ตลาดหุ้นจะเป็นจำเลยในละครไทย ถ้ามีบทคนเป็นหนี้ติดหนี้นอกระบบ เพราะมาเล่นหุ้น อ้างว่าหุ้นตก- ทำให้คนเข้าใจผิดคำว่าตลาดทุน

หากเป็นละครไทย สมัยก่อน   พ่อ แม่  นางเอกติดหนี้หมื่นบาท แสนบาทสมัยนั้น ก็จะเขียนบท

ประมาณว่า โดนโกงที่ดิน  โดนหลอกเซ็นต์สัญญาเงินกู้ในกระดาษเปล่าๆ   แล้ว นายทุนหน้าเลือดมาแก้ไขข้อความเอง

..........

แต่ในสมัยนี้  ละครสมัยใหม่   ในยุคใหม่ ที่มีตลาดหุ้น

และเงินมากขึ้น    สมัยก่อน สิบหมื่น สิบหมื่น ๆ     จะยกขันหมากมาขอ  มันคือเงินแค่แสนบาท

คนสมัยนี้ ทำงานเงินเดือนก็แสนบาทแล้ว   ละครสมัยก่อน ทองบาทละ 400  500 จะหาเงินสิบหมื่น  ยากเย็นเลือดตาแทบกระเด็น

.. .. . 

แต่สมัยนี้  คุยกันเรื่อง โกงเงิน พันล้าน     โอนหุ้น 300 ล้านไปติดคุก ก็จะวางแผนแหกคุก เอา ฮอ มารับ

หรือ โกงเงินสหกรณ์มา หมื่นล้าน ไปฟอก           หรือจะเป็นแนว นางเอก พ่อแม่ถูกโกงยึด บ.ไป เลยตามมาล้างแค้นเอา 

ธุรกิจหมื่นล้านคืน ...

แต่เมื่อใดที่มีละคร แนวๆ ว่า  กู้เงินมาไปลงทุน  ยืมเงินมาใช้เกินตัว   แล้วขาดทุน

ไม่มีเงินใช้หนี้คืน  มักจะโยนว่าเป้นความผิดของตลาดหุ้น

อย่างละครช่วงนี้  พระเอกเล่นหุ้น  กู้เงินมาเล่นหุ้น ขับรถหรู มีคอนโดอยู่ ทั้งที่ตัวเองก็มทีบ้านพ่อแม่อยู่ในทำเลที่ดีมาก แถวริมแม่น้ำ

ในละคร ฉายมาที่จอหุ้น  หุ้นมันตกแค่  8 จุด  ฉายมากราฟ   กราฟมันก็บอกแล้วว่า ไซร์เวย์อยู่    A    B  C
เดี่ยวจะเด้งขึ้นไป ปิดแก็ปข้างบนแล้ว 

  ..  ก้ไม่รู้ละ ว่าคนเขียนบท  คนทำละคร เค้ามองตรงนี้รึป่าว 

เวลาเขียนบทแบบง่ายๆ แบบนี้  ทำให้ตลาดหุ้นดูว่าเป็นจำเลย  ลงทุนแล้วขาดทุน  ติดหนี้ติดสิน

กลายเป็นพอไปฟังคนที่เคยขาดทุนหนักๆจาก ช่วงต้มยำกุ้ง   กลายเป็นกลัวการลงทุน  ในหุ้น  ในตราสารต่างๆ

คิดแต่ว่าฝากเงินแบงค์ ซึ่งดอกเบี้ย   ซึ่งมันน้อยมาก และคงแพ้เงินเฟ้อในระยะยาว

และการสร้างมุมมองที่ผิดการให้ ข้อมูลที่ผิดต่อคนดู

ละครไทย คนไทยดู  คนก็รู้ว่าในไทย     แม้จะบอกว่าคือเรื่องสมมุติ

อย่างละครบางเรื่อง อย่าๆๆอย่าได้ทำอีก  เช่น สวรรค์เบี่ยง    จำเลยรัก

สวรรค์เบี่ยง พระเอกรวยเวอร์ๆ  พอเมา ก็ข่มขืนนางเอกฉีกเสื้อโยนทิ้ง  แต่สุดท้าย นางเอกก็แต่งงานกับพระเอก 

ไม่มีว่าไปแจ้งความ แล้วตำรวจจับพระเอกเข้าคุก กลายเป็นว่าคนรวยทำผิดไม่ติดคุกฝั่งความคิดแบบนี้เข้ามาในสังคมไทย

.. แล้วก็เรื่อง ที่ เอานางเอกไปขังบนเกาะ แล้วผู้หญิงก็รักพระเอก แนวๆนี้ก็ไม่เอาละ

ไมงั้น เดี่ยวเราทำมั้ง จับไปขังบนเกาะ ขังในบ้านเลย    

______________

 ปล. ถ้าย้อนอดีตไปได้ ไม่ต้องบอกให้ทวด เก็บเงินไว้ให้หรอก

ผมคงบอกว่า ให้ซื้อ  scc ตอนมีตลาดหุ้น  และขายก่อนปี 2539  2540 

และ ซื้อหุ้นเดินเรือ ตอน 1 บาท คืน  กับ atc  แล้วขาย มาซื้อ ptt  และซื้อที่ดินที่หัวหินรอขาย กับ ถนนติวานนท์ดักรถไฟใต้ดิน 

  แล้วมา ซื้อ n-park ที่  0"01   ขายเสร็จ เข้า tasco     ไป  aot   ย้ายไป gulf  ขาย 160 แล้วพอต้นปี 2563

ให้เคลียร์หุ้นให้หมดเลย ..       ผมเขียนละครเรื่องใหม่เองเลย

.....  

................ เมื่อไหร่   ดาวจะตกหนักๆ อีกนะ



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่