โค้งสุดท้ายของกองทุน SSF พิเศษ..!! fund flow กำลังจะมา..!! !! !! !!

กระทู้สนทนา
เอาข้อมูลมาฝากเล็กๆน้อยๆ
...
...

ประโยชน์ของ SSF พิเศษ
ผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนใน “SSF พิเศษ” มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เพิ่มขึ้นอีก 2 แสนบาท ซึ่งสิทธิ์ลดหย่อนนี้แยกจากวงเงินลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน RMF และ SSF ปกติ แต่มีข้อแม้ว่าต้องซื้อระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย. 63 และถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี
สมมติว่านาย A ลงทุนในกองทุน SSF ปกติครบวงเงิน 2 แสนบาทแล้ว ก็ยังสามารถซื้อกองทุน SSF พิเศษเพิ่มเติมได้อีกไม่เกิน 2 แสนบาท เท่ากับว่านาย A มีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับปี 2563 สูงสุดถึง 4 แสนบาท
กองทุน SSF พิเศษนี้ ยังส่งผลถึงนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากนโยบายระบุว่าต้องลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% หมายความว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งจากกลุ่มนักลงทุนที่เรียกว่า “นักลงทุนกลุ่มสถาบัน” เข้ามาช่วยหนุนซื้อหุ้นไทย ซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะมีส่วนช่วยทำให้ราคาของ “หุ้นพื้นฐานดี” จะไม่ดิ่งลงจนน่าตกใจเหมือนช่วงก่อนหน้านี้
https://www.krungsri.com/bank/th/plearn-plearn/ssf-ssfx.html

มาถึงตรงนี้ บางคนอาจอยากรู้ต่อไปอีกว่า แล้วถ้าเทียบระหว่างการซื้อ SSF กับการลงทุน RMF ล่ะ ควรจะลงทุนอะไรดีกว่ากัน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ แนะนำว่า ประเด็นนี้ให้นักลงทุนโฟกัสไปที่ “วัตถุประสงค์และความต่อเนื่อง” ของการลงทุนเป็นหลัก
เน้นการออมแต่ไม่ต่อเนื่อง : ให้เลือก SSF เพราะจะช่วยให้คุณสามารถเก็บเงินระยะยาวได้ตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป แต่ไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี สามารถเลือกลงทุนในปีที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนได้
เน้นลงทุนต่อเนื่องเพื่อการเกษียณ : ให้เลือก RMF เพราะมีนโยบายกองทุนให้เลือกอย่างหลากหลาย ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้สำหรับบริหารความเสี่ยงให้ตรงกับสไตล์ของแต่ละคนได้ และต้องลงทุนต่อเนื่องเพื่อเก็บออมเป็นเงินก้อนโตไว้ใช้ยามเกษียณได้ด้วย
ข้อมูลทั้งหมดนี้ น่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นแล้วว่า ควรลงทุน SSF หรือไม่…และ SSF แบบไหนที่เหมาะกับคุณ
TISCO Advisory
ที่มา : https://www.tisco.co.th/th/advisory/ssf-vs-ssfx.html





แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่