คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 24 มิ.ย. 2563
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 24 มิถุนายน 2563
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2563
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,157 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
-ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 30
-และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 1 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 3,026 ราย (95.85%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 3 ราย)
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศฟิลิปปินส์และเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
สถานการณ์โลกวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยประเทศบราซิลเป็นประเทศที่สองรองจากสหรัฐอเมริกาที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านราย ในขณะที่การติดเชื้อในอาเซียนวันนี้ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียยังคงน่าเป็นห่วง
โดยประเทศอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 1,051 ราย และประเทศฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 1,143 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันสูงที่สุดของฟิลิปปินส์
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2878694508922769
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2563
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2563
ข้อควรรู้และแนวปฏิบัติ ในการเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการของร้านค้า โดยใช้สมุดจด
1. ข้อมูลนี้ใช้เพื่อการสอบสวนโรค กรณีผู้ใช้บริการบางคนป่วยโรคโควิด-19 ขึ้นภายหลัง
2. ห้ามนำไปใช้เพื่อการอย่างอื่นโดยเด็ดขาด
3. ร้านค้าจัดเก็บในที่ปลอดภัย โดยสามารถสืบค้นย้อนหลังได้ 60 วัน
4. เมื่อครบกำหนดให้ร้านค้าทำลายสมุดจดดังกล่าว
โดย : กรมควบคุมโรค
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/156437422641257
เปิดตัว “3 นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ผลไม้สด ส่งเสริมการขายออนไลน์”
#ไทยคู่ฟ้า การตลาดออนไลน์เป็นอีกช่องทางที่เกษตรกรหรือผู้ผลิต สามารถขายสินค้าได้ด้วยตนเอง แต่บางครั้งอาจมีข้อจำกัด เช่น บรรจุภัณฑ์มีขนาดบรรจุที่มากเกินไป ทำให้สิ้นเปลืองค่าขนส่ง บริษัทขนส่งบางรายปฏิเสธการขนส่งผักและผลไม้สดที่เป็นสินค้าที่เน่าเสียได้ง่าย หรือมีกลิ่นรบกวน
ดังนั้น เพื่อหาทางออกให้กับปัญหา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เปิดตัว “ 3 นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ผลไม้สด ส่งเสริมการขายออนไลน์” เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตร ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ประกอบด้วย
1. นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ “กล่องเก็บกลิ่นทุเรียน ล็อคกลิ่นได้ 100%” ด้วยการพัฒนาขอบล็อกพิเศษ ช่วยป้องกันการผ่านเข้าออกของก๊าซและไอน้ำได้ โดยใช้แนวคิดการออกแบบแบบองค์รวม ทำให้สะดวกต่อการบรรจุ เปิดง่าย-ปิดสนิท และเปิด-ปิดซ้ำได้ มีความสวยงาม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2. บรรจุภัณฑ์เพื่อการจำหน่ายมะม่วงออนไลน์ ที่สามารถรองรับน้ำหนักผลผลิตได้ 5 ก.ก./กล่อง เรียงซ้อนกันได้ถึง 14 ชั้น เจาะช่องระบายอากาศที่เพียงพอต่อการคายน้ำของผลมะม่วง จึงช่วยลดการสะสมความร้อนและความชื้นภายในกล่อง ช่วยให้ยืดอายุการเก็บได้ นอกจากนี้ยังผลิตจากกระดาษลูกฟูก 5 ชั้น ที่มีการดูดซึมน้ำต่ำ ทำให้กล่องมีความแข็งแรง แม้ว่าจะเก็บในห้องเย็นที่มีความชื้นสูง
3. บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะบ่งชี้ความปลอดภัยปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไย ในรูปแบบฉลากเปลี่ยนสี ที่ใช้ตรวจสอบปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ ที่เหลือตกค้างที่ผิวผลลำไย โดยเมื่อนำแผ่นฉลากไปวางที่ผลลำไย หากมีปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ ต่ำ ฉลากจะยังคงสีน้ำตาลเข้ม แต่ถ้ามีปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ มากสีของฉลากจะค่อย ๆ จางลงจนไม่มีสี แสดงว่ามีสารซัลเฟอร์ฯ เกินมาตรฐานกำหนด นับเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว เข้าใจง่าย เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
ผู้สนใจขอรับบริการโปรดติดต่อได้ที่ ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย วว. (บางเขน) โทร. 0 2579 1121 ต่อ 3101, 3208 หรือ E-mail : TPC-tistr@tistr.or.th
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/942842116181595
กรมอุทยานฯ นำแอพพลิเคชั่น "QueQ" เข้ามาใช้เปิดจองตั๋วล่วงหน้าเข้าท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ เริ่มทดลองระบบวันที่ 25 มิ.ย.นี้
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำแอพพลิเคชั่น "QueQ" เข้ามาใช้เปิดจองตั๋วล่วงหน้าเข้าท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ เริ่มทดลองระบบวันที่ 25 มิถุนายนนี้ เพื่อจำกัดจำนวนคนลดความแออัดในรูปแบบ "New Normal National Park"
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะนำแอพพลิเคชั่นที่เป็นระบบการจองล่วงหน้า "QueQ" เข้ามาใช้ในการเปิดให้จองตั๋วเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ 155 แห่ง โดยเฉพาะนำมาใช้จัดการนักท่องเที่ยว ในการลงทะเบียน เข้า-ออก พื้นที่ การเว้นระยะห่างทางสังคม และความสะอาดของพื้นที่ ที่สำคัญจะระบุชัดเจนว่าอุทยานแห่งชาติใดเปิดหรือปิดบ้าง แล้วสามารถรับนักท่องเที่ยวได้แต่ละแห่งจำนวนกี่คนต่อวัน ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นเดียวกับของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยจะเริ่มทดลองระบบเปิดให้จองในวันที่ 25 มิถุนายน ก่อนจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวในอุทยานแห่งชาติวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ในรูปแบบ "New Normal National Park" ภาพรวมจะเปิดให้จองตั๋วล่วงหน้าก่อนเข้าท่องเที่ยว 15 วัน จากนั้นต้องยืนยันสิทธิ์เข้าท่องเที่ยวใน 6 ช่วงเวลาที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกำหนด ในเบื้องต้นจะใช้ระบบจองตั๋วล่วงหน้าร้อยละ 70 ส่วนอีกร้อยละ 30 ระเปิดให้ซื้อตั๋วหน้าแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ เพื่อป้องกันประชาชนบางส่วนในอาจยังไม่ทราบการเปิดให้จองล่วงหน้าลดความแออัดในแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะใช้ควบคู่กับแอพพลิเคชั่นไทยชนะเพื่อให้สแกนเข้า-ออก ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมเปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติและพื้นที่อื่นๆ อย่าง วนอุทยานและสวนพฤกษศาสตร์ต้องผ่านระบบจองล่วงหน้าจอง เมื่อมีการจองและชำระเงินสำเร็จการเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานจะต้องสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะทุกครั้งที่เข้า-ออกพื้นที่ หากไม่มีโทรศัพท์ต้องทำการบันทึกรายชื่อและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อระบุผู้เข้า-ออก โดยให้ผู้นำชุมชนในพื้นที่มาร่วมทดลองระบบแล้วกลับไปถ่ายทอดให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย
เบื้องต้นเปิดอุทยานแห่งชาติให้ท่องเที่ยวเพียง 127 แห่งก่อน แบ่งเป็น เปิดให้ท่องเที่ยว 100 เปอร์เซ็นต์ 64 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อุทยานแห่งชาติขุนสถาน // เปิดเพียงบางส่วน 63 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง และปิดอุทยานฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ 28 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา- หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี
ที่มา : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/155962319355434
กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย องค์การอนามัยโลกประจําประเทศไทย (WHO Thailand) องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติประจําประเทศไทย (UNICEF) สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการและร่วมกันพัฒนา “คู่มือการปฏิบัติสําหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19”
เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสําหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างต่อเนื่องโดยเน้น ความสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาและเอื้ออํานวยให้เกิดการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้นักเรียนและบุคลากรในสถานศึกษาสามารถดํารงชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย โดยมีสาระสําคัญ ประกอบด้วยองค์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโรคโควิด 19 แนวปฏิบัติสําหรับบุคลากรในสถานศึกษา ได้แก่ ผู้บริหาร เจ้าของสถานศึกษา ครู ผู้ดูแลนักเรียน นักเรียน ผู้ปกครอง และแม่ครัว ผู้จําหน่ายอาหาร ผู้ปฏิบัติงานทําความสะอาด การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมบริเวณต่าง ๆ ของสถานศึกษา มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และสื่อความรอบรู้ด้านสุขภาพนักเรียน ตลอดจนขั้นตอนการดําเนินงานคัดกรองและส่งต่อแบบประเมินตนเองสําหรับสถานศึกษา แบบประเมินตนเองสําหรับนักเรียน แบบบันทึกการตรวจคัดกรองสุขภาพสําหรับนักเรียน การจัดการเรียนการสอนช่วงเปิดภาคเรียน บทเรียนแนวปฏิบัติช่วงเปิดเรียนในต่างประเทศรองรับสถานการณ์ โรคโควิด 19 เป็นต้น
สามารถดาวน์โหลด “คู่มือการปฏิบัติสําหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19” ได้ที่ :
https://multimedia.anamai.moph.go.th/associates/educational-manual-covid19/
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/156287292656270
"หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน
ลดความเสี่ยง และการ์ดไม่ตก
ระลอกสองก็ไม่น่ากลัว"
ถ้าทุกคนช่วยกัน แม้การระบาดจะกลับมาใหม่ แต่ก็เป็นเพียงคลื่นเล็ก ๆ ก็ไม่น่ากังวล การติดเชื้อพลาดแค่วันเดียว หรืออาทิตย์เดียว ก็จะทำให้สิ่งที่เราพยายามทำมาดีแล้วเสียไปทั้งหมด เราต้องยึดมั่นในมาตรการหลัก 5 ประการ และการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ
ที่มา: ถ้อยแถลงของ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/301598004558862
ช่วยคนไทยกลับประเทศ กว่า 39,000 คน
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/301488247903171
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 24 มิถุนายน 2563
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2563
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,157 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
-ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 30
-และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 1 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 3,026 ราย (95.85%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 3 ราย)
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศฟิลิปปินส์และเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
สถานการณ์โลกวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยประเทศบราซิลเป็นประเทศที่สองรองจากสหรัฐอเมริกาที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านราย ในขณะที่การติดเชื้อในอาเซียนวันนี้ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียยังคงน่าเป็นห่วง
โดยประเทศอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 1,051 ราย และประเทศฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 1,143 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันสูงที่สุดของฟิลิปปินส์
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2878694508922769
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2563
