ผมเริ่มต้นชื่นชอบหงส์แดงครั้งแรก เริ่มดูครั้งแรกๆตอน 7 ขวบ ตั้งแต่ทีวีที่บ้านยังเป็นแบบ ขาว-ดำ
ในตอนนั้น Internet ก็ยังไม่มี...นิตยสารอะไรก็ยังไม่ค่อยรู้จัก สิ่งเดียวที่ติดตามได้ในตอนนั้นคือ รายการ "เจาะสนาม" ที่คุณเอกชัย นพจินดา เป็นผู้นำเสนอ(ถ้าจำไม่ผิดก็ช่วงประมาณวันเสาร์กลางวัน)
ชื่นชอบครั้งแรกด้วยตนเอง ไม่มีใครบังคับ เพราะพ่อและแม่ต่างไม่ได้สนใจฟุตบอล ช่วงแรกๆชื่นชอบทีมนี้โดยที่ก็ยอมรับว่าแทบไม่ได้รู้จักนักเตะคนไหน จำได้ลางๆว่า มีบรู๊ซ ก๊อบเบลล่า, จอห์น บาร์นส์ แค่สองคน แต่ในภาพรวมผมรักทีมนี้สุดๆ ปลื้มใจทุกครั้งที่เห็นทีมนี้ทำประตูได้ หลังจบรายการผมก็จะชวนพี่ชายผมออกไปเตะบอลข้างบ้านตลอด และฝันว่าตัวเองคือนักเตะลิเวอร์พูล
อันนี้คือชุดแรกที่ได้ดูในทีวีขาว-ดำ ที่บ้าน (แต่ยอมรับว่าจำใครไม่ค่อยได้เลย)
หลังจากนั้น ผ่านไปอีก 1-2 ปี ผมก็ขอพ่อกับแม่ให้เปลี่ยนเป็นทีวีสีให้หน่อย เพราะเห็นข้างบ้านมีทีวีสี แล้วสนามหญ้ามันสวยมากๆ ซึ่งพ่อแม่ผมก็ยอมซื้อทีวีเครื่องใหม่ให้ ได้เห็นทีมลิเวอร์พูลในชุดสีแดงเพลิง ผสานกับ สนามหญ้าสีเขียวสดครั้งแรก ตื่นตาตื่นใจสุดๆ ดูแล้วยิ่งเพลินเข้าไปใหญ่
แต่ใครจะรู้...ว่าหลังจากที่ผมได้ทีวีเครื่องใหม่นั้น ใครจะรู้ว่านั่นกลับกลายเป็นสิ่งที่ผมได้เห็นทีมที่ผมรักได้แชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งสุดท้าย
ตอนนั้นผมอายุ 9 ขวบแระ เริ่มจะโตมากขึ้นและโฟกัสไปที่นักเตะมากขึ้น ซึ่งผมจะจำได้เด่นๆ คือปีเตอร์ เบียสลีย์, จอห์น อัลดริจ, จอห์น บาร์นส์
หลังจากแชมป์ครั้งนี้...กลับกลายเป็นหงส์แดงของผมเริ่มเข้าสู่ยุคตกต่ำลงเรื่อยๆ
ตั้งแต่ เคนนี่ ดัลกลิช ลาออกไป ลิเวอร์พูลก็มี ผจก.ทีมคนใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ในรอบ 25 ปีได้แก่
- แกรม ซูเนส
- รอย อีแวนต์
- เชราร์ อุลลิเยร์
- ราฟาเอล เบนิเตซ
- รอย ฮอดจ์สัน
- เคนนี่ ดัลกลิช(อีกรอบ)
- แบรนดัน รอดเจอร์
ระหว่างทางช่วง 25 ปีบอกตรงๆว่ามีความหวังและตั้งความหวังทุกฤดูกาล หวังว่าพอจบฤดูกาลจะต้องได้แชมป์ แต่ก็ต้องผิดหวังตลอด แม้ว่าในบอลถ้วยลิเวอร์พูลอาจจะพอได้แชมป์บอลถ้วยบ้างปะปราย ตั้งแต่ FA Cup. League Cup. Uefa Cup. สลับไปมาบ้าง แต่ต้องยอมรับว่าในลีก คะแนนแต่ละปีไม่สามารถลุ้นแชมป์ได้จริงๆเลย หลังๆแค่ทีมได้โควต้าไปเตะยูฟ่า คัพได้ก็ดีใจแล้ว อย่างน้อยๆก็ยังมีบอลถ้วยยุโรปอะไรให้ได้ดูบ้าง
