ฤดูฝนทำให้โควิด-19 ระบาดได้ง่ายขึ้น จริงหรือ??
ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพรำพรำ กบมันก็ร้องงึมงำ ระงมไปทั่วท้องนา.....
อย่าเพิ่งแปลกใจไปว่าทำไมวันนี้พี่หมอเปิดเรื่องด้วยการหยิบยกเนื้อเพลง ‘ฝนเดือนหก’ มานะครับ สาเหตุก็เพราะว่าประเทศไทยของเราเข้าสู่ฤดูฝนแล้วนั่นเอง จริงๆ ก็เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมาแล้วล่ะครับ ถ้านับตามประกาศอย่างเป็นทางการของกรมอุตุนิยมวิทยา นั่นทำให้หลายคนอาจจะเริ่มหวั่นใจกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ถึงแม้ในบ้านเราจะเริ่มไม่น่ากลัวเท่าไหร่แล้ว แต่เราก็ยังต้องไม่ประมาทนะครับ เพราะตราบใดที่ยังไม่มียารักษาโรคและวัคซีน เราก็ยังต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่อยากให้เชื้อกลับมาระบาดซ้ำอีกครั้ง
พี่หมอมีโอกาสได้อ่านงานวิจัยของ ดร.อลัน อีแวนเจลิสตา ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาและไวรัสวิทยา แห่งโรงพยาบาลเด็กเซนต์คริสโตเฟอร์ ในเมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาและไข้หวัดใหญ่มานานหลายปี ในงานวิจัยบอกว่า เมื่อความชื้นเพิ่มมากขึ้น ขนาดของไวรัสก็จะใหญ่ขึ้น และจะลอยออกมาจากร่างกายเข้าสู่อากาศได้อย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่าชื้นในอากาศ มีส่วนทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น
ซึ่งต่อให้ไม่มีโควิด-19 ประเทศไทยก็ต้องเจอกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยถึงเกือบสี่แสนราย เสียชีวิตไป 27 ราย ซึ่งกลุ่มที่เสี่ยงมากที่สุดก็คือ เด็กเล็กและเด็กในวัยเรียน โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการระบาดขึ้นก็คือความชื้นในอากาศและอุณหภูมิที่เย็นลง เพราะจะทำให้ไวรัสมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นนั่นเอง
ฟังดูแล้วอาจจะน่ากลัว แต่เราก็ยังสามารถป้องกันตัวเองจากไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ได้นะครับ ซึ่งวันนี้พี่หมอก็มีคำแนะนำมาฝากกันเช่นเคย
การป้องกันตัวเองจากไข้หวัดใหญ่และโควิด-19
เนื่องจากทั้งสองโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสเหมือนกัน (แต่ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกันนะครับ ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A/H1N1 ในขณะที่โควิด-19 เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า SARS-CoV-2) ดังนั้น วิธีการป้องกันก็สามารถใช้วิธีเดียวกันได้ โดย
1. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดหรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ
2. สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้าน สำหรับหน้ากากผ้า พี่หมอแนะนำให้มีติดกระเป๋าไว้อย่างน้อย 2 ชิ้นนะครับ เผื่อในกรณีที่โดนฝนแล้วหน้ากากชื้นขึ้นมา จะได้เปลี่ยนไปใช้อันใหม่ได้ เพราะหน้ากากที่เปียกชื้นจะไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครับ
3. หลีกเลี่ยงการนำมือมาจับหน้า ตา จมูกและปาก
4. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ในช่วงนี้ขอให้งดพวกของดิบไปก่อนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือไข่ก็ตาม
5. รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร
6. หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัดและไม่มีอากาศถ่ายเท
ซึ่งนอกจากวิธีการต่างๆ ที่พี่หมอบอกเอาไว้ข้างต้นแล้ว สำหรับไข้หวัดใหญ่จะแตกต่างจากโควิด-19 ตรงที่เราสามารถฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ทั้ง 4 สายพันธุ์ ซึ่งควรฉีดเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ยิ่งช่วงนี้เด็กๆใกล้จะเปิดเทอมแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ยิ่งต้องดูแลสุขภาพลูกน้อยให้ดีเลยนะครับ
และไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร เราก็ต้องระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ การ์ดอย่าตกโดยเด็ดขาด เพราะทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 นั้น สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้อย่างง่ายดาย ยิ่งทุกคนช่วยกันป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้มากเท่าไหร่ ก็แน่นอนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดก็จะลดลงตามไปด้วย
ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวันเลยนะครับ ถ้าเปียกฝนขึ้นมาก็ต้องรีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าและทำตัวเองให้อบอุ่นให้เร็วที่สุด จะได้ไม่เป็นหวัดเอาง่ายๆ
ด้วยความห่วงใยจากพี่หมอ ❤ ❤ ❤
ฤดูฝนทำให้โควิด-19 ระบาดได้ง่ายขึ้น จริงหรือ??
ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพรำพรำ กบมันก็ร้องงึมงำ ระงมไปทั่วท้องนา.....
อย่าเพิ่งแปลกใจไปว่าทำไมวันนี้พี่หมอเปิดเรื่องด้วยการหยิบยกเนื้อเพลง ‘ฝนเดือนหก’ มานะครับ สาเหตุก็เพราะว่าประเทศไทยของเราเข้าสู่ฤดูฝนแล้วนั่นเอง จริงๆ ก็เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมาแล้วล่ะครับ ถ้านับตามประกาศอย่างเป็นทางการของกรมอุตุนิยมวิทยา นั่นทำให้หลายคนอาจจะเริ่มหวั่นใจกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ถึงแม้ในบ้านเราจะเริ่มไม่น่ากลัวเท่าไหร่แล้ว แต่เราก็ยังต้องไม่ประมาทนะครับ เพราะตราบใดที่ยังไม่มียารักษาโรคและวัคซีน เราก็ยังต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่อยากให้เชื้อกลับมาระบาดซ้ำอีกครั้ง
พี่หมอมีโอกาสได้อ่านงานวิจัยของ ดร.อลัน อีแวนเจลิสตา ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาและไวรัสวิทยา แห่งโรงพยาบาลเด็กเซนต์คริสโตเฟอร์ ในเมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาและไข้หวัดใหญ่มานานหลายปี ในงานวิจัยบอกว่า เมื่อความชื้นเพิ่มมากขึ้น ขนาดของไวรัสก็จะใหญ่ขึ้น และจะลอยออกมาจากร่างกายเข้าสู่อากาศได้อย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่าชื้นในอากาศ มีส่วนทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น
ซึ่งต่อให้ไม่มีโควิด-19 ประเทศไทยก็ต้องเจอกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยถึงเกือบสี่แสนราย เสียชีวิตไป 27 ราย ซึ่งกลุ่มที่เสี่ยงมากที่สุดก็คือ เด็กเล็กและเด็กในวัยเรียน โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการระบาดขึ้นก็คือความชื้นในอากาศและอุณหภูมิที่เย็นลง เพราะจะทำให้ไวรัสมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นนั่นเอง
ฟังดูแล้วอาจจะน่ากลัว แต่เราก็ยังสามารถป้องกันตัวเองจากไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ได้นะครับ ซึ่งวันนี้พี่หมอก็มีคำแนะนำมาฝากกันเช่นเคย
การป้องกันตัวเองจากไข้หวัดใหญ่และโควิด-19
เนื่องจากทั้งสองโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสเหมือนกัน (แต่ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกันนะครับ ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A/H1N1 ในขณะที่โควิด-19 เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า SARS-CoV-2) ดังนั้น วิธีการป้องกันก็สามารถใช้วิธีเดียวกันได้ โดย
1. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดหรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ
2. สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้าน สำหรับหน้ากากผ้า พี่หมอแนะนำให้มีติดกระเป๋าไว้อย่างน้อย 2 ชิ้นนะครับ เผื่อในกรณีที่โดนฝนแล้วหน้ากากชื้นขึ้นมา จะได้เปลี่ยนไปใช้อันใหม่ได้ เพราะหน้ากากที่เปียกชื้นจะไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครับ
3. หลีกเลี่ยงการนำมือมาจับหน้า ตา จมูกและปาก
4. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ในช่วงนี้ขอให้งดพวกของดิบไปก่อนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือไข่ก็ตาม
5. รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร
6. หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัดและไม่มีอากาศถ่ายเท
ซึ่งนอกจากวิธีการต่างๆ ที่พี่หมอบอกเอาไว้ข้างต้นแล้ว สำหรับไข้หวัดใหญ่จะแตกต่างจากโควิด-19 ตรงที่เราสามารถฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ทั้ง 4 สายพันธุ์ ซึ่งควรฉีดเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ยิ่งช่วงนี้เด็กๆใกล้จะเปิดเทอมแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ยิ่งต้องดูแลสุขภาพลูกน้อยให้ดีเลยนะครับ
และไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร เราก็ต้องระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ การ์ดอย่าตกโดยเด็ดขาด เพราะทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 นั้น สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้อย่างง่ายดาย ยิ่งทุกคนช่วยกันป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้มากเท่าไหร่ ก็แน่นอนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดก็จะลดลงตามไปด้วย
ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวันเลยนะครับ ถ้าเปียกฝนขึ้นมาก็ต้องรีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าและทำตัวเองให้อบอุ่นให้เร็วที่สุด จะได้ไม่เป็นหวัดเอาง่ายๆ
ด้วยความห่วงใยจากพี่หมอ ❤ ❤ ❤