เรื่องมีอยู่ว่าผมเป็น นศ ชั้น ปวส ที่ได้เข้าอยู่ในช่วงฝึกงานกับโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่เเห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี
ซึ่งมี นศ ที่ได้เข้าฝึกงานรุ่นเดียวกันทั้งหมด 40 คนด้วยกัน โดยมีช่วงนึงที่ทางโรงงานได้จัดกิจกรรมให้กับเด็กๆฝึกงาน
ได้ไป "เข้าค่ายธรรมะ" เป็นเวลา 1 อาทติย์ โดยไม่ได้นอนค้างที่วัดๆนึงใน "จังหวัดพระนครศรีอยุธยา"
ในอาทิตย์นั้นได้มีการกวาดลานวัดนั่งสมาธิฟังหลวงพ่อสอนปกติ เวลาว่างก็เล่นอะไรไร้สาระตามประสาวัยรุ่นเอะอะ
โวยวายเสียงดัง จนถึงวันศุกร์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเข้าค่ายธรรมะ ในช่วงเย็นพวกเราก็นัดออกไปกินเหล้าตามร้านกัน
โดยมีไปประมาณ 5 คนไม่เยอะมาก
เมื่อถึงเวลาร้านปิดเพื่อนๆบางคนก็กลับบ้านบ้างหอบ้าง (ส่วนผมนั้นนอนหอเนื่องจากบ้านค่อนข้างไกลจากที่ทำงาน)
ก็เข้ามานอนในหอด้วยความมึนเมา น้ำไม่อาบฟันไม่เเปรงคือตอนนั้นเมามาก ผมเป็นคนนอนเปิดไฟตลอดถ้านอนคนเดียว
เนื่องจากผมเป็นคนกลัวผีเเบบ บ้า มากถึงเเม้ในชีวิตจะไม่เคยได้เจอก็ตาม ทุกครั้งที่นอนหอผมไม่เคยปิดไฟนอน
จนผมฝันว่ามี ผญ คนนึงไม่เห็นหน้าเเต่ ผมสั้นประมาณบ่า เสื้อดำ กางเกงวอมสีดำ เปิดประดูเข้ามาในห้องผม โดย
มุมมองที่ผมเห็นนั้นคือมุมที่ผมนอนบนเตียงนี่เอง เเล้วมองไปที่ประตูห้องซึ่งอยู่ที่ปรายเท้าผม เธอเปิดประตูเข้ามาเเล้ว
มาคร่อมที่ร่างผมเเบบเหมือน ผญ จะตั้งท่าให้ ผช อะครับทำให้ผมเกิดอารมณ์มาก
ในตอนนั้นผมนอนอ้าขาอ้าเเขนอยู่ตามสันดานผู้ชายคือผมพยายามจะเอามือไปโอบร่าง ผญ คนนั้นที่นั่งคร่อมผม
เเต่ในตอนนั้นเองทำให้ผมรู้สึกตัวเเล้วว่าผมตื่นจากฝันเเล้วเเละไม่สามารถขยับเเขนเเละร่างกายได้ นั้นเเหละครับ
โมเม้นที่คำว่าผีอำที่เคยๆฟังคนนู้นเล่าคนนี้เล่ามันเข้ามาในหัวเต็มไปหมด
ฟิลลิ่งตอนนั้นคือเหมือนวิญญาณของเรามันออกจากร่างไปครึ่งนึง รู้ตัวว่าตะโกนไปเเล้วเเต่ปากไม่ขยับ ไม่ได้คิดในใจนะครับ
หลังจากนั้นผมได้ยินเสียงกระซิบที่หูซ้ายผม พอเหล่ตาไปมองมันเป็นเงาดำๆที่อยู่ข้างหูผมเเละบนตัวผมพร้อมกับเสียงร้องคราง
เสียงเเหบๆเเห้งๆ เป็นจังหวะๆ ตอนนั้นสติผมกระเจิงสุดๆ เกิดมา 20 ปีพึ่งเคยรู้ว่าผีอำมันเป็นเเบบนี้
ในใจตอนนั้นคิดถึงเเต่พ่อเเม่ เเล้วก็ท่องนะโมตัสสะเเบบเร็ว 300% เเต่สิ่งที่ผมได้ยินกลับมาข้างหูคือ เสียงเเหบเเห้งเเบบนั้น
พูดว่านะโมตัสสะๆๆๆๆๆเหมือนกัน ไอเชี้ยยยยในสมองกูเเบบเห้ยได้หรอวะ สักพักผมเปลี่ยนเป็นอิติปิโส ชีก็อิติปิโส พร้อมน้ำเสียงเเบบ
เหมือนคนล้อเลียนอะครับเเบบทำเสียง
สูงๆต่ำๆ ตอนนั้นคือขนลุกทั้งตัวย้ำว่าทั้งตัววจริงๆ จนสุดท้ายที่ผมงัดมาใช้คือ
คาถา ชินบัญชร ซึ่งตลอดที่ผมท่องไปไม่มีเสียงท่องตามมาเลย ได้ยินเเต่เสียงครางเหมือนเดิม จนได้ไปครึ่งบท ตัวผมก็เริ่มขยับได้
ตอนนั้นผมนี่เด้งขึ้นมาจากที่นอนมองเวลาดูก็ตี 4 กว่าไม่นอนต่อเเล้วเก็บของกลับบ้านเลย
อาทิตย์ต่อมา...
