❌
ต่อให้ครีมแพงแค่ไหนก็ช่วยเรื่องยกกระชับผิวไม่ได้ ❌
เพราะสาเหตุของความหย่อนคล้อย #ไม่ได้เกิดที่เฉพาะชั้นผิวเท่านั้น!!
แต่เวลาที่เราอายุเพิ่มขึ้น ใบหน้าจะมีการเปลี่ยนถึง 5 ชั้น!!
ได้แก่ ผิว, ไขมัน, กล้ามเนื้อ+SMAS, เส้นเอ็นที่ยึดชั้นต่างๆของผิวเข้ากับกระดูก และชั้นกระดูก (ดูรูปประกอบเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ)
ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีครีมชนิดใดเลยที่สามารถช่วยยกกระชับผิวได้
เพราะครีมดูแลได้เฉพาะผิวชั้นบน แต่ไม่สามารถซึมลงสู่ผิวชั้นล่างๆได้เลย
ถึงแม้ว่าการทาครีมบำรุง กันแดด หรือทาเรตินเอ อย่างต่อเนื่อง
จะสามารถช่วยให้ผิวแก่ช้าลงได้จริง แต่ก็ยังไม่สามารถหวังผลในเรื่องของการยกกระชับผิวได้
แต่ถ้าอยากให้ผิวหน้า firm กระชับ กรอบหน้าดูเป๊ะ ก็สามารถทำได้
อาจจะเลือกแค่วิธีเดียว หรือ ใช้หลายวิธีร่วมกันก็ได้
ขึ้นอยู่กับระดับความคล้อย คุณภาพผิว อายุ ความคาดหวัง และงบประมาณ
=============================
3 วิธีที่ช่วยยกกระชับผิว แบบไม่ผ่าตัด
=============================
1.1 การใช้เครื่องยกกระชับผิวแบบไม่ผ่าตัด
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคลื่นเสียง ultrasound เช่น ulthera, HIFU
หรือกลุ่มคลื่นวิทยุ (RF) เช่น thermage
ซึ่งหลักการ คือ ทำให้เกิดความร้อนใต้ชั้นผิว อาจลงถึงชั้นไขมันหรือชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS)
ที่หมอผ่าตัดเข้าไปจัดการตอนผ่าตัดดึงหน้า ช่วยให้เกิดการสร้างและจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับมากขึ้น
แต่การใช้เครื่องมือแบบไม่ผ่าตัด ยังไม่สามารถทำให้หน้าตึงได้มากเทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า
ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่อายุไม่มาก ผิวยังหย่อนคล้อยไม่มากจนเกินไป
ส่วนวิธีการผ่าตัดดึงหน้า
เหมาะกับคนที่มีอายุมาก เช่น 50-60 ปีขึ้นไป หรือผิวหย่อนคล้อยมาก ผิวขาดความยืดหยุ่น ควรปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่ง (Plastic surgeon) ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อประเมินก่อนตัดสินใจผ่าตัดค่ะ
ผลลัพธ์ของ Ulthera หรือ Thermage อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
ส่วน HIFU จะอยู่ได้หลายเดือนแต่มักจะไม่ถึง 1 ปีค่ะ
💕
อ่านเรื่อง Ulthera vs Thermage เพิ่มเติมได้ที่
https://bit.ly/3fvGS8g
1.2
การฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าและคอ หรือ microbotox
เพื่อให้ผิวตึงและยกขึ้น (Lifting) และ คลายกล้ามเนื้อมัดที่ดึงใบหน้าให้คล้อยลง
เช่น กล้ามเนื้อ Plastyma
วิธีนี้เหมาะกับคนที่ผิวหน้ายังคล้อยไม่มาก ผิวหนังยังมีความยืดหยุ่นดีอยู่
หรือคนที่ต้องการให้กรอบหน้าดูเป๊ะขึ้นหรือชอบหน้าเรียวแบบ V shape มักทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม
หรือจะฉีดตรงริ้วรอยต่างๆ ช่วยให้หน้าเด็กลงได้
ผลลัพธ์ของ Microbotox/ Botox lift อยู่ได้ไม่นาน ประมาณ 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนยูนิตที่ใช้ และเทคนิคการฉีด
ส่วนโบกราม อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน โบลดริ้วรอยอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ตัวยาจะค่อยสลายและหมดฤทธิ์ไปได้เองช้าๆ
1.3
การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า
โดยหมอจะเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติในการใช้ฉีดปรับโครงหน้า จะเลือกจากอายุ คุณภาพผิว ความหนาหรือบางของชั้นผิว
และโครงหน้าของคนไข้แต่ละเคสด้วย เช่น เติมตรงชั้นกระดูกส่วนที่ยุบตัวลงหรือทรุดไป ปรับให้ใบหน้าเรียวขึ้น ใช้ยกกระชับโครงหน้า
สร้างมิติให้กับใบหน้า ปรับแต่งสัดส่วนที่สวยงามให้กับใบหน้าก็ได้
ผลลัพธ์ของการเติมฟิลเลอร์จะแตกต่างกัน ขึ้นกันชนิดของฟิลเลอร์และเทคนิคการฉีด
สำหรับการฉีดเพื่อปรับรูปหน้า มักอยู่ได้นาน 6-24 เดือน
คำถามที่พบบ่อย?
