ขอเล่าประสบการณ์ ที่ผมเจอมานะครับ ครอบครัวของผมเคร่งศาสนามากๆ แต่ก่อนก็ไม่ได้เป็นขนาดนี้
เริ่มต้นตั้งแต่แม่ของผมเริ่มเข้าสายธรรมมากขึ้น นั้นทำให้พ่อผมเข้าตามไป แล้วชีวิตผมก็จมอยู่กับคำว่าสวดมนต์ ทำบุญในทุกๆวัน
แต่ก่อนผมปกติกับการสวดมนต์นะ แต่หลังๆหลังจากผมกลับจากนักเรียนต่างประเทศ เหมือนพ่อแม่ผมมีเลเวลที่สูงขึ้น
ทำให้ผมต้องมาสวดมนต์นั่งสมาธิกันเป็น ชั่วโมง-2ชม. โดยยากที่จะหลีกเลี่ยง
มันทำให้คนอย่างผมเริ่มเกลียดการสวดมนต์นั่งสมาธิ มันทำให้ผมรู้สึกอึดอัด ผมต้องมานั่งสวดมนต์ ซึ่งพูดถึงจิตใจผม ไม่สงบเลย
เพราะผมโดนบังคับให้มาสวด ใครมันจะไปenjoy ในสิ่งที่ถูกบังคับให้ทำในทุกๆวันกัน
พ่อผมมักจะพูดว่าสวดมากได้ทำบุญมาก เป็นการทำความดี แต่สำหรับผม ทำความดี ทำที่ไหนก็ได้ ได้บุญเหมือนกัน
ถ้าสวดแบบพอประมาณ 10-15 นาทีผมก็รับได้ แต่นี่มา1-2 ชม. ผมก็มีสิ่งที่ผมต้องทำนะ ทำไมพวกเขาไม่เข้าใจเลย
ผมควรทำไงดีครับ
ปล. ถ้าให้ผมเปิดใจคุย บอกได้เลยผมไม่เคยชนะเขา เขาจะเอาข้ออ้างที่ว่า "สิ่งดีๆที่แนะนำให้ก็ทำไป ทำไมต้องมีข้อแม้ด้วย"
"ถ้าไม่ยอมทำ ก็ไม่ต้องเอาค่าขนม"
ทำไงให้คุยกับพ่อแม่เรื่องศาสนาแล้ว เขาเข้าใจเราครับ กับการสวดมนต์1-2 ชม.ที่มันนานเกินไป
เริ่มต้นตั้งแต่แม่ของผมเริ่มเข้าสายธรรมมากขึ้น นั้นทำให้พ่อผมเข้าตามไป แล้วชีวิตผมก็จมอยู่กับคำว่าสวดมนต์ ทำบุญในทุกๆวัน
แต่ก่อนผมปกติกับการสวดมนต์นะ แต่หลังๆหลังจากผมกลับจากนักเรียนต่างประเทศ เหมือนพ่อแม่ผมมีเลเวลที่สูงขึ้น
ทำให้ผมต้องมาสวดมนต์นั่งสมาธิกันเป็น ชั่วโมง-2ชม. โดยยากที่จะหลีกเลี่ยง
มันทำให้คนอย่างผมเริ่มเกลียดการสวดมนต์นั่งสมาธิ มันทำให้ผมรู้สึกอึดอัด ผมต้องมานั่งสวดมนต์ ซึ่งพูดถึงจิตใจผม ไม่สงบเลย
เพราะผมโดนบังคับให้มาสวด ใครมันจะไปenjoy ในสิ่งที่ถูกบังคับให้ทำในทุกๆวันกัน
พ่อผมมักจะพูดว่าสวดมากได้ทำบุญมาก เป็นการทำความดี แต่สำหรับผม ทำความดี ทำที่ไหนก็ได้ ได้บุญเหมือนกัน
ถ้าสวดแบบพอประมาณ 10-15 นาทีผมก็รับได้ แต่นี่มา1-2 ชม. ผมก็มีสิ่งที่ผมต้องทำนะ ทำไมพวกเขาไม่เข้าใจเลย
ผมควรทำไงดีครับ
ปล. ถ้าให้ผมเปิดใจคุย บอกได้เลยผมไม่เคยชนะเขา เขาจะเอาข้ออ้างที่ว่า "สิ่งดีๆที่แนะนำให้ก็ทำไป ทำไมต้องมีข้อแม้ด้วย"
"ถ้าไม่ยอมทำ ก็ไม่ต้องเอาค่าขนม"