ผมได้มาเล่าให้เพื่อนๆที่ฝึกงานฟังทุกคน บางคนก็เชื่อ บางคนก็บอกมันคือร่างกายนอนทับเส้น ส่วนเพื่อนสนิทผมถึงมันไม่เคยเจอ
เเละไม่อยากจะเชื่อก็ตามเเต่ก็ต้องเชื่อเพราะคำพูดมันออกจากปากผม เเละผมไม่เคยโกหกมัน
จนมีเพื่อนคนนึงมันชื่อว่า ไอ ปอนด์ ปอนด์มันเป็นคนไม่เชื่อเรื่องนี้เลย มันนอนหอเหมือนกันกับผมเเต่มันนอนกับเพื่อน 3 คน
มันบอกผมว่าผมคิดไปเอง จนถึงวันนึงที่ปอนด์ได้มีโอกาสกลับไปที่วัดๆนั้น เเล้วเรื่องพวกนี้ก็ได้มีคนมาสานต่อจากผม
โดนผีท่องบทสวดมนต์ตาม
ซึ่งมี นศ ที่ได้เข้าฝึกงานรุ่นเดียวกันทั้งหมด 40 คนด้วยกัน โดยมีช่วงนึงที่ทางโรงงานได้จัดกิจกรรมให้กับเด็กๆฝึกงาน
ได้ไป "เข้าค่ายธรรมะ" เป็นเวลา 1 อาทติย์ โดยไม่ได้นอนค้างที่วัดๆนึงใน "จังหวัดพระนครศรีอยุธยา"
ในอาทิตย์นั้นได้มีการกวาดลานวัดนั่งสมาธิฟังหลวงพ่อสอนปกติ เวลาว่างก็เล่นอะไรไร้สาระตามประสาวัยรุ่นเอะอะ
โวยวายเสียงดัง จนถึงวันศุกร์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเข้าค่ายธรรมะ ในช่วงเย็นพวกเราก็นัดออกไปกินเหล้าตามร้านกัน
โดยมีไปประมาณ 5 คนไม่เยอะมาก
เมื่อถึงเวลาร้านปิดเพื่อนๆบางคนก็กลับบ้านบ้างหอบ้าง (ส่วนผมนั้นนอนหอเนื่องจากบ้านค่อนข้างไกลจากที่ทำงาน)
ก็เข้ามานอนในหอด้วยความมึนเมา น้ำไม่อาบฟันไม่เเปรงคือตอนนั้นเมามาก ผมเป็นคนนอนเปิดไฟตลอดถ้านอนคนเดียว
เนื่องจากผมเป็นคนกลัวผีเเบบ บ้า มากถึงเเม้ในชีวิตจะไม่เคยได้เจอก็ตาม ทุกครั้งที่นอนหอผมไม่เคยปิดไฟนอน
จนผมฝันว่ามี ผญ คนนึงไม่เห็นหน้าเเต่ ผมสั้นประมาณบ่า เสื้อดำ กางเกงวอมสีดำ เปิดประดูเข้ามาในห้องผม โดย
มุมมองที่ผมเห็นนั้นคือมุมที่ผมนอนบนเตียงนี่เอง เเล้วมองไปที่ประตูห้องซึ่งอยู่ที่ปรายเท้าผม เธอเปิดประตูเข้ามาเเล้ว
มาคร่อมที่ร่างผมเเบบเหมือน ผญ จะตั้งท่าให้ ผช อะครับทำให้ผมเกิดอารมณ์มาก