1️⃣
ต้องรอให้อายุเยอะๆหรือผิวหย่อนคล้อยมากๆก่อน ค่อยทำทีเดียวจะได้คุ้มๆ?
ตอบ ไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดความหย่อนคล้อยมากก่อนค่อยมาทำ เพราะถ้าผิวคล้อยมาก หรืออายุมากเกินไป
การใช้ 3 วิธีดังกล่าวอาจจะไม่ได้ผลดี อาจจะต้องไปดึงหน้าเลย
ดังนั้นการเริ่มทำตั้งแต่อายุยังไม่มากเกินไป เช่น 25-30 ปีขึ้นไป จะช่วยชะลอให้ผิวแก่ช้า และคุณภาพผิวดี
เมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกันที่ไม่ได้ดูแลตัวเอง
2️⃣
ถ้าทำ Uthera/ HIFU/ Thermage/ Botox/ Filler แต่ไม่ทำต่อเนื่อง หน้าจะแย่กว่าเดิม?
ตอบ หน้าจะไม่แย่กว่าเดิม ถึงแม้ว่าผลที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์มาช่วยให้ผิวกระชับขึ้นจะอยู่ชั่วคราว
แต่ถ้าไม่ได้ทำต่อเนื่อง ผิวก็จะเป็นไปตามวัยค่ะ เปรียบเทียบกับการออกกำลังกาย ถ้าช่วงที่เราออกอย่างต่อเนื่อง
สุขภาพเราก็ดีขึ้น ถึงจะออกไม่ต่อเนื่องก็ดีกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายเลย ที่สำคัญอย่าลืมว่าเราทุกคนแก่ลงทุกวันอยู่แล้วค่ะ
3️⃣
ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ แล้วจะหน้าแปลก หน้าเบี้ยว?
ตอบ ไม่ทำให้หน้าตาแปลกไป ถ้าเลือกฉีดในจุดที่เหมาะสมและฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง
จะทำให้ใบหน้าดูสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
4️⃣
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ต้องไปขูดออก หรือไหลย้อย?
ตอบ ถ้าเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่าน อย ไทย เลือกชนิดฟิลเลอร์อย่างเหมาะสมและฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง
ไม่ทำให้เป็นก้อน หรือไหลย้อย ปัญหาที่เป็นก้อนหรือไหลย้อยต้องไปขูดออก มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม
หรือ ซิลิโคนเหลว หรือฉีดผิดชั้น เช่น ฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
5️⃣
ทำไมราคาแต่ละที่ถึงต่างกัน?
ตอบ ราคาแตกต่างกันตามสถานที่ให้บริการ อาจจะขึ้นกับต้นทุนต่างๆ ด้วย หมอแนะนำว่าอย่าเลือกจากราคาถูกที่สุดเพียงอย่างเดียว
แต่ควรเลือกคลินิกหรือรพ ที่ได้มาตรฐาน มีความสะอาดปลอดภัย ผู้รักษาเป็นแพทย์จริง
และถ้าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะยิ่งมั่นใจได้ว่าจะสามารถให้คำแนะนำ อธิบาย หรือตอบคำถาม
และให้การดูแลรักษาอย่างปลอดภัย ผลที่ได้ออกมาสวยเป็นที่พอใจ
6️⃣
ถ้างบน้อย อยากขอวิธีดูแลผิวด้วยตัวเอง
หมอแนะนำว่าการทาครีมบำรุง ทากันแดด สม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกฮอล์
ไม่กินน้ำตาลมาก ไม่นอนดึก ไม่โหมงานหนัก ควบคุมน้ำหนักตัวให้ดี ไม่อ้วนหรือผอมมากไป
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ ก็สามารถช่วยชะลอให้ผิวแก่ช้าได้ค่ะ
หมอยุ้ย เพจ Dr.Yui คุยทุกเรื่องผิว
3 วิธีที่ช่วยกระชับผิวหน้า >>ต่อให้ครีมแพงแค่ไหนก็ช่วยยะกระชับผิวไม่ได้<<
เพราะสาเหตุของความหย่อนคล้อย #ไม่ได้เกิดที่เฉพาะชั้นผิวเท่านั้น!!
