[ส่วนหนึ่งของบทความนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2012 ตอนที่หนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และขอนำกลับมาแชร์อีกครั้ง เนื่องในโอกาสที่ It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ Bangkok Screening Room ในระหว่างวันที่ 27 - 28 มิถุนายนนี้ เพื่อฉลอง #PrideMonth]
.
กว่าเราจะได้ดูก็ถูกสปอยล์เนื้อหาสำคัญมาหมดแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความดีงามของ It Gets Better ลดน้อยลงแต่อย่างใด และสำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องราวใดๆ ก็ขอเล่าเสียหน่อยว่า หนังแบ่งเป็นสามกลุ่มตัวละคร มีทั้งกะเทยรุ่นใหญ่ที่มาหลงรักเด็กหนุ่มบ้านๆ, กะเทยนางโชว์ที่ต้องรับมือกับลูกชายเจ้าของบาร์ ผู้ตั้งใจมาปิดกิจการของพ่อตัวเอง และเณรหนุ่มที่หวั่นไหวเพราะความใกล้ชิดกับพระพี่เลี้ยง
.
สำหรับเราเองความน่าสนใจของ It Gets Better อยู่ที่การพูดถึงตัวละครเกย์หรือกะเทยที่จำใจต้องแต่งงานมีครอบครัว มีลูก จากเรื่องอื่นๆ ที่ตัวละครตัวนี้มักจะถูกตราหน้าว่า เลว ชั่ว สร้างปัญหา ทำร้ายคนบริสุทธิ์ (โดยเฉพาะผู้หญิงที่แต่งงานด้วย) แต่กับ It Gets Better เราได้เห็นอีกด้านของตัวละครตัวนี้ แม้ประเด็นเรื่องแต่งงานเพื่อทดแทนคุณบิดามารดาจะเป็นเรื่องซ้ำซาก แต่การนำเสนอในหนังทำให้เราเชื่อและเห็นพ้องด้วยว่ามันไม่มีใครผิดจริงๆ เพราะบางครั้งการทำให้คนอื่นมีความสุขสบายใจ เราเองอาจจะต้องยอมทนทุกข์และเจ็บปวด และต่อให้เราตัดสินใจเลือกทางเดินของตัวเอง ทำอย่างที่ใจต้องการ แต่เมื่อมองย้อนกลับไปเห็นคนที่เรารักเป็นทุกข์ เราจะไม่เจ็บปวดบ้างเลยหรือ
.
มาย้อนมองในวันนี้ ประเด็นของ It Gets Better ก็ยังไม่ได้ดูเก่าเชยอะไรเลย เพราะถึงมันจะเล่าเรื่องของคนยุคเก่า (เกย์กะเทยที่ต้องยอมแต่งงานมีครอบครัว) แต่มันก็เล่าถึงผลกระทบที่มีต่อคนรุ่นหลังด้วยเช่นกัน แล้วในขณะที่เราได้เห็นตัวละครเกลียดกลัวเกย์กะเทยที่ดูเป็นตัวละครเชยๆ มันก็มีตัวละครที่เปิดใจกว้างๆ มองข้ามรูปลักษณ์ภายนอก และมองเห็นตัวตนภายใน ซึ่งก็ถือว่าล้ำมากด้วยเช่นกัน
.
สิ่งที่ต้องชื่นชมมากเป็นพิเศษก็คือ การเล่าด้วยท่าทีสบายๆ แทรกประเด็นหนักๆ เรื่องชีวิตเกย์กะเทยเข้าไปในบรรยากาศชวนหัวสนุกสนาน โดยที่ในความแมสๆ ย่อยง่ายนั้น มีประเด็นจริงจังที่อยากบอกเล่าอยู่ และแคสติ้งตัวละครก็ดีมากเลยนะ โดยเฉพาะตัวละครที่สืบสายเลือดกันมา!