ในตอนนั้นผมนอนอ้าขาอ้าเเขนอยู่ตามสันดานผู้ชายคือผมพยายามจะเอามือไปโอบร่าง ผญ คนนั้นที่นั่งคร่อมผม
เเต่ในตอนนั้นเองทำให้ผมรู้สึกตัวเเล้วว่าผมตื่นจากฝันเเล้วเเละไม่สามารถขยับเเขนเเละร่างกายได้ นั้นเเหละครับ
โมเม้นที่คำว่าผีอำที่เคยๆฟังคนนู้นเล่าคนนี้เล่ามันเข้ามาในหัวเต็มไปหมด
ฟิลลิ่งตอนนั้นคือเหมือนวิญญาณของเรามันออกจากร่างไปครึ่งนึง รู้ตัวว่าตะโกนไปเเล้วเเต่ปากไม่ขยับ ไม่ได้คิดในใจนะครับ
หลังจากนั้นผมได้ยินเสียงกระซิบที่หูซ้ายผม พอเหล่ตาไปมองมันเป็นเงาดำๆที่อยู่ข้างหูผมเเละบนตัวผมพร้อมกับเสียงร้องคราง
เสียงเเหบๆเเห้งๆ เป็นจังหวะๆ ตอนนั้นสติผมกระเจิงสุดๆ เกิดมา 20 ปีพึ่งเคยรู้ว่าผีอำมันเป็นเเบบนี้
ในใจตอนนั้นคิดถึงเเต่พ่อเเม่ เเล้วก็ท่องนะโมตัสสะเเบบเร็ว 300% เเต่สิ่งที่ผมได้ยินกลับมาข้างหูคือ เสียงเเหบเเห้งเเบบนั้น
พูดว่านะโมตัสสะๆๆๆๆๆเหมือนกัน ไอเชี้ยยยยในสมองกูเเบบเห้ยได้หรอวะ สักพักผมเปลี่ยนเป็นอิติปิโส ชีก็อิติปิโส พร้อมน้ำเสียงเเบบ
เหมือนคนล้อเลียนอะครับเเบบทำเสียงสูงๆต่ำๆ ตอนนั้นคือขนลุกทั้งตัวย้ำว่าทั้งตัววจริงๆ จนสุดท้ายที่ผมงัดมาใช้คือ
คาถา ชินบัญชร ซึ่งตลอดที่ผมท่องไปไม่มีเสียงท่องตามมาเลย ได้ยินเเต่เสียงครางเหมือนเดิม จนได้ไปครึ่งบท ตัวผมก็เริ่มขยับได้
ตอนนั้นผมนี่เด้งขึ้นมาจากที่นอนมองเวลาดูก็ตี 4 กว่าไม่นอนต่อเเล้วเก็บของกลับบ้านเลย
อาทิตย์ต่อมา...
ผมได้มาเล่าให้เพื่อนๆที่ฝึกงานฟังทุกคน บางคนก็เชื่อ บางคนก็บอกมันคือร่างกายนอนทับเส้น ส่วนเพื่อนสนิทผมถึงมันไม่เคยเจอ
เเละไม่อยากจะเชื่อก็ตามเเต่ก็ต้องเชื่อเพราะคำพูดมันออกจากปากผม เเละผมไม่เคยโกหกมัน
จนมีเพื่อนคนนึงมันชื่อว่า ไอ ปอนด์ ปอนด์มันเป็นคนไม่เชื่อเรื่องนี้เลย มันนอนหอเหมือนกันกับผมเเต่มันนอนกับเพื่อน 3 คน
มันบอกผมว่าผมคิดไปเอง จนถึงวันนึงที่ปอนด์ได้มีโอกาสกลับไปที่วัดๆนั้น เเล้วเรื่องพวกนี้ก็ได้มีคนมาสานต่อจากผม