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2563
ข้อควรรู้และแนวปฏิบัติ ในการเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการของร้านค้า โดยใช้สมุดจด
1. ข้อมูลนี้ใช้เพื่อการสอบสวนโรค กรณีผู้ใช้บริการบางคนป่วยโรคโควิด-19 ขึ้นภายหลัง
2. ห้ามนำไปใช้เพื่อการอย่างอื่นโดยเด็ดขาด
3. ร้านค้าจัดเก็บในที่ปลอดภัย โดยสามารถสืบค้นย้อนหลังได้ 60 วัน
4. เมื่อครบกำหนดให้ร้านค้าทำลายสมุดจดดังกล่าว
โดย : กรมควบคุมโรค
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/156437422641257
เปิดตัว “3 นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ผลไม้สด ส่งเสริมการขายออนไลน์”
#ไทยคู่ฟ้า การตลาดออนไลน์เป็นอีกช่องทางที่เกษตรกรหรือผู้ผลิต สามารถขายสินค้าได้ด้วยตนเอง แต่บางครั้งอาจมีข้อจำกัด เช่น บรรจุภัณฑ์มีขนาดบรรจุที่มากเกินไป ทำให้สิ้นเปลืองค่าขนส่ง บริษัทขนส่งบางรายปฏิเสธการขนส่งผักและผลไม้สดที่เป็นสินค้าที่เน่าเสียได้ง่าย หรือมีกลิ่นรบกวน
ดังนั้น เพื่อหาทางออกให้กับปัญหา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เปิดตัว “ 3 นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ผลไม้สด ส่งเสริมการขายออนไลน์” เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตร ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ประกอบด้วย
1. นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ “กล่องเก็บกลิ่นทุเรียน ล็อคกลิ่นได้ 100%” ด้วยการพัฒนาขอบล็อกพิเศษ ช่วยป้องกันการผ่านเข้าออกของก๊าซและไอน้ำได้ โดยใช้แนวคิดการออกแบบแบบองค์รวม ทำให้สะดวกต่อการบรรจุ เปิดง่าย-ปิดสนิท และเปิด-ปิดซ้ำได้ มีความสวยงาม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2. บรรจุภัณฑ์เพื่อการจำหน่ายมะม่วงออนไลน์ ที่สามารถรองรับน้ำหนักผลผลิตได้ 5 ก.ก./กล่อง เรียงซ้อนกันได้ถึง 14 ชั้น เจาะช่องระบายอากาศที่เพียงพอต่อการคายน้ำของผลมะม่วง จึงช่วยลดการสะสมความร้อนและความชื้นภายในกล่อง ช่วยให้ยืดอายุการเก็บได้ นอกจากนี้ยังผลิตจากกระดาษลูกฟูก 5 ชั้น ที่มีการดูดซึมน้ำต่ำ ทำให้กล่องมีความแข็งแรง แม้ว่าจะเก็บในห้องเย็นที่มีความชื้นสูง
3. บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะบ่งชี้ความปลอดภัยปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไย ในรูปแบบฉลากเปลี่ยนสี ที่ใช้ตรวจสอบปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ ที่เหลือตกค้างที่ผิวผลลำไย โดยเมื่อนำแผ่นฉลากไปวางที่ผลลำไย หากมีปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ ต่ำ ฉลากจะยังคงสีน้ำตาลเข้ม แต่ถ้ามีปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ มากสีของฉลากจะค่อย ๆ จางลงจนไม่มีสี แสดงว่ามีสารซัลเฟอร์ฯ เกินมาตรฐานกำหนด นับเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว เข้าใจง่าย เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
ผู้สนใจขอรับบริการโปรดติดต่อได้ที่ ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย วว. (บางเขน) โทร. 0 2579 1121 ต่อ 3101, 3208 หรือ E-mail : TPC-tistr@tistr.or.th
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/942842116181595
กรมอุทยานฯ นำแอพพลิเคชั่น "QueQ" เข้ามาใช้เปิดจองตั๋วล่วงหน้าเข้าท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ เริ่มทดลองระบบวันที่ 25 มิ.ย.นี้
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำแอพพลิเคชั่น "QueQ" เข้ามาใช้เปิดจองตั๋วล่วงหน้าเข้าท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ เริ่มทดลองระบบวันที่ 25 มิถุนายนนี้ เพื่อจำกัดจำนวนคนลดความแออัดในรูปแบบ "New Normal National Park"
