"สงบศึกพระบวชใหม่"
ในช่วงหนึ่งที่ครูบาอาจารย์เฒ่าได้มีโอกาสเข้ากราบหลวงปู่มั่น บังเอิญว่าในช่วงนั้นมีพระได้นั่งจับกลุ่มพูดคุยกัน ตามประสาพระยังใหม่ในพระธรรมวินัย เมื่อพูดไปถึงเรื่องพระธรรมวินัยเข้า เกิดขัดกันต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน เสียงเริ่มดังมากขึ้นเรื่อยๆ และได้มีพระรูปหนึ่ง ได้ไปหยิบหนังสือนวโกวาทมาให้ดูเป็นหลักฐาน เพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นฝ่ายชนะ เพราะมีหลักฐานประกอบ
แม้กระทั่งเรื่องก็ยังไม่ยุติ มีท่าทีว่าจะบานปลาย จากการพูดคุยกลายเป็นการโต้แย้ง จากการโต้แย้งกลายเป็นการโต้เถียง เมื่อทำท่าจะวางมวยกัน
ครูบาอาจารย์เฒ่าไม่รู้ท่านมาจากไหน เดินตรงรี่เข้ามา พร้อมกับคว้าหนังสือทำท่าเหมือนเช็ดก้น แล้วโยนทิ้งต่อหน้าพระทั้งสอง พร้อมกับพูดว่า
"ฮูขี้กูหนี่" (ตูดข้านี่)
แล้วพูดให้คิดต่ออีกว่า
"อย่าเฮ็ดคือครูบาจารย์ได๋ (อย่าทำเหมือนกับอาจารย์นะ) มันบาป"
ทำให้พระทั้งสองนั้นเปลี่ยนจากจะวางมวยกัน มายืนดูครูบาอาจารย์เฒ่าท่านเอาหนังสือเช็ดก้น ผลสุดท้ายพระทั้งสองจึงได้สงบศึกลง
หลวงปู่ทองรัตน์ กันตสีโล
วัดป่าบ้านคุ้ม จ.อุบลราชธานี
"สงบศึกพระบวชใหม่"
ในช่วงหนึ่งที่ครูบาอาจารย์เฒ่าได้มีโอกาสเข้ากราบหลวงปู่มั่น บังเอิญว่าในช่วงนั้นมีพระได้นั่งจับกลุ่มพูดคุยกัน ตามประสาพระยังใหม่ในพระธรรมวินัย เมื่อพูดไปถึงเรื่องพระธรรมวินัยเข้า เกิดขัดกันต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน เสียงเริ่มดังมากขึ้นเรื่อยๆ และได้มีพระรูปหนึ่ง ได้ไปหยิบหนังสือนวโกวาทมาให้ดูเป็นหลักฐาน เพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นฝ่ายชนะ เพราะมีหลักฐานประกอบ
แม้กระทั่งเรื่องก็ยังไม่ยุติ มีท่าทีว่าจะบานปลาย จากการพูดคุยกลายเป็นการโต้แย้ง จากการโต้แย้งกลายเป็นการโต้เถียง เมื่อทำท่าจะวางมวยกัน
ครูบาอาจารย์เฒ่าไม่รู้ท่านมาจากไหน เดินตรงรี่เข้ามา พร้อมกับคว้าหนังสือทำท่าเหมือนเช็ดก้น แล้วโยนทิ้งต่อหน้าพระทั้งสอง พร้อมกับพูดว่า
"ฮูขี้กูหนี่" (ตูดข้านี่)
แล้วพูดให้คิดต่ออีกว่า
"อย่าเฮ็ดคือครูบาจารย์ได๋ (อย่าทำเหมือนกับอาจารย์นะ) มันบาป"
ทำให้พระทั้งสองนั้นเปลี่ยนจากจะวางมวยกัน มายืนดูครูบาอาจารย์เฒ่าท่านเอาหนังสือเช็ดก้น ผลสุดท้ายพระทั้งสองจึงได้สงบศึกลง
หลวงปู่ทองรัตน์ กันตสีโล
วัดป่าบ้านคุ้ม จ.อุบลราชธานี