แต่เวลาที่เราอายุเพิ่มขึ้น ใบหน้าจะมีการเปลี่ยนถึง 5 ชั้น!!
ได้แก่ ผิว, ไขมัน, กล้ามเนื้อ+SMAS, เส้นเอ็นที่ยึดชั้นต่างๆของผิวเข้ากับกระดูก และชั้นกระดูก (ดูรูปประกอบเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ)
ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีครีมชนิดใดเลยที่สามารถช่วยยกกระชับผิวได้
เพราะครีมดูแลได้เฉพาะผิวชั้นบน แต่ไม่สามารถซึมลงสู่ผิวชั้นล่างๆได้เลย
ถึงแม้ว่าการทาครีมบำรุง กันแดด หรือทาเรตินเอ อย่างต่อเนื่อง
จะสามารถช่วยให้ผิวแก่ช้าลงได้จริง แต่ก็ยังไม่สามารถหวังผลในเรื่องของการยกกระชับผิวได้
แต่ถ้าอยากให้ผิวหน้า firm กระชับ กรอบหน้าดูเป๊ะ ก็สามารถทำได้
อาจจะเลือกแค่วิธีเดียว หรือ ใช้หลายวิธีร่วมกันก็ได้
ขึ้นอยู่กับระดับความคล้อย คุณภาพผิว อายุ ความคาดหวัง และงบประมาณ
=============================
3 วิธีที่ช่วยยกกระชับผิว แบบไม่ผ่าตัด
=============================
1.1 การใช้เครื่องยกกระชับผิวแบบไม่ผ่าตัด
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคลื่นเสียง ultrasound เช่น ulthera, HIFU
หรือกลุ่มคลื่นวิทยุ (RF) เช่น thermage
ซึ่งหลักการ คือ ทำให้เกิดความร้อนใต้ชั้นผิว อาจลงถึงชั้นไขมันหรือชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS)
ที่หมอผ่าตัดเข้าไปจัดการตอนผ่าตัดดึงหน้า ช่วยให้เกิดการสร้างและจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับมากขึ้น
แต่การใช้เครื่องมือแบบไม่ผ่าตัด ยังไม่สามารถทำให้หน้าตึงได้มากเทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า
ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่อายุไม่มาก ผิวยังหย่อนคล้อยไม่มากจนเกินไป
ส่วนวิธีการผ่าตัดดึงหน้า
เหมาะกับคนที่มีอายุมาก เช่น 50-60 ปีขึ้นไป หรือผิวหย่อนคล้อยมาก ผิวขาดความยืดหยุ่น ควรปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่ง (Plastic surgeon) ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อประเมินก่อนตัดสินใจผ่าตัดค่ะ
ผลลัพธ์ของ Ulthera หรือ Thermage อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
ส่วน HIFU จะอยู่ได้หลายเดือนแต่มักจะไม่ถึง 1 ปีค่ะ
💕 อ่านเรื่อง Ulthera vs Thermage เพิ่มเติมได้ที่
https://bit.ly/3fvGS8g
1.2 การฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าและคอ หรือ microbotox
เพื่อให้ผิวตึงและยกขึ้น (Lifting) และ คลายกล้ามเนื้อมัดที่ดึงใบหน้าให้คล้อยลง
เช่น กล้ามเนื้อ Plastyma
วิธีนี้เหมาะกับคนที่ผิวหน้ายังคล้อยไม่มาก ผิวหนังยังมีความยืดหยุ่นดีอยู่
หรือคนที่ต้องการให้กรอบหน้าดูเป๊ะขึ้นหรือชอบหน้าเรียวแบบ V shape มักทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม
หรือจะฉีดตรงริ้วรอยต่างๆ ช่วยให้หน้าเด็กลงได้
ผลลัพธ์ของ Microbotox/ Botox lift อยู่ได้ไม่นาน ประมาณ 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนยูนิตที่ใช้ และเทคนิคการฉีด
ส่วนโบกราม อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน โบลดริ้วรอยอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ตัวยาจะค่อยสลายและหมดฤทธิ์ไปได้เองช้าๆ
1.3 การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า
โดยหมอจะเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติในการใช้ฉีดปรับโครงหน้า จะเลือกจากอายุ คุณภาพผิว ความหนาหรือบางของชั้นผิว
และโครงหน้าของคนไข้แต่ละเคสด้วย เช่น เติมตรงชั้นกระดูกส่วนที่ยุบตัวลงหรือทรุดไป ปรับให้ใบหน้าเรียวขึ้น ใช้ยกกระชับโครงหน้า
สร้างมิติให้กับใบหน้า ปรับแต่งสัดส่วนที่สวยงามให้กับใบหน้าก็ได้
ผลลัพธ์ของการเติมฟิลเลอร์จะแตกต่างกัน ขึ้นกันชนิดของฟิลเลอร์และเทคนิคการฉีด
สำหรับการฉีดเพื่อปรับรูปหน้า มักอยู่ได้นาน 6-24 เดือน
คำถามที่พบบ่อย?