จนวันที่เจอร์เก้น คล็อปป์เข้ามา แรกๆผมก็มองว่ามันคงเหมือนเดิม ความผิดหวังซ้ำๆ 25ปีที่ผ่านมา ทำให้ไม่กล้าคิดเรื่องการได้แชมป์ลีกสูงสุดไปแล้ว ใครจะไปสู้ แมนยูฯได้ ใครจะไปสู้เชลซียุคเสี่ยหมีได้ และสุดท้ายหลังๆที่แมนซิตี้มีเงินมากมาย ใครจะไปโค่นทีมนี้ได้ นั่นยิ่งทำให้ความหวังยิ่งดูเลือนรางเข้าไปใหญ่ จากเคยลุ้นเพื่อให้ได้แชมป์ ตอนหลังก็มาคิดใหม่ ก็เปลี่ยนเป็นเชียร์บอลก็เพราะเรารักทีมนี้ไม่ใช่เหรอ จะได้อะไร หรือ จะแชมป์ว่าว ใครจะแคร์ ถ้าตราบใดที่ไม่มีความคิดจะเปลี่ยนทีมเชียร์ในหัวอยู่แล้ว ก็ปล่อยมันเหอะ เอาแค่เวลาดูคู่ลิเวอร์พูลมันสนุก มันมีความสุขก็พอ จบฤดูกาลใครจะได้แชมป์ก็ช่างหัวมัน
แต่สิ่งที่เจอร์เก้น คล็อปป์เข้ามาเปลี่ยนระบบ เปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนวิธีการเล่น เริ่มทำให้ผมกลับมามีความหวังอีกครั้ง และผมก็เชื่อมั่นนะครับ ว่าอีกไม่นานนี่แหละผมจะได้เห็นทีมที่ผมรักเป็นแชมป์ลีกสูงสุดในตอนที่สติสัมปะชัญญะของผมมันรับรู้เรื่องอะไรได้เต็มที่ (แชมป์ตอนเด็กบอกตรงๆว่าแทบไม่รู้อะไรเลย)
จาก 7 ขวบ....จนมาถึงวันนี้ วันที่ผมอายุ 39 แล้ว ผมได้เห็นทีมที่ผมรักและศรัทธา เป็นแชมป์จริงๆจังๆ อยากบอกว่าดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แม้ตอนแรกจะมีข่าวสงครามโลกครั้งที่3 บ้าง และสุดท้ายก็มี Covid-19 ที่จะมาพรากแชมป์ที่คิดว่าจะได้แน่ๆออกไปอีก แต่สุดท้ายเราก็ได้แชมป์จริงๆ บอกตรงๆว่าจากนี้ไปก็นอนตายตาหลับได้แล้วล่ะครับ 555
ขอบคุณเจอร์เก้น คล็อปป์จริงๆครับ ที่คุณเลือกมาอยู่กับครอบครัวลิเวอร์พูล และขอให้ยังอยู่กับครอบครัวเราไปอีกนานๆ อยู่ไปยันแก่เลยนะครับ^^
You'll Never Walk Alone : จากวันแรกที่เชียร์..ครั้งสุดท้ายที่ได้แชมป์...จนมาวันนี้ ดีใจจนน้ำตาแทบไหล
ในตอนนั้น Internet ก็ยังไม่มี...นิตยสารอะไรก็ยังไม่ค่อยรู้จัก สิ่งเดียวที่ติดตามได้ในตอนนั้นคือ รายการ "เจาะสนาม" ที่คุณเอกชัย นพจินดา เป็นผู้นำเสนอ(ถ้าจำไม่ผิดก็ช่วงประมาณวันเสาร์กลางวัน)
ชื่นชอบครั้งแรกด้วยตนเอง ไม่มีใครบังคับ เพราะพ่อและแม่ต่างไม่ได้สนใจฟุตบอล ช่วงแรกๆชื่นชอบทีมนี้โดยที่ก็ยอมรับว่าแทบไม่ได้รู้จักนักเตะคนไหน จำได้ลางๆว่า มีบรู๊ซ ก๊อบเบลล่า, จอห์น บาร์นส์ แค่สองคน แต่ในภาพรวมผมรักทีมนี้สุดๆ ปลื้มใจทุกครั้งที่เห็นทีมนี้ทำประตูได้ หลังจบรายการผมก็จะชวนพี่ชายผมออกไปเตะบอลข้างบ้านตลอด และฝันว่าตัวเองคือนักเตะลิเวอร์พูล