[CR] รีวิวแคมป์ที่พักคนงานกิ๊บเก๋แวรี่คูลของ “พี่เธียรกับน้องเมย” @ ลาลามูก้า เขาใหญ่ไม่ต้องไปไกลถึงทวาย

“รีวิวแคมป์ลาลามูก้าเขาใหญ่ ส่วนคห.4 เป็นรีวิวของ The Birder’s Lodge เขาใหญ่จ้า”
หลังจากที่ละครพี่เธียรกับน้องเมยได้จบลงไปแล้ว แต่อารมณ์คนอินละครอย่างเรายังค้างๆอยู่ ยังย้อนไปดูยูทูปช็อตน่ารักๆอยู่หลายครั้ง ละครเรื่องนี้ทำให้อินมากจริงๆ และก็คิดว่าหลายคนก็คงจะเป็นเหมือนจขกทใช่มั๊ยคะ 

เอาล่ะค่ะ วันนี้เราไม่ได้จะมารีวิวละครกัน แต่เราจะมารีวิวแคมป์ที่พักคนงานที่พี่เธียรกับน้องเมยไปพักที่ทวาย(ในเรื่อง)กันนั่นเอง 
ทุกคนคะ ไม่ต้องตกใจกันไปนะคะ เราไม่ได้จะพาทุกคนบินไปพม่า ไม่ต้องไปเตรียมทำพาสปอร์ตเน้อ ที่ต้องเตรียมอย่างเดียวก็คือหารถไปกัน จะขับรถส่วนตัวไปหรือจะเดินทางโดยรถโดยสารก็ได้ฮะ เพราะว่าแคมป์กิ๊บเก๋แวรรี่กู๊ดนั้นอยู่ใกล้แค่ "เขาใหญ่"นี่เองจ้าา

ใช่แว้ววว ทุกคนได้ยินไม่ผิดหรอก "เขาใหญ่" ประเทศไทยแลนด์ที่แหละค่ะ หลายๆคนก็คงไปมาหลายรอบแล้วแต่อาจจะยังไม่เคยแวะเข้าไปพักที่นี่ หรือหลายๆคนก็อาจจะยังไม่เคยไป หรือบางคนก็อาจจะไปตำมาเรียบร้อยแล้ว
เอาเป็นว่าวันนี้เราจะพาทุกคนที่ยังไม่เคยไป ไปเที่ยวด้วยกันนะฮะ แต่จะเจาะเฉพาะที่พัก 2 ที่ที่จขกทได้ไปพักมาก็แล้วกันนะฮะ นั่นก็คือ "ลาลามูก้า เต้นท์รีสอร์ท" และ "The Birder's lodge" 
จริงๆแล้วเราไปพักที่ The Birder's lodge มาก่อนแล้วค่อยมาพักที่ ลาลามูก้า แต่ไม่เป็นไรฮะ ตอนนี้รักพี่เธียรกับน้องเมย เดี๋ยวจะรีวิวที่พักพี่เธียรกับน้องเมยก่อนแล้วกันจ้า

เรื่องเดินทางแนะนำคือขับรถส่วนตัวมาจะสะดวกสุดจ้า เดือนที่เราไปเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว พอดีมีเพื่อนคนจีนสองคนมาเที่ยวไทย นางอยากไปเที่ยวอะไรที่เป็นธรรมชาติที่คนไทยไปเที่ยวกัน ไม่อยากไปสถานที่ท่องเที่ยว เราก็เลยคิดว่าเขาใหญ่น่าจะดีต่อใจของเราและนางสองคน

ว่าแล้วเราก็ขับรถปรี่ไปที่เขาใหญ่กันเล้ยยย ตอนไปบางช่วงฝนจะตกลงมาเปาะแปะให้ชุ่มชื้น แต่ก็ไม่ได้แรงมากพอหายใจคล่องไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป
เราไปที่ถึงที่ลาลามูก้ากันตอนบ่ายๆหลังจากทานอาหารเที่ยงกันเสร็จแล้วก็เข้าไปเช็คอินกันเลยจ่ะ
เพี้ยนแว๊นเพี้ยนออกทริป