1️⃣ ต้องรอให้อายุเยอะๆหรือผิวหย่อนคล้อยมากๆก่อน ค่อยทำทีเดียวจะได้คุ้มๆ?
ตอบ ไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดความหย่อนคล้อยมากก่อนค่อยมาทำ เพราะถ้าผิวคล้อยมาก หรืออายุมากเกินไป
การใช้ 3 วิธีดังกล่าวอาจจะไม่ได้ผลดี อาจจะต้องไปดึงหน้าเลย
ดังนั้นการเริ่มทำตั้งแต่อายุยังไม่มากเกินไป เช่น 25-30 ปีขึ้นไป จะช่วยชะลอให้ผิวแก่ช้า และคุณภาพผิวดี
เมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกันที่ไม่ได้ดูแลตัวเอง
2️⃣ ถ้าทำ Uthera/ HIFU/ Thermage/ Botox/ Filler แต่ไม่ทำต่อเนื่อง หน้าจะแย่กว่าเดิม?
ตอบ หน้าจะไม่แย่กว่าเดิม ถึงแม้ว่าผลที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์มาช่วยให้ผิวกระชับขึ้นจะอยู่ชั่วคราว
แต่ถ้าไม่ได้ทำต่อเนื่อง ผิวก็จะเป็นไปตามวัยค่ะ เปรียบเทียบกับการออกกำลังกาย ถ้าช่วงที่เราออกอย่างต่อเนื่อง
สุขภาพเราก็ดีขึ้น ถึงจะออกไม่ต่อเนื่องก็ดีกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายเลย ที่สำคัญอย่าลืมว่าเราทุกคนแก่ลงทุกวันอยู่แล้วค่ะ
3️⃣ ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ แล้วจะหน้าแปลก หน้าเบี้ยว?
ตอบ ไม่ทำให้หน้าตาแปลกไป ถ้าเลือกฉีดในจุดที่เหมาะสมและฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง
จะทำให้ใบหน้าดูสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
4️⃣ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ต้องไปขูดออก หรือไหลย้อย?
ตอบ ถ้าเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่าน อย ไทย เลือกชนิดฟิลเลอร์อย่างเหมาะสมและฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง
ไม่ทำให้เป็นก้อน หรือไหลย้อย ปัญหาที่เป็นก้อนหรือไหลย้อยต้องไปขูดออก มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม
หรือ ซิลิโคนเหลว หรือฉีดผิดชั้น เช่น ฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
5️⃣ ทำไมราคาแต่ละที่ถึงต่างกัน?
ตอบ ราคาแตกต่างกันตามสถานที่ให้บริการ อาจจะขึ้นกับต้นทุนต่างๆ ด้วย หมอแนะนำว่าอย่าเลือกจากราคาถูกที่สุดเพียงอย่างเดียว
แต่ควรเลือกคลินิกหรือรพ ที่ได้มาตรฐาน มีความสะอาดปลอดภัย ผู้รักษาเป็นแพทย์จริง
และถ้าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะยิ่งมั่นใจได้ว่าจะสามารถให้คำแนะนำ อธิบาย หรือตอบคำถาม
และให้การดูแลรักษาอย่างปลอดภัย ผลที่ได้ออกมาสวยเป็นที่พอใจ
6️⃣ ถ้างบน้อย อยากขอวิธีดูแลผิวด้วยตัวเอง
หมอแนะนำว่าการทาครีมบำรุง ทากันแดด สม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกฮอล์
ไม่กินน้ำตาลมาก ไม่นอนดึก ไม่โหมงานหนัก ควบคุมน้ำหนักตัวให้ดี ไม่อ้วนหรือผอมมากไป
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ ก็สามารถช่วยชะลอให้ผิวแก่ช้าได้ค่ะ
หมอยุ้ย เพจ Dr.Yui คุยทุกเรื่องผิว