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่
เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
[CR] [Review] It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก (2012)
[ส่วนหนึ่งของบทความนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2012 ตอนที่หนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และขอนำกลับมาแชร์อีกครั้ง เนื่องในโอกาสที่ It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ Bangkok Screening Room ในระหว่างวันที่ 27 - 28 มิถุนายนนี้ เพื่อฉลอง #PrideMonth]
.
กว่าเราจะได้ดูก็ถูกสปอยล์เนื้อหาสำคัญมาหมดแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความดีงามของ It Gets Better ลดน้อยลงแต่อย่างใด และสำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องราวใดๆ ก็ขอเล่าเสียหน่อยว่า หนังแบ่งเป็นสามกลุ่มตัวละคร มีทั้งกะเทยรุ่นใหญ่ที่มาหลงรักเด็กหนุ่มบ้านๆ, กะเทยนางโชว์ที่ต้องรับมือกับลูกชายเจ้าของบาร์ ผู้ตั้งใจมาปิดกิจการของพ่อตัวเอง และเณรหนุ่มที่หวั่นไหวเพราะความใกล้ชิดกับพระพี่เลี้ยง
.
สำหรับเราเองความน่าสนใจของ It Gets Better อยู่ที่การพูดถึงตัวละครเกย์หรือกะเทยที่จำใจต้องแต่งงานมีครอบครัว มีลูก จากเรื่องอื่นๆ ที่ตัวละครตัวนี้มักจะถูกตราหน้าว่า เลว ชั่ว สร้างปัญหา ทำร้ายคนบริสุทธิ์ (โดยเฉพาะผู้หญิงที่แต่งงานด้วย) แต่กับ It Gets Better เราได้เห็นอีกด้านของตัวละครตัวนี้ แม้ประเด็นเรื่องแต่งงานเพื่อทดแทนคุณบิดามารดาจะเป็นเรื่องซ้ำซาก แต่การนำเสนอในหนังทำให้เราเชื่อและเห็นพ้องด้วยว่ามันไม่มีใครผิดจริงๆ เพราะบางครั้งการทำให้คนอื่นมีความสุขสบายใจ เราเองอาจจะต้องยอมทนทุกข์และเจ็บปวด และต่อให้เราตัดสินใจเลือกทางเดินของตัวเอง ทำอย่างที่ใจต้องการ แต่เมื่อมองย้อนกลับไปเห็นคนที่เรารักเป็นทุกข์ เราจะไม่เจ็บปวดบ้างเลยหรือ
.
มาย้อนมองในวันนี้ ประเด็นของ It Gets Better ก็ยังไม่ได้ดูเก่าเชยอะไรเลย เพราะถึงมันจะเล่าเรื่องของคนยุคเก่า (เกย์กะเทยที่ต้องยอมแต่งงานมีครอบครัว) แต่มันก็เล่าถึงผลกระทบที่มีต่อคนรุ่นหลังด้วยเช่นกัน แล้วในขณะที่เราได้เห็นตัวละครเกลียดกลัวเกย์กะเทยที่ดูเป็นตัวละครเชยๆ มันก็มีตัวละครที่เปิดใจกว้างๆ มองข้ามรูปลักษณ์ภายนอก และมองเห็นตัวตนภายใน ซึ่งก็ถือว่าล้ำมากด้วยเช่นกัน
.
สิ่งที่ต้องชื่นชมมากเป็นพิเศษก็คือ การเล่าด้วยท่าทีสบายๆ แทรกประเด็นหนักๆ เรื่องชีวิตเกย์กะเทยเข้าไปในบรรยากาศชวนหัวสนุกสนาน โดยที่ในความแมสๆ ย่อยง่ายนั้น มีประเด็นจริงจังที่อยากบอกเล่าอยู่ และแคสติ้งตัวละครก็ดีมากเลยนะ โดยเฉพาะตัวละครที่สืบสายเลือดกันมา!
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่ เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้