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะนำแอพพลิเคชั่นที่เป็นระบบการจองล่วงหน้า "QueQ" เข้ามาใช้ในการเปิดให้จองตั๋วเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ 155 แห่ง โดยเฉพาะนำมาใช้จัดการนักท่องเที่ยว ในการลงทะเบียน เข้า-ออก พื้นที่ การเว้นระยะห่างทางสังคม และความสะอาดของพื้นที่ ที่สำคัญจะระบุชัดเจนว่าอุทยานแห่งชาติใดเปิดหรือปิดบ้าง แล้วสามารถรับนักท่องเที่ยวได้แต่ละแห่งจำนวนกี่คนต่อวัน ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นเดียวกับของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยจะเริ่มทดลองระบบเปิดให้จองในวันที่ 25 มิถุนายน ก่อนจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวในอุทยานแห่งชาติวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ในรูปแบบ "New Normal National Park" ภาพรวมจะเปิดให้จองตั๋วล่วงหน้าก่อนเข้าท่องเที่ยว 15 วัน จากนั้นต้องยืนยันสิทธิ์เข้าท่องเที่ยวใน 6 ช่วงเวลาที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกำหนด ในเบื้องต้นจะใช้ระบบจองตั๋วล่วงหน้าร้อยละ 70 ส่วนอีกร้อยละ 30 ระเปิดให้ซื้อตั๋วหน้าแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ เพื่อป้องกันประชาชนบางส่วนในอาจยังไม่ทราบการเปิดให้จองล่วงหน้าลดความแออัดในแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะใช้ควบคู่กับแอพพลิเคชั่นไทยชนะเพื่อให้สแกนเข้า-ออก ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมเปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติและพื้นที่อื่นๆ อย่าง วนอุทยานและสวนพฤกษศาสตร์ต้องผ่านระบบจองล่วงหน้าจอง เมื่อมีการจองและชำระเงินสำเร็จการเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานจะต้องสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะทุกครั้งที่เข้า-ออกพื้นที่ หากไม่มีโทรศัพท์ต้องทำการบันทึกรายชื่อและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อระบุผู้เข้า-ออก โดยให้ผู้นำชุมชนในพื้นที่มาร่วมทดลองระบบแล้วกลับไปถ่ายทอดให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย
เบื้องต้นเปิดอุทยานแห่งชาติให้ท่องเที่ยวเพียง 127 แห่งก่อน แบ่งเป็น เปิดให้ท่องเที่ยว 100 เปอร์เซ็นต์ 64 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อุทยานแห่งชาติขุนสถาน // เปิดเพียงบางส่วน 63 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง และปิดอุทยานฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ 28 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา- หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี
ที่มา : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/155962319355434
กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย องค์การอนามัยโลกประจําประเทศไทย (WHO Thailand) องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติประจําประเทศไทย (UNICEF) สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการและร่วมกันพัฒนา “คู่มือการปฏิบัติสําหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19”
เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสําหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างต่อเนื่องโดยเน้น ความสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาและเอื้ออํานวยให้เกิดการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้นักเรียนและบุคลากรในสถานศึกษาสามารถดํารงชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย โดยมีสาระสําคัญ ประกอบด้วยองค์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโรคโควิด 19 แนวปฏิบัติสําหรับบุคลากรในสถานศึกษา ได้แก่ ผู้บริหาร เจ้าของสถานศึกษา ครู ผู้ดูแลนักเรียน นักเรียน ผู้ปกครอง และแม่ครัว ผู้จําหน่ายอาหาร ผู้ปฏิบัติงานทําความสะอาด การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมบริเวณต่าง ๆ ของสถานศึกษา มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และสื่อความรอบรู้ด้านสุขภาพนักเรียน ตลอดจนขั้นตอนการดําเนินงานคัดกรองและส่งต่อแบบประเมินตนเองสําหรับสถานศึกษา แบบประเมินตนเองสําหรับนักเรียน แบบบันทึกการตรวจคัดกรองสุขภาพสําหรับนักเรียน การจัดการเรียนการสอนช่วงเปิดภาคเรียน บทเรียนแนวปฏิบัติช่วงเปิดเรียนในต่างประเทศรองรับสถานการณ์ โรคโควิด 19 เป็นต้น
