เว็บไซต์มีความสำคัญและมีบทบาทขึ้นเรื่อยๆ ต่อทุกธุรกิจ เพราะเป็นสื่อออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและตลอดเวลาเพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันการทำเว็บไซต์ง่ายขึ้นเพราะมีตัวช่วยต่างๆ เช่น Wordpress และ Joomla เป็นต้น เว็บไซต์จำเป็นต้องโหลดไวเพราะมีผลต่อความประทับใจในการใช้งานและมีผลต่อการจัดอันดับของ Google การทำให้เว็บไซต์โหลดไวไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่ต้องอาศัยประสบการณ์และเทคนิก วิธีการทำให้เว็บไซต์เร็วขึ้นผมรวบรวมมาให้แล้วซึ่งมีดังนี้
1. ไม่ควรใช้รูปที่ละเอียดหรือใหญ่เกินไปสำหรับเว็บไซต์เพราะเกินความจำเป็น ควรใช้ Jpg มากกว่า Png เพราะมีขนาดไฟล์ที่เล็กกว่า จริงๆ มี format ที่บีบอัดได้ดีกว่า Jpg อีกชื่อ WebP ซึ่งพัฒนาโดย google สมัยนี้ web browser รองรับ WebP กันหมดแล้วจึงไม่ใช่ปัญหาอะไร ปัจจุบันมีเว็บมากมายที่ใช้แปลงไฟล์เป็น format WebP เช่น
https://ezgif.com/webp-maker
2. เราสามารถเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ด้วยเทคนิก Lazy Loading หรือการโหลดแบบขี้เกียต โดยโหลด asset ต่างๆ เฉพาะที่ผู้ใช้งานมองเห็นหรืออยู่ใน view port เท่านั้น เป็นเทคนิกที่ทำไม่ยากแต่ได้ผลดีพอสมควร แนะนำให้ใช้ Javascript library Lazy Load หรือ Lazysizes
3. อะไรบน website ที่แปลงเป็น css ได้ควรทำอย่างยิ่ง เช่นรูปหรือปุ่มต่างๆ เพราะ css มีขนาดเล็กกว่า จึงทำให้โหลดไวกว่าพวกรูปภาพ
4. สมัยนี้เว็บไซต์ต่างๆ มี video มากขึ้น ผู้พัฒนาเว็บควรใช้รูป mp4 แทน mp3 หรือ format อื่นๆ เนื่องจากมีขนาดเล็กกว่า ทำให้ประหยัดแบนวิทของ
โฮสติ้งไปได้พอสมควร อีกทั้งยังทำให้เว็บโหลดไวขึ้นด้วย หากไม่ถนัดใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อบีบอัดข้อมูล เราสามารถใช้บริการบีบอัดไฟล์ mp4 ผ่านเว็บไซต์ได้เลยเช่น
https://www.ps2pdf.com/compress-mp4
5. เราสามารถย่อขนาด html, css, และ js เพื่อบีบอัดข้อมูลในการโหลดไฟล์ โดยใช้บริการบีบอัดไฟล์ผ่าน website ดังนี้
บีบอัด css =>
https://cssminifier.com/
บีบอัด js => =>
https://javascript-minifier.com/
บีบอัด html =>
https://www.willpeavy.com/tools/minifier/
6. นอกจากนี้ความเร็วของเว็บไซต์ยังขึ้นกับ
hosting ที่ใช้บริการ เพราะคุณภาพของ server และ network มีผลต่อความเร็วในการโหลดเว็บไซต์และข้อมูลต่างๆ นั่นเอง ดังนั้นคุณควรเลือก
web hosting ที่มีคุณภาพ เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
เครดิต :
สรุปวิธีต่างๆ ที่ทำให้เว็บไซต์โหลดไวขึ้น
รวมเทคนิกเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์
1. ไม่ควรใช้รูปที่ละเอียดหรือใหญ่เกินไปสำหรับเว็บไซต์เพราะเกินความจำเป็น ควรใช้ Jpg มากกว่า Png เพราะมีขนาดไฟล์ที่เล็กกว่า จริงๆ มี format ที่บีบอัดได้ดีกว่า Jpg อีกชื่อ WebP ซึ่งพัฒนาโดย google สมัยนี้ web browser รองรับ WebP กันหมดแล้วจึงไม่ใช่ปัญหาอะไร ปัจจุบันมีเว็บมากมายที่ใช้แปลงไฟล์เป็น format WebP เช่น https://ezgif.com/webp-maker
2. เราสามารถเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ด้วยเทคนิก Lazy Loading หรือการโหลดแบบขี้เกียต โดยโหลด asset ต่างๆ เฉพาะที่ผู้ใช้งานมองเห็นหรืออยู่ใน view port เท่านั้น เป็นเทคนิกที่ทำไม่ยากแต่ได้ผลดีพอสมควร แนะนำให้ใช้ Javascript library Lazy Load หรือ Lazysizes
3. อะไรบน website ที่แปลงเป็น css ได้ควรทำอย่างยิ่ง เช่นรูปหรือปุ่มต่างๆ เพราะ css มีขนาดเล็กกว่า จึงทำให้โหลดไวกว่าพวกรูปภาพ
4. สมัยนี้เว็บไซต์ต่างๆ มี video มากขึ้น ผู้พัฒนาเว็บควรใช้รูป mp4 แทน mp3 หรือ format อื่นๆ เนื่องจากมีขนาดเล็กกว่า ทำให้ประหยัดแบนวิทของโฮสติ้งไปได้พอสมควร อีกทั้งยังทำให้เว็บโหลดไวขึ้นด้วย หากไม่ถนัดใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อบีบอัดข้อมูล เราสามารถใช้บริการบีบอัดไฟล์ mp4 ผ่านเว็บไซต์ได้เลยเช่น https://www.ps2pdf.com/compress-mp4
5. เราสามารถย่อขนาด html, css, และ js เพื่อบีบอัดข้อมูลในการโหลดไฟล์ โดยใช้บริการบีบอัดไฟล์ผ่าน website ดังนี้
บีบอัด css => https://cssminifier.com/
บีบอัด js => => https://javascript-minifier.com/
บีบอัด html => https://www.willpeavy.com/tools/minifier/
6. นอกจากนี้ความเร็วของเว็บไซต์ยังขึ้นกับ hosting ที่ใช้บริการ เพราะคุณภาพของ server และ network มีผลต่อความเร็วในการโหลดเว็บไซต์และข้อมูลต่างๆ นั่นเอง ดังนั้นคุณควรเลือก web hosting ที่มีคุณภาพ เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
เครดิต : สรุปวิธีต่างๆ ที่ทำให้เว็บไซต์โหลดไวขึ้น