สวัสดีครับเพื่อนชาว pantip วันนี้เราจะมารีวิวจัดฟันแบบใสครับ คือจะขอบอกก่อนนิดนึงนะครับว่าครั้งนี้ เป็นการรีวิวลง pantip ครั้งแรกของเราเลย ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยนะคับ
มา! เริ่มกันเลย คือเราเคยจัดฟันมาแล้วครั้งนึง แต่ตอนนั้นเป็นการจัดฟันแบบเหล็กครับ พอถอดเหล็กมาตอนแรกก็โอเคอยู่ แต่ด้วยความเกเร ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ ฟันเลยห่างออกตามระเบียบ เซ็งเลยยยย
อันนี้จะเป็นรูปก่อนจะจัดฟันใสนะครับ
เห็นมั้ยยยย ห่างเยอะเลยย และข้างหน้าก็แอบเกนิดนึงT T
ตอนแรกที่คิดจะจัดฟันใหม่ เราก็หาข้อมูลค่อนข้างเยอะ เพราะไม่อยากจัดฟันแบบเหล็กแล้ว ด้วยความที่ตอนนั้นรู้สึกว่าเจ็บบบบบบ และ นานน แล้วก็รู้สึกว่าพอมีเหล็กอยู่ในปากมันเสียบุคลิก ด้วยงานเราที่ต้องเจอกับคนเยอะ ๆ เราเลยหาทางเลือกการจัดฟันแบบอื่น ซึ่งมีเยอะมาก มากจนตาลายเลย 5555 ทั้งจัดแบบดาม่อน และแบบใส จนหาข้อมูลต่าง ๆ นานา แล้วมาลงเอยที่แบบใสครับ
แต่! แต่ๆๆๆๆ มันยังไม่จบ จัดฟันแบบใสมีมากมายหลายแบรนด์มากกก คราวนี้ก็ต้องมาศึกษาหาข้อมูลกันอีกแบบจริงจังมาก ๆ จนได้ไปเจอแบรนด์แบรนด์นึง ชื่อแบรนด์ Crystal Smile ครับ
ที่เราเลือกแบรนด์นี้ ก็เพราะว่าคลินิกที่ทำ เป็นคลินิกที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง และคนรู้จักรอบ ๆ ตัวก็ทำฟันที่นี่เยอะ (ขอไม่บอกชื่อคลินิกละกันนะครับ แต่ถ้าใครอยากทราบ หลังไมค์ได้ครับ) แถมราคาก็ถือว่าคุ้มมาก ถ้าเทียบกับการจัดฟันแบบเหล็กครับ
พอได้ข้อมูลแล้ว ก็โทรไปนัดคิวขอปรึกษาคุณหมอเลยครับ พอได้คิวแล้วเราก็ไปตามนัด คุณหมอใจดีมาก อธิบายขั้นตอนละเอียดเลย
คุณหมอบอกว่าของเราได้จัด Level Moderate คือจะขออธิบายนิดนึงว่า จัดฟันใส Crystal Smile จะมี 2 Level นะครับ แล้วแต่ความยากง่ายของฟันแต่ละคนครับ
แต่ของเราได้เป็น Level Moderate จะใช้เครื่องมือไม่เกิน 20 ชิ้น ราคา 49,000 บาท แถมยังแบ่งจ่ายกับทางคลินิกได้ 5 งวด เรามาคำนวณแล้ว เฉลี่ย 4 เดือนแรกละ 10,000 งวดสุดท้าย 9,000 ซึ่งเราค่อนข้างโอเค
วันที่นัดปรึกษาคุณหมอ คุณหมอจะให้ดูการทำงานของระบบการจัดฟันใส Crystal Smile ทางคอมพิวเตอร์ครับ คุณหมอ จะเป็นคนวางแผนการรักษาให้เรา มีการสแกนฟันเพื่อให้ เราสารถทราบผลการรักษาล่วงหน้าได้ว่า ฟันของเราพอจัดเสร็จ แล้วจะออกมาเป็นยังไง
คุณหมอบอกเคสของเราใช้เวลา 6 เดือน ซึ่ง เราว่ามันเร็วมาก เราเลยตกลงทำที่นี่ครับ
พอเราตกลงจะจัดฟันที่นี่ปุ๊บคุณหมอก็นัดวันมาเคลียร์ช่องปาก อุดฟัน ขูดหินปูน เอ็กซเรย์ พิมพ์ปาก ขั้นตอนพวกนี้เราต้องจ่ายเงินแยกนะครับ แล้วแต่สภาพฟันของเราว่ามีปัญหามากน้อยแค่ไหน
หลังจากนั้นคุณหมอก็จะนัดเราเพื่อนมาคอนเฟิร์มแผนการรักษาอีกที เพราะพอเรายืนยันแล้ว คุณหมอก็จะทำการส่งแผนการรักษาไปยังห้องแลป เพื่อทำการผลิตเครื่องมือจัดฟันใสของเรากันครับ