สามารถดาวน์โหลด “คู่มือการปฏิบัติสําหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19” ได้ที่ :
https://multimedia.anamai.moph.go.th/associates/educational-manual-covid19/
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/156287292656270
"หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน
ลดความเสี่ยง และการ์ดไม่ตก
ระลอกสองก็ไม่น่ากลัว"
ถ้าทุกคนช่วยกัน แม้การระบาดจะกลับมาใหม่ แต่ก็เป็นเพียงคลื่นเล็ก ๆ ก็ไม่น่ากังวล การติดเชื้อพลาดแค่วันเดียว หรืออาทิตย์เดียว ก็จะทำให้สิ่งที่เราพยายามทำมาดีแล้วเสียไปทั้งหมด เราต้องยึดมั่นในมาตรการหลัก 5 ประการ และการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ
ที่มา: ถ้อยแถลงของ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/301598004558862
ช่วยคนไทยกลับประเทศ กว่า 39,000 คน
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/301488247903171
แสดงความคิดเห็น
🔰🔰/มาลาริน/ไทยติดเชื้อโควิดมาจากฟิลิปปินส์ 1 ราย 1กค.จ่อผ่อนปรน ผับ บาร์ คาราโอเกะ นักดนตรีอิสระ ร้านเกม อินเทอร์เน็ต
24 มิถุนายน 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้เป็นวันที่ 30 แล้ว ที่ไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทย แต่พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เดินทางกลับมาจากประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเพศชายชาวไทย อาชีพพนักงานร้านอาหาร และเข้าพักที่สถานที่กักกันของรัฐใน กทม. ขณะที่หายป่วยแล้ว 3,026 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,157 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย
https://www.naewna.com/local/501182
ด่วน!!! ศบค.จ่อผ่อนปรนเฟส5 กางร่างข้อปฏิบัติ ‘บาร์’เปิดได้ถึงเที่ยงคืน ‘อาบน้ำ’ไม่ต้องใส่แมส
วันพุธ ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 12.03 น.
24 มิถุนายน 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันตอนหนึ่ง ว่า ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณามาตรการผ่อนคลาย การบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาด โควิด-19 วันนี้ เพื่อพิจารณาการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมที่เหลือในเฟส 5 ประกอบด้วย ผู้ประกอบการผับ บาร์ และคาราโอเกะ รวมถึงนักดนตรีอิสระ ร้านเกม และอาบอบนวดนั้น
ในส่วนของผับ บาร์ และคาราโอเกะ อนุญาตให้เปิดได้ไม่เกินเวลา 24.00 น. หรือเที่ยงคืน ต้องมีระยะยืนนั่ง 1 เมตร จำกัดผู้ใช้บริการที่ 4 ตารางเมตรต่อคน ห้ามร่วมโต๊ะต่อกลุ่มอื่น และปฏิบัติตาม 5 มาตรการหลัก
นอกจากนี้ ระยะห่างของโต๊ะต้องมากกว่า 2 เมตร ถ้าทำไม่ได้ให้ทำฉากกั้น มีระบบหมุนเวียนอากาศที่ดี มีที่เฉพาะสำหรับสูบบุหรี่ ทุกคนที่ไปใช้บริการต้องลงทะเบียน “ไทยชนะ” เข้าออกสถานที่ทุกราย เข้าใช้บริการได้กลุ่มละไม่เกิน 5 คน
“งดกิจกรรมการส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ ไม่มีพนักงานเชียร์เบียร์ งดการเต้นนอกพื้นที่โต๊ะที่นั่ง ที่สำคัญต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมทุกพื้นที่ของร้าน มีข้อมูลบันทึกมากกว่า 1 เดือน”
ขณะที่ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต ต้องดูที่อายุผู้เข้าใช้บริการ โดยแบ่งเข้าได้ 2 ช่วง ขณะที่ห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดได้ไม่จำกัดเวลา จากเดิมจำกัดที่เวลา 21.00 น. โดยเริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม
“ส่วนอาบอบนวด ต้องใส่หน้ากากผ้า ยกเว้นขณะอาบน้ำ เว้นระยะนั่งยืนมากกว่า 1 เมตรยกเว้นขณะอาบน้ำ ทุกคนต้องลงทะเบียน “ไทยชนะ” หรือจดบันทึกแทนได้” (เบื้องต้น)
https://www.naewna.com/local/501186
ครบ 1 เดือนแล้วนะคะที่ไม่มีติดเชื้อกันเองในไทย
แต่ทั่วโลกยังมีติดเชื้อไม่ลดลง
เป็นเรื่องที่ของไทย แต่ต้องไม่ประมาท การ์ดไม่ตกค่ะ
ท่องคำว่าอดทนกันต่อไป จนกว่าจะได้วัคซีนมาช่วยนะคะ
สู้ๆค่ะ...