ระหว่างการกู้เงินมาซื้อที่ดินกับเก็บเงินให้ครบแล้วค่อยซื้ออย่างไหนดีกว่ากัน

ตอนนี้อายุ 30 ปีครับ ปกติผมทำงาน 7 วัน จันทร์-อาทิตย์ (หยุดเฉพาะวันหยุดนักขัตฤกษ์) มีบ้านก็เพียงไว้กลับมานอนตื่นเช้ามาก็ไปทำงานต่อ แต่ช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ Work from Home มีเวลาได้อยู่บ้านมากขึ้น มีเวลาปลูกต้นไม้ ทำสวนเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วรู้สึกว่ามีความสุข พอปลูกต้นไม้เยอะขึ้น ปลูกผักกินเองมากขึ้น ก็รู้สึกว่าพื้นที่ในบ้านมีน้อย (101 ตารางวา) ถ้าเวลาผ่านไปต้นไม้ที่ปลูกอยู่คงจะเต็มพื้นที่รกรุงรังไปอีก เลยรู้สึกว่าอยากได้ที่ดินเพิ่มสัก 1-2 ไร่ที่ไม่ห่างจากบ้านที่อยู่ปัจจุบันมากอาจจะเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร เพื่อไว้ปลูกผักผลไม้ทำสวนนั่นโน่นนี่ มีหนองน้ำเลี้ยงปลา มีบ้านสวนหลังเล็ก ๆ ไว้พักผ่อนบางช่วงเวลาหรือในยามเกษียณ 

ที้นี้ก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า ระหว่างกู้เงินในอัตราร้อยละ 7-8 จากสถาบันการเงิน (สินเชื่ออเนกประสงค์) เพื่อมาซื้อที่ดินด้วยเงินสด แล้วใช้เวลาผ่อน 15 ปี กับการเก็บหอมรอมริบไป 15 ปี แล้วค่อยไปซื้อที่ดินในตอนนั้น อย่างไหนจะคุ้มกว่ากัน อัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับอัตราราคาที่ดินมากน้อยต่างกันแค่ไหน 

ส่วนนี้เป็นเหตุผลที่พยายามหาให้กับตัวเองนะครับ 
  1. ถ้าเก็บเงิน 15 ปีแล้วค่อยซื้อที่ดิน หากเราเป็นอะไรไปในช่วงนี้เราก็จะไม่ได้ที่ดินอย่างที่ตั้งใจไว้ แถมราคาที่ดินขึ้นอีก
  2. ถ้ากู้เงินซื้อที่ดินตอนนี้เรามีที่ดินเป็นของตัวเองแน่ ๆ แต่ดอกเบี้ยเงินกู้คำนวณคร่าว ๆ ก็คิดเป็น 1 เท่าของเงินต้นเลยทีเดียว 

* เหตุผลที่คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 7-8 เพราะคำนวนจากสินเชื่ออเนกประสงค์ครับ เท่าที่ทราบการกู้สินเชื่อระยะยาว (ดอกเบี้ยร้อยละ 2-4) เพื่อซื้อที่ดินเปล่าสถาบันการเงินจะไม่ปล่อยให้กู้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่