พอคุณหมอส่งแผนการรักษาของเราไปผลิตเครื่องมือจัดฟันใส Crystal Smile แล้วนั้น เราก็รอประมาณ 2-3 อาทิตย์ และหลังจากนั้นคุณหมอก็จะนัดเราเพื่อใส่เครื่องมือจัดฟันใส Crystal Smile ครับ ตื่นเต้นมาก ๆ
เครื่องมือที่คุณหมอให้มาจะเป็นลักษณะใส ๆ เหมือนรีเทนเนอร์แบบใส คือเราสามารถถอด และใส่ได้เอง ซึ่งตัวเครื่องมืออันนี้คุณหมอบอกให้เราใส่ 22 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเราก็จะถอดเครื่องมืออกแค่ตอนที่กินข้าว กับแปรงฟันเท่านั้น
หน้าตาตัวเครื่องมือจัดฟันใสจะเป็นแบบนี้ครับ
คือจะบอกว่าตอนใส่เครื่องมือนี่ชิลมากครับ สบายปากมาก ๆ ไม่เจ็บเลย ที่สำคัญตัวเครื่องมือจัดฟันนี่ใสจริง ๆ ครับ มองแทบไม่ออกเลยว่ากำลังจัดอยู่ แถมใส่แล้วฟันดูสวยขึ้นด้วย อันนี้ชอบมาก ๆ เลยครับ
และนี่คือออออออ ฟันที่จัดเสร็จแล้วนะครับ แต่ ระหว่างจัดเราไม่ได้ค่อยถ่ายรูปเก็บไว้เลย TT สังเกตว่าฟันข้างหน้าที่เก กับห่าง ก็เข้าที่แล้ว ฟันสวยแล้วครับ!
สรุปก็คือเราว่าจัดฟันแบบใสเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากจัดฟัน แต่ไม่อยากใส่เหล็กจัดฟันมาก ๆ เลยนะครับ เพราะ มันสะดวก ถอดได้ตอนกินอาหาร จัดฟันเสร็จเร็ว แถมยังไม่เจ็บอีกด้วย โดยภาพรวมคือพอใจผลการจัดฟันใสในครั้งนี้มาก ๆ ครับ
จบการรีวิวแล้วครับผม แล้วมาพบกันในการรีวิวครั้งต่อไปนะคร้าบบบ
[CR] รีวิวการจัดฟันแบบใส Crystal Smile
มา! เริ่มกันเลย คือเราเคยจัดฟันมาแล้วครั้งนึง แต่ตอนนั้นเป็นการจัดฟันแบบเหล็กครับ พอถอดเหล็กมาตอนแรกก็โอเคอยู่ แต่ด้วยความเกเร ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ ฟันเลยห่างออกตามระเบียบ เซ็งเลยยยย
อันนี้จะเป็นรูปก่อนจะจัดฟันใสนะครับ
เห็นมั้ยยยย ห่างเยอะเลยย และข้างหน้าก็แอบเกนิดนึงT T
ตอนแรกที่คิดจะจัดฟันใหม่ เราก็หาข้อมูลค่อนข้างเยอะ เพราะไม่อยากจัดฟันแบบเหล็กแล้ว ด้วยความที่ตอนนั้นรู้สึกว่าเจ็บบบบบบ และ นานน แล้วก็รู้สึกว่าพอมีเหล็กอยู่ในปากมันเสียบุคลิก ด้วยงานเราที่ต้องเจอกับคนเยอะ ๆ เราเลยหาทางเลือกการจัดฟันแบบอื่น ซึ่งมีเยอะมาก มากจนตาลายเลย 5555 ทั้งจัดแบบดาม่อน และแบบใส จนหาข้อมูลต่าง ๆ นานา แล้วมาลงเอยที่แบบใสครับ
แต่! แต่ๆๆๆๆ มันยังไม่จบ จัดฟันแบบใสมีมากมายหลายแบรนด์มากกก คราวนี้ก็ต้องมาศึกษาหาข้อมูลกันอีกแบบจริงจังมาก ๆ จนได้ไปเจอแบรนด์แบรนด์นึง ชื่อแบรนด์ Crystal Smile ครับ
ที่เราเลือกแบรนด์นี้ ก็เพราะว่าคลินิกที่ทำ เป็นคลินิกที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง และคนรู้จักรอบ ๆ ตัวก็ทำฟันที่นี่เยอะ (ขอไม่บอกชื่อคลินิกละกันนะครับ แต่ถ้าใครอยากทราบ หลังไมค์ได้ครับ) แถมราคาก็ถือว่าคุ้มมาก ถ้าเทียบกับการจัดฟันแบบเหล็กครับ
