พท.ชี้รบ.ตั้งงบขาดดุลสูงสุ่มเสี่ยงละเมิดวินัยการเงินการคลัง
https://www.dailynews.co.th/politics/782120
 
พท. เตรียมจัดหนัก ร่างพ.ร.บ.งบ ส่อขัดวินัยการเงินการคลัง 
 
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเตรียมการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ที่จะมีขึ้นวันที่ 1-3 ก.ค. ว่าพรรคเพื่อไทย มีส.ส.ลงชื่ออภิปราย 76 คน ตอนนี้มีการจัดอบรมชี้แจงในรายละเอียดและองค์ประกอบของงบประมาณในเบื้องต้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. และกำลังประชุมทางไกลเพื่อให้ผู้ใหญ่ของพรรคที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำงบประมาณและกฎหมายมาให้ความรู้ส.ส. ที่จะอภิปรายเพื่อให้การอภิปรายได้น้ำได้เนื้อที่สุด
 
ทั้งนี้เมื่อดูร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2564 แล้ว พรรคเพื่อไทยจะเน้นการอภิปรายไปที่การจัดทำงบประมาณที่ขาดประสิทธิภาพ ไม่มีความเหมาะสมในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะการจัดทำงบประมาณไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ที่ปัจจุบันประเทศประสบวิกฤติโควิด-19 แต่รัฐบาลยังคิดว่ารายรับจะเหมือนช่วงปกติ ทำให้ขยายวงเงินงบประมาณจากปีก่อนเป็น 3.3 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้ต้องกู้เงินชดเชยการขาดดุลครั้งนี้สูงถึงเกือบ 7 แสนล้านบาท ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งที่เพิ่งออก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจไปแล้ว
 
อีกทั้งตามข้อเท็จจริงแล้วเมื่อประเทศมีวิกฤตเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดเก็บภาษีได้เหมือนเดิม การตั้งงบประมาณขาดดุลสูงขนาดนี้จึงไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นการจัดงบประมาณเช่นนี้ถึงสุ่มเสี่ยงกับการละเมิดวินัยการเงินการคลัง พรรคเพื่อไทยชี้ตรงนี้ให้ประชาชนเห็นในการอภิปราย และหวังว่ารัฐบาลจะนำไปปรับปรุงในวาระต่อไป เพื่อให้การงบประมาณที่จะผ่านสภาฯ มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ประชาชนมากที่สุด.
  

---

 
งานเข้า! คุณหญิงต้น โพสต์โฆษณาเบียร์ เห็นชัดๆ ชาวเน็ต ยกกฎหมายอัด
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_4393896
 
งานเข้าจนได้! สำหรับ ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี หรือคุณหญิงต้น อดีตนักแสดง และ นักธุรกิจจำหน่ายแอลกอฮอล์ชื่อดัง เมื่อเธอโพสต์ภาพผ่านอินสตาแรกม โดยเป็นรูปที่เธอ และบุคคลอีกคน ถือขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กับ นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี (สามี) และ "เจ๊ไฝ" เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง ย่านประตูผี ได้รางวัลมิชลินสตาร์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
 
    โดย เมื่อเช้าวันนี้ (27 มิ.ย.) ม.ล.ปิยาภัสร์ โพสต์ภาพพร้อมคำบรรยาย ระบุว่า 

เอามาเบียร์ตัวใหม่มาให้เจ๊ที่รักลองดื่มค่ะ และแวะรับอาหารกลางวันแสนอร่อย คิดถึง #jayfaibangkok ทุกครั้งที่หิวนะคะ ไม่ผิดหวัง 🙏🏻🍻❤️🍻🙏🏻 #𝕊𝕚𝕟𝕘𝕙𝕒𝔹𝕖𝕖𝕣 #𝕊𝕚𝕟𝕘𝕙𝕒ℝ𝕖𝕤𝕖𝕣𝕧𝕖
 
โดยหลังจากโพสต์ภาพดังกล่าว ปรากฎว่ามีผู้ติดตามและผู้ไอจีจำนวนมาก เข้าไปท้วงติงว่า ภาพที่โพสต์ดังกล่าว ส่อเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ เคยมีเคสที่ชาวบ้านโพสต์ภพาเหล้าเบียร์ แล้วถูกดำเนินคดีมาแล้ว
 
    โดยข้อกฎหมายดังกล่าวที่ว่า คือ มาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่บัญญัติว่า "ห้าม มิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อัน เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม"
 
ทังนี้เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์ออกมาให้ข้อมูลเรื่องโพสต์แก้วเหล้าเบียร์มีความผิดเรื่องโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้แต่ประชาชนทั่วไปโพสต์ก็มีความผิด ทำให้เกิดความตื่นตระหนก และเกิดกระแสให้ประชาชนร่วมลงชื่อยกเลิกมาตรา 32 การควบคุมโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่า
 
การตีความมาตราดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ประชาชน ซึ่งในมาตรา 32 ระบุใจความสำคัญไว้ 2 ส่วนด้วยกัน คือ 
 
1. ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อประโยชน์ในทางการค้า เช่น การโพสต์ภาพเหล้าเบียร์พร้อมข้อความต่างๆ เพราะต้องการที่จะขายสินค้าเหล้าเบียร์นั้นๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ
 
2. ห้ามแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมกับการมีข้อความหรือพฤติการณ์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้คนอื่นอยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังกล่าว ดังนั้น การที่ประชาชนโพสต์ภาพขวดเหล้าเบียร์ หรือแก้วเบียร์ที่มีโลโก้เบียร์ จึงยังไม่ใช่ความผิดตามกฎหมายนี้
 
จากกระแสข่าวเมื่อหลายปีก่อน มีดารา เน็ตไอดอล หรือบุคคลผู้มีชื่อเสียงเข้ามาพบพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะมีการโพสต์ภาพคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งบุคคลที่มีชื่อเสียงกับบุคคลทั่วไปมีความแตกต่างกัน
 
    "ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปโพสต์ภาพคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยที่ไม่มีข้อความเชิญชวน อวดอ้างชักจูงใจ ก็จะไม่เป็นความผิด แต่ดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ทำให้คนหันมาสนใจสินค้า มีผลเป็นการโน้มน้าวหรือชักจูงใจไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม จึงไม่สามารถทำได้" นพ.นิพนธ์ กล่าว