เจ้าสลอธ ให้ลูกชายฟัง
เธอได้เอ่ยถามกับลูกชายช่างสังเกตว่า
“พี่พลู เห็นภาพตัวสลอธนี้จากไหนครับเนี่ย”
เธอพอจะคาดเดาคำตอบได้ “พูลเห็นในคอมของแม่”
เด็กน้อยถูกสอนการลากใช้เมาท์ เลือกดูคลิป ฝึกฝนภาษา
และเพลงสำหรับเด็ก ในคอมพิวเตอร์พกพา อยู่บ่อยๆ
แต่ภาพโฆษณาที่เขาเห็น คงบังเอิญกดเจอโดยบังเอิญ
และเธอคงลืมลบรูปภาพสินค้า หลังจากสั่งซื้อมาลองใช้กับคนรักของเธอ

  เด็กน้อยทำตาปริบๆ ไม่สงสัยในความกังวลของมารดา
แต่กลับแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาอีกว่า
“ตัวสลอธ ทำอะไรช้าๆ พูลไม่ชอบเท่าไหร่ครับ”
เธอยิ้มรับคำพูดลูกชาย และถามกลับไปว่า
“แต่ เอ...ทำไมถึงเลือกวาดมันละครับ”
เด็กชายพลู ยิ้มแฉ่ง ตอบกลับมาในทันที “เพราะแม่น่าจะชอบ”
“แล้ว.. แล้ว.. แม่จะได้เล่านิทานสลอธ ให้พูลฟังสนุกๆ”
เด็กชายพูดรัวเร็ว แทบไม่หายใจ
“เอานิทานสลอธสีฟ้าๆ ที่พูลเห็นในคอมของแม่ก็ได้ นะ”

เพี้ยนหลงรัก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่