พอได้ข้อมูลแล้ว ก็โทรไปนัดคิวขอปรึกษาคุณหมอเลยครับ พอได้คิวแล้วเราก็ไปตามนัด คุณหมอใจดีมาก อธิบายขั้นตอนละเอียดเลย
คุณหมอบอกว่าของเราได้จัด Level Moderate คือจะขออธิบายนิดนึงว่า จัดฟันใส Crystal Smile จะมี 2 Level นะครับ แล้วแต่ความยากง่ายของฟันแต่ละคนครับ
แต่ของเราได้เป็น Level Moderate จะใช้เครื่องมือไม่เกิน 20 ชิ้น ราคา 49,000 บาท แถมยังแบ่งจ่ายกับทางคลินิกได้ 5 งวด เรามาคำนวณแล้ว เฉลี่ย 4 เดือนแรกละ 10,000 งวดสุดท้าย 9,000 ซึ่งเราค่อนข้างโอเค
วันที่นัดปรึกษาคุณหมอ คุณหมอจะให้ดูการทำงานของระบบการจัดฟันใส Crystal Smile ทางคอมพิวเตอร์ครับ คุณหมอ จะเป็นคนวางแผนการรักษาให้เรา มีการสแกนฟันเพื่อให้ เราสารถทราบผลการรักษาล่วงหน้าได้ว่า ฟันของเราพอจัดเสร็จ แล้วจะออกมาเป็นยังไง
คุณหมอบอกเคสของเราใช้เวลา 6 เดือน ซึ่ง เราว่ามันเร็วมาก เราเลยตกลงทำที่นี่ครับ
พอเราตกลงจะจัดฟันที่นี่ปุ๊บคุณหมอก็นัดวันมาเคลียร์ช่องปาก อุดฟัน ขูดหินปูน เอ็กซเรย์ พิมพ์ปาก ขั้นตอนพวกนี้เราต้องจ่ายเงินแยกนะครับ แล้วแต่สภาพฟันของเราว่ามีปัญหามากน้อยแค่ไหน
หลังจากนั้นคุณหมอก็จะนัดเราเพื่อนมาคอนเฟิร์มแผนการรักษาอีกที เพราะพอเรายืนยันแล้ว คุณหมอก็จะทำการส่งแผนการรักษาไปยังห้องแลป เพื่อทำการผลิตเครื่องมือจัดฟันใสของเรากันครับ
พอคุณหมอส่งแผนการรักษาของเราไปผลิตเครื่องมือจัดฟันใส Crystal Smile แล้วนั้น เราก็รอประมาณ 2-3 อาทิตย์ และหลังจากนั้นคุณหมอก็จะนัดเราเพื่อใส่เครื่องมือจัดฟันใส Crystal Smile ครับ ตื่นเต้นมาก ๆ
เครื่องมือที่คุณหมอให้มาจะเป็นลักษณะใส ๆ เหมือนรีเทนเนอร์แบบใส คือเราสามารถถอด และใส่ได้เอง ซึ่งตัวเครื่องมืออันนี้คุณหมอบอกให้เราใส่ 22 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเราก็จะถอดเครื่องมืออกแค่ตอนที่กินข้าว กับแปรงฟันเท่านั้น
หน้าตาตัวเครื่องมือจัดฟันใสจะเป็นแบบนี้ครับ
คือจะบอกว่าตอนใส่เครื่องมือนี่ชิลมากครับ สบายปากมาก ๆ ไม่เจ็บเลย ที่สำคัญตัวเครื่องมือจัดฟันนี่ใสจริง ๆ ครับ มองแทบไม่ออกเลยว่ากำลังจัดอยู่ แถมใส่แล้วฟันดูสวยขึ้นด้วย อันนี้ชอบมาก ๆ เลยครับ
และนี่คือออออออ ฟันที่จัดเสร็จแล้วนะครับ แต่ ระหว่างจัดเราไม่ได้ค่อยถ่ายรูปเก็บไว้เลย TT สังเกตว่าฟันข้างหน้าที่เก กับห่าง ก็เข้าที่แล้ว ฟันสวยแล้วครับ!
สรุปก็คือเราว่าจัดฟันแบบใสเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากจัดฟัน แต่ไม่อยากใส่เหล็กจัดฟันมาก ๆ เลยนะครับ เพราะ มันสะดวก ถอดได้ตอนกินอาหาร จัดฟันเสร็จเร็ว แถมยังไม่เจ็บอีกด้วย โดยภาพรวมคือพอใจผลการจัดฟันใสในครั้งนี้มาก ๆ ครับ
จบการรีวิวแล้วครับผม แล้วมาพบกันในการรีวิวครั้งต่อไปนะคร้าบบบ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้