แค่ขับรถเข้าไปจอดที่รอดรถก็ประทับใจแล้วอ่ะ ยอมตั้งแต่หน้าประตูเลยค่ะบ่องตง พอเครื่องดับปุ๊ปมีพนักงานเดินออกมาทักทายเลย แล้วเราก็ขนสัมภาระทั้งหมดขึ้นไปโซนล้อบบี้
โซนล้อบบี้ที่นั่งรอกว้างมากกกกก และโปร่งโล่งสบาย เคาน์เตอร์เช็คอินตั้งอยู่ตรงบันได้ทางเดินขึ้นไปที่ล้อบบี้เลย ไปถึงก็โชว์หมายเลขการจองให้พนักงานดู อ๋อลืมบอกไปค่ะว่าที่นี่สามารถจองผ่านแอพจองที่พักดังๆได้เลย สำหรับเราจองที่พักผ่าน "AGODA" จองง่ายมากมีส่วนลดให้ตลอด บางทีได้คะแนนก็เอามาแลกเป็นส่วนลดได้อีก (ฮาร์ดเซลล์ขนาดนี้อะโกด้าต้องเข้าแล้วล่ะ 5555) ล้อเล่นนะคะ เราไม่มี tie in เน้อ แนะนำเพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆ ถ้าใครชอบแอพไหนก็ตามไปจองกันนะจ๊ะ

เราจองไปสามคน ประเภทห้องพักก็คือ Deluxe Tent 1คืนในราคาประมาณ 3500 บาท แต่เนื่องจากเราจะพักสามคน(ซึ่งห้องนั้นก็พักได้) เราก็จ่ายเงินสำหรับคนที่สามเพิ่มอีก 1500บาท โดยราคานี้รวมอาหารเช้าแล้วจ้า
ว่าแล้วก็ไปดูบรรยากาศที่พักรอบๆกันเลยม่ะ 
พอเดินลงมาจากล้อบบี้ปุ๊บก็จะเจอวิวแบบนี้ค่ะทู้กกกกกกคนนนนน
คือวิวแบบนี้ อากาศเย็นๆหลังฝนตกใหม่ๆแบบนี้ มันควรมากับแฟนแมะ? ไซบีเรียนฮัสกี้
ไม่เคยเบื่อเขาเลย เราชอบอยู่กับเขาค่ะhaha
 
หลังจากที่เราเช็คอินและพนักก็จะมาอธิบายเรื่องการใช้คีย์การ์ดแล้วอธิบายแผนที่แค้มป์ให้ฟัง พร้อมกับมอบกระเป๋าสมบัติที่ใส่กุญแจ คีย์การ์ด ยากันยุง และแผนที่มาให้เราเก็บไว้
หลังจากนั้นพนักงานก็พาเราขึ้นรถกอล์ฟ ออกเดินทางจากล้อบบี้ไปเต้นท์ของเรากันค่ะ 
ทำไมต้องนั่งรถกอล์ฟหรอคะ หลายคนคงจะเห็นในละครแล้วเนอะว่ามันกว้างม้วกกกก ถ้าเดินไปแบบงงๆตามแผนที่ พี่ว่าวันแรกคงเล่นเอาหอบเหมือนกัน
พนักงานก็น่ารักใจดี๊ดี ช่วยเราแบกกระเป๋าขึ้นรถแล้วเหยียบคันเร่งไปกันเล้ยยย
ระหว่างทางที่นั่งรถไปจะมีประตูรั้ว เราต้องใช้คีย์การ์ดเข้าออกนาจา ถ้าลืมคีย์การ์ดก็เข้าออกไม่ได้ค่ะ (จำฉากที่น้องเมยแตะคีย์การ์ดเปิดรั้วมารับพี่เธียรวันแรกได้มั๊ยจ๊ะ น่านนนแหละ แบบนั้นเลย! 

อ่อ ลืมบอกไปค่ะว่าเต้นท์ที่นี่มีสามแบบจ่ะ แบบ Eco Safari Tent คิดว่ารูปข้างบนนี่แหละ แบบนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัวจ่ะ จะต้องเดินไปใช้ห้องน้ำรวมที่เขาทำไว้ให้ ก็ไม่ไกลและกว้างพอสมควรจ้าาา

ส่วนอีกแบบคือที่เราพักที่บอกไปข้างต้น Deluxe Tent เดี๋ยวเราจะเปิดโปงให้หมดเปลือกเลย เย้เย้
แบบที่สามเรียกว่า Deluxe Signature Tent แบบนี้จะหรูสุดในบรรดาจระกูลเต้นท์ ก็จะคล้ายๆกับDeluxe Tent แต่กว้างกว่านิดนึงและมีอ่างอาบน้ำ อู้ววว้าวว แต่คิดก้อลังการแล้วชิมิ งั้นต้องลองไปเองแล้วล่ะจ้า (เพราะเราไม่ได้เข้าไป) ฮ่าาๆๆๆ

ส่วนที่พักสุดท้ายของที่นี่คือ  Tree Loft นั่นก็คือห้องพี่เธียรนั่นเอ้งงงงงงง อยู่บนต้นไม้ทำนองนั้นเลย แบบนี้จะเหมาะกับคนที่มากันเป็นครอบครัว ตอนที่เราไปเห็นครอบครัวฝรั่งมาพักมีเบบี๋อีกสองคน แต่ขึ้นลงนี่ก็คงเหนื่อยอยู่นะ 

กลับมาห้องเราดีฝ่า ไปกันค่ะ หลังจากที่สัญญาไปว่าจะมาเปิดโปงให้หมดเปลือก เราก็เข้ามาดูทั้งนอกทั้งในกันเล้ยยย
ด้านนอกเต้นท์ก็จะเป็นแบบนี้จ้า มีโต๊ะเล็กๆกับเก้าอี้ให้นั่งจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันสองคน (ใครที่มาสามคน ก็นั่งพื้นหรือไปอยู่ตรงอื่นนะ) 555
ทะแด้นนนนนนน....... เข้ามาข้างในกันเลยจ้า เหมือนโรงแรมเลย มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกสิ่งอย่าง สบายมากค่ะทู้กคนนนน
ห้องน้ำก็จะเป็นฝักบัว เขามีผ้าเช็ดตัวแยกใช้ในห้องและสระว่ายน้ำ ห้องอาบน้ำก็ไม่อับเลย อ๋อไม่ต้องกลัวโป๊ด้วย
 
มีให้พัดลมเพดานและแอร์เลยจ้าา มีคำเตือนนิสสนุง คนที่ยืนบนเตียงแล้วพัดลมเปิดอยู่ระวังเน้อมันจิสลัดต่อไม่รอละนะ เพื่อนเราเกือบโดนสลัดหัวเฉ้ย นางยืนบนเตียงแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วเผลอเห็นว่า เห้ยย ใบพัดอยู่ใกล้หัวมาก เกือบไปละจ้าา
เขามีหมวกสานไว้ในห้องให้ยืมเป็นพร๊อพถ่ายรูปกร๊บเกร๋ด้วยนะเออ น่ารักฝุดๆ ถูกใจสาวๆแน่นอน
ต่อไปเราก็จะเดินไปที่สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติวิวหลักล้านกันดีฝ่าค่ะ
ฟินมั๊ยค่ะทุกคน เนี๊ยๆๆๆ นอนกลางวันแล้วตื่นขึ้นมาลงสระว่ายน้ำดูวิวแบบนี้ มันจะมีอะไรฟินกว่านี้มั๊ย นอนแช่สระไปยาวๆเลยจ้าาา
หลังจากที่เหนื่อยจากแช่น้ำแล้ว เราก็ไปหาอะไรทานกันที่ห้องอาหารกันค่ะ ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆกับล้อบบี้นั่นเองจ่ะ
เราเดินข้ามสะพานไม้สุดโรแมนซ์กันนะคะ
ข้ามสะพานมาปุ๊บก็จะเห็นวิวล้อบบี้และห้องอาหารเลยจ้า
แข่น้ำก็แล้ว ทานข้าวก็อิ่มแล้ว ก็มาเอนกายกันตรงนี้ได้เลย ฟินสุดในสามโลก
พอตกค่ำก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปกันที่สะพานอีกรอบ อากาศดรมากๆค่ะทุกคน เงียบสงบมาก มองขึ้นไปบนฟ้าก็เห็นดาววิ้งๆ แต่ก็ไม่ได้เห็นชัดมาก เพราะยังมีแสงไฟเหลืองๆอยู่รอบๆเต้นท์ กลางคืนเราถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ไม่ได้ตั้งใจถ่ายมาก เพราะมัวแต่ดื่มด่ำบรรยากาศเองจนอิ่ม กิกิ
ถ้าอยากดูเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูในคลิปวิดิโอนี้ได้นะจ๊ะ

ปอลิง. ทำวิดีโอออกมาแบบเด็กๆมาก อาจจะมีชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ไม่ถือสากันเน้อ (มือใหม่หัดตัดก็งี้) 5555

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ถ้าใครมีเวลาว่างก็หาเวลาไปเที่ยวเล่นพักผ่อนกันบ้างนะจ๊ะ ยิ่งวันธรรมาดาเที่ยวสบายเลย คนไม่เยอะ ขับรถปร๋อเลย (อย่าเหยียบมิดล่ะ)
ขอให้ทุกคนมีแฮปปี้ดี๊ด๊า ทำงานเยอะแล้ว อย่าลืมหาความสุขให้ตัวเองน้า 
haha"Money doesn't help if you can't use to enjoy your life"haha
ส่วนที่พักอีกที่ The Birder's Lodge แปะไว้ก่อนเดี๋ยวมาเปิดโปงบ้านน่ารักๆให้ชมกันนะจ๊ะ
นานาเที่ยวไทยนานาเติมปาก

ชื่อสินค้า:   รีวิวแคมป์“พี่เธียรกับน้องเมย” @ ลาลามูก้า เขาใหญ่
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่